‘Make a Change’ หมัดเด็ดกรุงเทพประกันชีวิตรับศึกเดือด - Forbes Thailand

‘Make a Change’ หมัดเด็ดกรุงเทพประกันชีวิตรับศึกเดือด

กรุงเทพประกันชีวิตมั่นใจโตมากกว่า 10% พร้อมฝ่าความท้าทายแชร์ช่องทางการจำหน่ายผ่านแบงก์ เดินหน้าปรับกลยุทธ์รับมือการแข่งขัน ชู "Make a Change เพื่อชีวิตที่แตกต่าง" ดันช่องทางออนไลน์ พัฒนาแพลตฟอร์ม เสริมทัพด้วยทีมที่ปรึกษาการเงินคุณภาพ

ท่ามกลางความท้าทายรอบด้านในธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งสมาคมประกันชีวิตไทยประกาศการคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตในปีนี้ประมาณ 4-6% ใกล้เคียงกับตัวเลขปี 2560 ที่ 5.89% โดยมีจำนวนเบี้ยรับรวมแตะ 6.01 แสนล้านบาท และเบี้ยประกันชีวิตปีต่อไปอยู่ที่ 433,900 ล้านบาท และเบี้ยรับใหม่ 167,000 ล้านบาท พร้อมทั้งอัตราการคงอยู่ของกรมธรรม์ประกันชีวิต 84% หรือคิดเป็นสัดส่วนเบี้ยต่อจีดีพี 3.89% หนึ่งในผู้นำธุรกิจประกันชีวิตที่ได้รับอนุมัติให้ขายประกันออนไลน์เต็มรูปแบบเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศ ภายใต้การบริหารของ วิพล วรเสาหฤท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นเดินหน้าสู่เป้าหมายการเติบโตมากกว่า 10% (ไม่นับผลิตภัณฑ์ประกันระยะสั้น)  หลังจากสามารถสร้างการเติบโตในปีที่ผ่านมา ด้วยเบี้ยประกันภัยใหม่จากแบบประกันหลักเพิ่มขึ้น 18% และการเพิ่มที่ปรึกษาทางการเงินที่เติบโตมากกว่า 10% ทำให้ในปัจจุบันบริษัทมีจำนวนนักวางแผนทางการเงินที่ได้รับคุณวุฒิ CFP ® และ AFPT มากกว่า 100 คน ทั้งยังมีการดำเนินงานที่มั่นคง ด้วยอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง 252% ซึ่งสูงกว่าระดับที่กฎหมายกำหนด “ความท้าทายที่สำคัญในปีนี้ ได้แก่ ผลกระทบจากการที่ธนาคารกรุงเทพมีพันธมิตรใหม่เข้ามาเริ่มขายผลิตภัณฑ์ สินค้าราคาถูกลง มาตรฐานบัญชีใหม่ที่การบันทึกตัวเลขในบัญชีเปลี่ยน อัตราดอกเบี้ยต่ำที่ส่งผลต่อประกันออมทรัพย์และการปรับพอร์ตสินค้าที่เบี้ยรับระยะสั้นให้ผลตอบแทนสูงไม่ค่อยน่าสนใจ การแข่งขันในวงการประกันสูง ซึ่งเราเชื่อว่าในท้ายที่สุดอาจจะมีการควบรวมประกันชีวิตบริษัทขนาดเล็กให้สามารถแข่งขันได้”
วิพล วรเสาหฤท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
นอกจากนี้ ธุรกิจประกันชีวิตยังต้องเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจในรูปแบบดิจิทัลไทยแลนด์ 4.0 รวมถึงแนวโน้มการก้าวสู่ยุคสังคมสูงวัยที่ส่งผลต่อรูปแบบประกันชีวิต เช่น ช่วงอายุความคุ้มครองเพิ่มจาก 60 ปีเป็น 70 ปี ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น ดังนั้น บริษัทได้วาง 5 กลยุทธ์สำคัญเพื่อปรับเปลี่ยนองค์กรและสร้างรากฐานแข็งแกร่งในอนาคต ประกอบด้วย ช่องทางการจำหน่าย การสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์มในการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ การปรับปรุงรูปแบบการนำเสนอสินค้าสู่การวางแผนทางการเงินอย่างรอบด้าน ทั้งยังสร้างวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมที่ดีต่อการพัฒนาคนในองค์กร พร้อมสร้างแบรนด์ของกรุงเทพประกันชีวิตและการบริหารความเสี่ยงตั้งแต่ต้นจนจบ (End-to-End) และเป็นองค์กรที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี ขณะที่วางแผนการดำเนินธุรกิจปี 2561 บริษัทชูแนวคิด Make a Change เปลี่ยนเพื่อชีวิตที่แตกต่าง ด้วยการใช้กลยุทธ์หลักผลักดันพัฒนาการต่างๆในองค์กร แผนพัฒนาช่องทางการขายเดิม และการขยายช่องทางใหม่ เช่น การเพิ่มยอดขายในช่องทางออนไลน์ รวมถึงการปรับปรุงผลิตภัณฑ์เจาะกลุ่มลูกค้า การสร้างความแข็งแกร่งร่วมกับพันธมิตรในช่องทางต่างๆ และการให้ความรู้ด้านการวางแผนการเงิน เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการวางแผนการเงินรอบด้าน นอกจากนั้น บริษัทยังมุ่งพัฒนานวัตกรรมเปิดรับเทคโนยีใหม่ เตรียมความพร้อม และพัฒนาแพลตฟอร์มให้รองรับความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล พัฒนาผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางการขายประกันออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้เกิดขึ้น การพัฒนาระบบบริการลูกค้า และช่องทางออนไลน์อื่นๆ เช่น แอพพลิเคชั่นสำหรับลูกค้าและตัวแทนให้ได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งการพัฒนาบุคลากรผ่านการสร้างทีมและที่ปรึกษาทางการเงินที่มีคุณภาพและความเชี่ยวชาญบนแนวทางของนักวางแผนการเงิน “กรุงเทพประกันชีวิตเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ โดยเน้นการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินมืออาชีพเพื่อให้บริการสำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไปและกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะ หรือบริหารในลักษณะ Multi-Level เหมือนร้านอาหารที่ต้องมีการปรับเมนูใหม่และอาจจะเพิ่มการลงทุนมากขึ้น เพื่อรับกับการแข่งขันรวมถึงให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์มากขึ้นหลังจากได้รับอนุมัติการขายผ่านช่องทางดังกล่าวได้ในปีที่ผ่านมา” วิพลปิดท้ายถึงแผนการออกประกันออนไลน์รูปแบบใหม่ที่เตรียมเปิดตัวในเร็ววันนี้   Forbes Facts
  • ประกันที่ได้รับความสนใจซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ส่วนใหญ่ ได้แก่ ประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรง
  • การแข่งขันในธุรกิจที่สำคัญและควรระมัดระวังด้านการบริหารคือ การแข่งขันด้านผลประโยชน์ของฝ่ายขายมากกว่าการแข่งขันทางผลิตภัณฑ์
  • มาตรฐานบัญชีใหม่อาจจะส่งผลให้ประกันในลักษณะ Single Premium (ชำระเพียงครั้งเดียว) และประกันระยะสั้นลดจำนวนลง
  อ่านเพิ่มเติม "วิพล วรเสาหฤท พลิก กรุงเทพประกันชีวิต คืนตำแหน่ง Top5"