สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) ร่วมกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มหาวิทยาลัยมหิดล บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ จำกัด เปิดตัว 20 สตาร์ทอัพ ภายใต้โครงการ SPACE-F รุ่นที่ 4 ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อการบ่มเพาะและเร่งการเติบโตทางธุรกิจเทคโนโลยีอาหารระดับโลกแห่งแรกของประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โครงการ SPACE-F นั้น มุ่งเน้นให้สตาร์ทอัพในธุรกิจเทคโนโลยีอาหารได้พัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรม รองรับกับความท้าทายในปัจจุบันและอนาคตที่ต้องเผชิญในอุตสาหกรรม สตาร์ทอัพที่เข้าร่วมจะได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ โอกาสในการเข้าถึงเครือข่ายและแหล่งเงินทุน เพื่อการเติบโตของธุรกิจ
นอกจากนี้ สตาร์ทอัพทุกทีมที่เข้าร่วมโครงการยังมีโอกาสเข้าใช้สถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล รวมถึงโอกาสในการสร้างผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดร่วมกับ Thai Union Group PCL หนึ่งในผู้ผลิตอาหารทะเลชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ในปีนี้ เรามีสตาร์ทอัพเข้าร่วมโครงการ SPACE-F รุ่นที่ 4 ทั้งสิ้น 20 ราย แบ่งออกเป็น 10 ราย จาก 3 ประเทศ เข้าร่วมโครงการบ่มเพาะ (Incubator program) และ 10 ราย จาก 6 ประเทศ เข้าร่วมโครงการเร่งการเติบโต (Accelerator program)
ธัญญวัฒน์ เกษมสุวรรณ Group Director, Global Innovation บริษัท ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานเปิดตัวโครงการว่า ประเทศไทย เป็นหนึ่งในผู้ส่งออกอาหารรายใหญ่ที่สุดโลก จนได้รับการขนานนามว่า “ครัวของโลก” แต่หากมองในมุมการสร้างและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางด้านอาหาร หรือสตาร์ทอัพที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ ก็จะพบว่าประเทศไทยเมื่อ 5 ปีที่แล้วไม่ได้มีความโดดเด่นทางด้านนี้เลย
ด้วยเหตุนี้เอง จึงเป็นจุดเริ่มที่ทำให้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จึงจับมือกับ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) และมหาวิทยาลัยมหิดล สร้างแพลตฟอร์มที่ดึงดูดสตาร์ทอัพที่พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางด้านอาหาร ที่น่าสนใจมาบ่มเพาะ และเร่งการเติบโตของสตาร์ทอัพในประเทศไทยผ่าน SPACE-F Global FoodTech Incubator and Accelerator ที่มีการเตรียมการระบบนิเวศ และความเชี่ยวชาญให้เพรียบพร้อม เพื่อผลักดันให้สตาร์ทอัพเติบโตและประสบผลสำเร็จได้เร็ว สร้างอิมแพคให้อุตสาหกรรมได้ ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา
แพลตฟอร์มของเราได้มีการสนับสนุนสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมอย่างเต็มที่ โดยวันนี้เรามีสตาร์ทอัพกว่า 90% ที่ยังคงมีการเติบโตทางธุรกิจ และสร้างคุณค่าต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิสัยทัศน์และความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน เราเชื่อว่าประเทศไทยจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางด้านอาหารของโลก เป็นศูนย์กลางเพื่อสร้าง บ่มเพาะ เร่งการเติบโตเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางด้านอาหารระดับโลก”
FoodTech startups 10 ราย เข้าร่วม Incubator program
1. ImpacFat (Singapore): Enhancing nutrition and taste of alternative meats with fish cell-based fat
2. Marina Biosciences (Singapore): cultivate seafood delicacies to make exquisite foods more exquisite, whilst saving the lives of animals
3. Mycovation (Singapore): Transforming Mycelium into novel ingredients using fermentation technology
4. Nutricious (Thailand): Egg White Protein-Rich Beverage
5. Plant Origin (Thailand): Egg Alternative from Rice Bran Protein
6. PROBICIENT (Singapore): the world s first probiotics beer
7. Rak THAIs by Angkaew Lab (Thailand): Fermented espresso cold brew coffee
8. The Kawa Project (United States): sustainable alternative to cocoa powder
9. Trumpkin (Thailand): non-dairy cheese from pumpkin seed
10. Zima Sensors (Singapore): Package Leak Detection, made seamless
FoodTech startups 10 ราย เข้าร่วม Accelerator program
1. Genesea (Israel): Seaweed food tech company, producing alternative protein extraction & ingredients from macro-algae
2. Lypid (United States): Alternative fat solutions
3. NovoNutrients (United States): The low-cost, globally scalable solution for making alternative protein by capturing carbon
4. TeOra (Singapore): Building the future of sustainable food for 10 billion humans
5. AlgaHealth (Israel): We put healthy into food!
6. Seadling (Malaysia): Seaweed Functional Nutrition
7. MOA (Spain): healthy food for a sustainable future
8. Pullulo (Singapore): ACHIEVING A SUSTAINABLE FUTURE WITH MICROBIAL PROTEIN
9. The Leaf Protein Co. (Australia): Unlocking Earth s most abundant source of protein
10. AmbrosiaBio (Israel): Enabling a healthy lifestyle without compromising the product's taste
อ่านเพิ่มเติม: เอไอเอส คาดปิดดีล 3บีบี สำเร็จในไตรมาส 2 หลังทรูควบรวมดีแทคไปก่อนหน้า
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine