MIT Sloan เปิดสำนักงานกรุงเทพฯ ตั้งเป้าเป็น Hub ประจำอาเซียน มุ่งดำเนินงานยกระดับเศรษฐกิจของภูมิภาค

MIT Sloan เปิดสำนักงานกรุงเทพฯ ตั้งเป้าเป็น Hub ประจำอาเซียน มุ่งดำเนินงานยกระดับเศรษฐกิจของภูมิภาค

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 สถาบันบริหารธุรกิจระดับโลก เอ็มไอที สโลน (MIT Sloan School of Management) เชื่อมั่นศักยภาพประเทศไทย เปิดสำนักงานเอ็มไอที สโลน ประจำภูมิภาคอาเซียน (MSAO) และจัดการประชุมอย่างเป็นทางการครั้งแรก พร้อมเผยเป้าหมายและวิสัยทัศน์เพื่อสร้างสรรค์เศรษฐกิจในภูมิภาคผ่านความร่วมมือระหว่างเครือข่ายศิษย์เก่าและพันธมิตรองค์กรต่างๆ


    ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) มุ่งมั่นเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อผลักดันสู่การแข่งขันระดับโลก ทว่าปัจจัยด้านเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิก ยังคงเป็นประเด็นที่สร้างความท้าทายในการเสริมสร้างเครือข่ายการทำงานที่ยั่งยืน ในโอกาสนี้ สถาบันบริหารธุรกิจ เอ็มไอที สโลน (MIT Sloan School of Management) จึงก้าวเข้ามามีส่วนร่วมในฐานะพันธมิตร โดยได้เลือกกรุงเทพฯ ประเทศไทย เป็นที่ตั้งสำนักงานนอกสหรัฐอเมริกาแห่งที่ 2 ต่อจากประเทศชิลี

    David Capodilupo ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายโปรแกรมระดับโลกของสถาบันบริหารธุรกิจ เอ็มไอที สโลน เผยว่า เหตุผลที่เลือกประเทศไทยเป็นที่ตั้งสำนักงานประจำภูมิภาคอาเซียน เนื่องด้วยมีศิษย์เก่าของสถาบันเป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดเครือข่ายความร่วมมืออันแข็งแกร่ง สามารถขับเคลื่อนเป้าหมายของเอ็มไอที สโลนในการเป็นศูนย์กลางการศึกษาและดำเนินงานแก้ไขปัญหาต่างๆ ในภูมิภาค โดยมุ่งเน้นด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Climate Change), พลังงาน (Energy), การดูแลสุขภาพ (Healthcare) และปัญญาประดิษฐ์ (AI)


David Capodilupo


    เอ็มไอที สโลน ขยายความร่วมมือไปทั่วภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่องผ่านโครงการ MIT Sloan Action Learning ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างพันธมิตรในภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ และองค์กรต่างๆ โดยนับตั้งแต่ปี 2545 โครงการดังกล่าวได้ส่งเสริมการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ในหลากหลายหัวข้อมากกว่า 600 โครงการ ครอบคลุม 5 ระดับหลักสูตรการศึกษา และได้ร่วมมือกับบริษัทมากมาย ทั้ง ในกัมพูชา จีน อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม

    สำหรับหลักสูตรที่น่าสนใจของเอ็มไอที สโลน ได้แก่


ASEAN Lab

    หลักสูตรทางด้านเศรษฐศาสตร์และธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ ASEAN Lab ถือเป็นหลักสูตรแรกของเอ็มไอที สโลน ที่มุ่งเน้นทางด้านเศรษฐกิจและธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์การเมืองและการตลาดเชิงพลวัตในภูมิภาคที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อีกทั้งนักศึกษายังจะได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับองค์กรภายในประเทศในการรับมือกับความท้าทายด้านการบริหาร

    หลักสูตรนี้เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างเอ็มไอที และมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาจากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้


Thailand Summer Lab

    หลักสูตร Thailand Summer Lab เป็นโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนจากศิษย์เก่า เพื่อมุ่งส่งเสริมให้นักศึกษาเอ็มไอที สโลน ได้รับประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงใช้เพื่อสนับสนุนโครงการในอุตสาหกรรมที่สร้างผลกระทบในวงกว้าง อาทิ ธุรกิจเทคโนโลยีทางด้านการเงิน ธุรกิจบริการอาหาร ธุรกิจผู้ประกอบการ และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

    หลักสูตรนี้จะประกอบไปด้วยนักศึกษาจากหลากหลายหลักสูตรปริญญาของเอ็มไอที สโลน และนักศึกษาระดับปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


งานประชุมวิชาการ Beyond Years: The Future of Longevity


    Capodilupo อธิบายว่าหลักสูตรของเอ็มไอที สโลน มุ่งเน้นให้นักศึกษาได้รับความรู้ที่สามารถนำไปลงมือปฏิบัติได้จริง และยังได้แนะนำระบบไฮบริด (Hybrid) เพื่อเอื้อให้นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์มีโอกาสเข้าถึงการเรียนการสอนได้ และจะมีการร่วมมือกับผู้บริจาคเพื่อสนับสนุนทุนการศึกษาตลอดจนผนึกกำลังองค์กรภายนอกในการดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงประสบการณ์

    สำหรับระยะเริ่มต้น เอ็มไอที สโลนตั้งใจผลักดันงานวิจัยก่อน ตามด้วยการตั้งสภาที่ปรึกษา (Advisory Council) อันประกอบด้วยศิษย์เก่า ผู้บริจาค และพันธมิตรทั้งบริษัทชั้นนำ ผู้ประกอบการ ผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ และอื่นๆ ตลอดจนจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ งานประชุมวิชาการ Beyond Years: The Future of Longevity ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งได้เชิญบุคลากรทางการแพทย์และผู้เชี่ยวชาญมาร่วมแบ่งปันมุมมองความคิดเห็นว่าด้วย ‘การมีชีวิตยืนยาว’ ที่เกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจ ปัญหาสุขภาพ และระบบสาธารณสุขอันเป็นประเด็นสำคัญในอาเซียน

    ในอนาคต เอ็มไอที สโลน ตั้งใจขยับขยายสำนักงานไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค โดยมีสำนักงานที่กรุงเทพฯ แห่งนี้เป็นศูนย์กลาง (Hub) เพื่อให้เข้าถึงปัญหาและความท้าทายของแต่ละประเทศของอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตามพันธกิจของเอ็มไอที สโลนที่ต้องการสร้างโลกที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น ผ่านความร่วมมือและการลงมือปฏิบัติจริง


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Gogolook เจ้าของแอป Whoscall ปักธงไทยเป็นสำนักงานใหญ่แห่งที่ 2 ขยายโซลูชันสำหรับธุรกิจ

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine