การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนที่เปลี่ยนไป ทำให้สระว่ายน้ำในบ้านที่ได้รับความสนใจมากขึ้น POOL&SPA คาดปี 2565 ความต้องการสระว่ายน้ำเพิ่มสูงขึ้น พร้อมเสนอเทคโนโลยีเพื่อความสะอาด
กุลศรา โสณกุล ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พูลแอนด์สปา จำกัด เปิดเผยว่า ปีที่แล้ว เรามียอดขายลดลง ด้วยสาเหตุจากสระว่ายน้ำในธุรกิจโรงแรมซบเซาและปิดตัวลงไปไม่น้อย ในขณะที่สระในคอนโดมิเนียมก็ไม่สามารถใช้งานได้ จึงส่งผลให้อุปกรณ์เคมีภัณฑ์สำหรับฆ่าเชื้อและบำบัดน้ำจำหน่ายได้น้อยลง เพราะถูกปรับลดการใช้งานลงจากการปิดบริการชั่วคราว อย่างไรก็ตาม แม้สระบริการจะลดลงทั้งในแง่การดูแลรักษาเพื่อการใช้งานเป็นประจำ ไปจนถึงการก่อสร้างและวางระบบสระว่ายน้ำแห่งใหม่ในโครงการของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจโรงแรม แต่ความต้องการสร้างและวางระบบสระว่ายน้ำในบ้านกลับเพิ่มขึ้น ฉะนั้น ในปีนี้ POOL&SPA จึงวางแผนรุกตลาดสระว่ายน้ำในบ้านเพิ่มขึ้น โดยมองหาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ อาทิ ‘ระบบ Fresh water’ ที่ทำให้น้ำสระกลายเป็นน้ำสะอาดที่เหมือนมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ เหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่าย และไม่อันตรายต่อสัตว์เลี้ยงในบ้าน นอกจากนี้ ยังนำเสนอ ‘สระน้ำอุ่น’ อุณหภูมิเหมาะกับการว่ายน้ำที่ 28-30 องศาเซลเซียส และใช้โซล่าร์เซลล์เพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้า และเครื่องว่ายทวนน้ำที่เหมาะกับสระว่ายน้ำที่มีพื้นที่จำกัด เพื่อใช้ออกกำลังกาย ทั้งนี้ POOL&SPA ยังมุ่งเน้นในการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ผู้ใช้สระว่ายน้ำด้วยฟังก์ชั่นและลูกเล่นใหม่ๆ เพื่อสร้างไลฟ์สไตล์ที่ผ่อนคลาย สนุกสนาน และสะดวกสบาย อาทิ ลำโพงใต้น้ำ แสงไฟใต้น้ำที่ปรับได้หลากหลายเฉดสี เหมาะแก่การถ่ายคลิปและทำคอนเทนต์ของคนรุ่นใหม่ที่ชอบแชร์ไฟล์สไตล์ลงในช่องทางโซเชียลมีเดีย และเฟอร์นิเจอร์นำเข้าจากสหรัฐฯ ดีไซน์โมเดิร์น สำหรับใช้งานในสระว่ายน้ำโดยเฉพาะ ที่คงทนต่อสารเคมีต่างๆ ซึ่งจะช่วยสร้างบรรยากาศให้แก่สระว่ายน้ำ รวมถึงการหาเทคโนโลยีเพื่อลดขั้นตอนและความยุ่งยากในการดูแลรักษาสระว่ายน้ำ เช่น หุ่นยนต์ทำความสะอาดที่สามารถควบคุมผ่านทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อทดแทนการใช้แรงงานคนและลดเวลาทำความสะอาดสระว่ายน้ำลง "ปีนี้ เราตั้งใจรุกตลาดกลุ่ม End User ที่เป็นผู้ใช้งานสระว่ายน้ำจริงๆ เราจึงมุ่งมั่นเสาะหาสินค้าและเทคโนโลยีจากทั่วโลกที่ตอบโจทย์พฤติกรรมครอบครัวยุคใหม่เป็นพิเศษ” กุลศรา กล่าว สำหรับเทรนด์การสร้างสระว่ายน้ำในบ้านมักเป็นแบบ Lap Pool ที่มีความยาวประมาณ 25 เมตร และมีความกว้างประมาณ 4-5 เมตร เพื่อใช้ในการออกกำลังกาย โดยไม่ต้องไปใช้สระว่ายน้ำสาธารณะ “อย่างไรก็ดี สถานการณ์โควิด-19 ทำให้เซ็กเมนต์สระว่ายน้ำในบ้านคึกคักมากขึ้น นับเป็นสัญญาณที่ดี และในอนาคตวงการธุรกิจสระว่ายน้ำจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่สดใสและเติบโตได้แข็งแรงยิ่งขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคที่เป็น End User เติบโตและมีความต้องการสระว่ายน้ำในบ้านเพิ่มขึ้นชัดเจน การมีสระว่ายน้ำในบ้านจะกลายเป็นเรื่องง่าย ทำให้บริษัทสระว่ายน้ำสามารถเลือกตลาดและกลุ่มลูกค้าที่ตนเองโฟกัสได้มากขึ้น ในขณะที่ลูกค้าก็จะสามารถเลือกใช้บริการบริษัทสระว่ายน้ำที่มีความเชี่ยวชาญในแบบที่เหมาะกับความต้องการได้มากขึ้นเช่นกัน" กุลศรา กล่าวและเสริมว่า "POOL&SPA ยังคงเน้นไปที่ 3 กลุ่ม ตามสัดส่วนรายได้ ได้แก่ การจัดจำหน่ายอุปกรณ์และสารเคมีภัณฑ์ 70% งานติดตั้งระบบและอุปกรณ์ให้ทั้งโครงการอสังหาฯ และบ้านส่วนตัว 20% และอีก 10% จากงานก่อสร้างสระว่ายน้ำ” อ่านเพิ่มเติม: เซ็นทรัล รีเทล เดินเกมรุกชัยภูมิ เปิด ไทวัสดุ รับการฟื้นตัวธุรกิจไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine