กรุงเทพฯ วันนี้
โควิด-19 ระบาดทั่วโลกต่อเนื่องมากว่าครึ่งปี ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกเกิน 14 ล้านคน และเสียชีวิตไปกว่า 6 แสนคนแล้ว ในขณะที่ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสามพันกว่าคน และเสียชีวิต 58 คน (
ข้อมูล ณ วันที่ 20 ก.ค.63 – อ้างอิงจาก https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/index.php)
รัฐบาลมีมาตรการอย่างเข้มข้นเพื่อสกัดกั้นการระบาด ลดการเดินทาง งดการรวมกลุ่มจำนวนมาก จัดระเบียบความเคยชินให้ผู้คนรับมือกับการระบาดของไวรัสนี้ จนกระทั่งจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงเรื่อยๆ และไทยติดอันดับ 2 ของโลกในด้านการฟื้นตัวจากโควิด-19 จากการจัดอันดับดัชนี Global COVID-19 Index (GCI)
ในที่สุดก็ได้เวลาเปิดเมือง!
เราออกสังเกตการณ์ชีวิตกรุงเทพเช้าจรดค่ำ... โควิด-19 ทำกรุงเทพมหานครซบเซาไปนับเดือนก็จริง แต่วันนี้บรรยากาศในเมืองหลวงยามเช้า ผู้คนส่วนใหญ่เริ่มคุ้นเคยกับวิถีชีวิตปกติใหม่ (New Normal) กันแล้ว
ย่านธุรกิจใจกลางกรุงเทพฯ มีความเคลื่อนไหวด้วยการเดินทางที่หนาแน่นและมีชีวิตชีวา เพราะออฟฟิศ ส่วนใหญ่กลับมาเปิดทำการตามปกติ ผู้คนมีอิสระในการสัญจรในที่สาธารณะตลอด 24 ชั่วโมง
รัฐบาลยังคงวางมาตรการควบคุมความปลอดภัยในด้านสาธารณสุขอย่างเข้มข้น คือก่อนเข้าอาคารทุกแห่งทุกคนต้องผ่านด่านการตรวจวัดอุณหภูมิ ใช้แอพพลิเคชั่นสแกนบาร์โค้ดด้วยมือถือ หรือไม่ก็เซ็นชื่อ เป็นการเช็คอินก่อนเข้าและเช็คเอาท์เมื่อออกจากสถานที่ ที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพื่อให้รู้จำนวนคนว่าจะไม่แออัดเกินไป หรือในกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ใด ก็จะสามารถติดตามหรือส่งข้อความเตือนผู้ที่มีโอกาสรับเชื้อจากการอยู่ร่วมในสถานที่เดียวกันในช่วงเวลานั้น เพื่อให้ไปรับการตรวจและระวังอาการได้
อื่นๆ นอกนั้น ชีวิตประจำวันก็ดำเนินไปอย่างปกติแบบที่เรียกว่า New Normal ทุกคนต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ปิดปากปิดจมูกมิดชิด เพื่อตัวเองและสังคม
ย่านช้อปปิ้งมีชีวิตชีวากว่าหลายเดือนที่ผ่านมา ห้างสรรพสินค้าเปิดตามปกติ สำนักงาน ร้านค้า โรงภาพยนตร์ ร้านนวด ร้านตัดผม สถานออกกำลังกาย ลานกีฬา สวนสาธารณะ เปิดให้บริการแล้ว ทั่วประเทศ และมีการใช้ Social Distancing ซึ่งเป็นวิถีสำคัญแห่งปีไปแล้ว
เจลแอลกอฮอล์ล้างมือก็เป็นอีกหนึ่ง New Normal ที่พบเห็นได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นในร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า แม้แต่ตลาดสด ถ้าลืมพกติดตัวก็มีบริการวางไว้ทุกทางเข้าอาคาร
ตอนนี้ คนไทยคุ้นกับการป้องกันละอองเชื้อโรคด้วยหน้ากากผ้า ช่วยรักษาความปลอดภัยจากการแพร่เชื้อไวรัส ไม่เพียงสวมหน้ากาก และรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลจนเป็นความเคยชิน คนไทยยังใช้ เจลแอลกอฮอล์ล้างมือมากที่สุดในอาเซียนด้วย
หากสถานการณ์รอบตัวยังมีชีวิตชีวาในวิถีปกติใหม่ได้เช่นนี้ มั่นใจว่ากรุงเทพฯ ยังคงเป็นมหานครที่เข้มแข็ง พร้อมรับมือกับไวรัส และกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติได้
ตามไปสำรวจกรุงเทพฯกับเราได้ที่ https://www.facebook.com/watch/?v=1487720428067370 
