Forbes 400: แม้จะรวย แต่ต้องรวยให้พอ - Forbes Thailand

Forbes 400: แม้จะรวย แต่ต้องรวยให้พอ

FORBES THAILAND / ADMIN
08 Oct 2014 | 10:26 AM
READ 2029

Richard Yuengling ผู้สืบทอดธุรกิจผลิตเบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ D.G. Yuengling & Son


การจัดทำเนียบ Forbes 400 หรือเศรษฐีอเมริกัน 400 อันดับ ในแต่ละปี นับวันจะกลายเป็น exclusive club มากขึ้น  


 

จากรายชื่อล่าสุด พบว่ามีมหาเศรษฐีที่ติดทำเนียบ Forbes 400 เมื่อปีกลาย หลุดหายไปรวม 33 ราย ส่วนใหญ่แล้วไม่ได้มีธุรกิจที่ย่ำแย่ลงแต่อย่างใด แต่ด้วยเหตุผลง่ายๆ เพียงว่า พวกเขาร่ำรวยไม่พอที่จะติดอันดับในปีนี้ 

 

สภาวะตลาดหุ้นที่กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง ช่วยยกระดับความมั่งคั่งของทำเนียบ Forbes 400 ให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น มหาเศรษฐีที่จะเข้าสู่การจัดอันดับได้ ต้องมีทรัพย์สินขั้นต่ำ 1.55 พันล้านเหรียญ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน 250 ล้านเหรียญ ถือเป็นการเพิ่มเกณฑ์ขั้นต่ำปีต่อปีที่มากที่สุดอีกปีหนึ่ง นับตั้งแต่ Forbes เริ่มการจัดอันดับนี้ในปี 1982

 

Richard Yuengling หนึ่งในเศรษฐีอเมริกันที่ต้องเผชิญกับความจริงเรื่องนี้ แม้ว่าในปีนี้ ตัวเขาได้ขยายกิจการผลิตเบียร์ของตระกูล ซึ่งเก่าแก่มากกว่าร้อยปีไปในอีกสามรัฐ จนช่วยให้กิจการของครอบครัวซึ่งมีรากฐานที่ Pottsville, Pennsylvania มีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 150 ล้านเหรียญ รวมมูลค่ากิจการสูงถึง 1.5 พันล้านเหรียญทีเดียว แต่กลับสูงไม่พอที่จะติดทำเนียบ

 

ตัวอย่างอีกรายคือ George Joseph มหาเศรษฐีวัย 93 ปี ร่ำรวยจากธุรกิจประกันภัยของตัวเอง Mercury Insurance Group แม้จะมีทรัพย์สินถึง 1,400 พันล้านเหรียญ เฉพาะในปีนี้จากเงินปันผลและมูลค่าหุ้นของบริษัทก็เพิ่มถึง 100 ล้านเหรียญ แต่ก็ยังไม่พอสำหรับเป็นหนึ่งใน Forbes 400 ประจำปีนี้

 

อย่างไรก็ตามมีเศรษฐี 10 รายที่ต้องหลุดไป ด้วยสาเหตุทางการเงิน เนื่องจากมูลค่าความมั่งคั่งลดลง เช่น  Alfred Clark เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Clark Enterprises ที่มูลค่าสินทรัพย์ใน Washington, D.C. ลดฮวบลง

 

ขณะที่อีก 6 รายเสียชีวิต เช่น  Harold Simmons มหาเศรษฐีนักลงทุนจาก Texas, Samuel Truett Cathy ผู้ก่อตั้งเชนร้านอาหาร Chick-fil-A และ Malcolm Glazer เจ้าของทีมกีฬาดังอย่าง Tampa Bay Buccaneers และ Manchester United


 

รายชื่อมหาเศรษฐี 27 รายที่หลุดจาก Forbes 400 ในปีนี้ (มีสามรายย้ายไปใว้ในทำเนียบ America’s Richest Families ที่เพิ่งจัดทำขึ้นใหม่)

  • Herbert  Allen, 1.5 พันล้านเหรียญ

  • Nicolas Berggruen, 1.5 พันล้านเหรียญ

  • Frank Fertitta, 1.5 พันล้านเหรียญ

  • Lorenzo Fertitta, 1.5 พันล้านเหรียญ

  • Jeffrey Lorberbaum, 1.5 พันล้านเหรียญ

  • Gary Magness, 1.5 พันล้านเหรียญ

  • Nicholas Pritzker, 1.5 พันล้านเหรียญ

  • Richard Yuengling, 1.5 พันล้านเหรียญ

  • James Clark, 1.45 พันล้านเหรียญ

  • Wilma Tisch, 1.45 พันล้านเหรียญ

  • Alfred James Clark, 1.4 พันล้านเหรียญ

  • Alan Gerry, 1.4 พันล้านเหรียญ

  • John Henry, 1.4 พันล้านเหรียญ

  • George Joseph, 1.4 พันล้านเหรียญ

  • Roger Penske, 1.4 พันล้านเหรียญ

  • Joyce Raley Teel, 1.4 พันล้านเหรียญ

  • Edmund Ansin, 1.35 พันล้านเหรียญ

  • Dan Wilks, 1.35 พันล้านเหรียญ

  • Farris Wilks, 1.35 พันล้านเหรียญ

  • Sidney Kimmel, 1.25 พันล้านเหรียญ

  • Leon Charney, 1.1 พันล้านเหรียญ

  • Tom Kaplan, 1 พันล้านเหรียญ

  • Robert Piccinini, 800 ล้านเหรียญ

  • Elaine Marshall, อยู่ในทำเนียบ America’s Richest Families

  • Richard Marriott, อยู่ในทำเนียบ America’s Richest Families

  • Bill Marriott, อยู่ในทำเนียบ America’s Richest Families

  • Gayle Cook, มอบทรัพย์สินให้กับบุตร Carl Cook

 

มหาเศรษฐีทั้ง 6 รายที่เสียชีวิต

  • Harold Simmons, 10 พันล้านเหรียญ

  • S. Truett Cathy, 6.3 พันล้านเหรียญ

  • Patrick McGovern, 5.7 พันล้านเหรียญ

  • Malcolm Glazer, 4.4 พันล้านเหรียญ

  • Richard Mellon Scaife, 1.5 พันล้านเหรียญ

  • William Ford SR., 1.35 พันล้านเหรียญ

(ภาพประกอบจาก bloomberg.com)



เรียบเรียงจาก Too Poor For The Rich List: The Billionaires Who Fell Off The 2014 Forbes 400