CPL ตั้งโฮลดิ้งส์คอมปะนีหวังสร้าง New S-Curve - Forbes Thailand

CPL ตั้งโฮลดิ้งส์คอมปะนีหวังสร้าง New S-Curve

FORBES THAILAND / ADMIN
19 May 2021 | 12:39 PM
READ 2093

บอร์ด CPL อนุมัติจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งส์ “ซีพีแอล เวนเจอร์ พลัส” รุกถือหุ้นใหญ่ร้อยละ 99.98 หวังกระจายความเสี่ยงธุรกิจ พร้อมแสวงหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในอนาคต เผยพร้อมลงทุนในธุรกิจที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก เน้นธุรกิจที่มีศักยภาพและโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดด รวมถึงธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตอบโจทย์สังคม หวังสร้าง New S-Curve คาดเริ่มเดินหน้ามิถุนายนปีนี้

CPL ภูวสิษฏ์ วงษ์เจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  ผู้นำในอุตสาหกรรมฟอกหนังในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (เซฟตี้โปรดักส์) ภายใต้แบรนด์ “แพงโกลิน” ซึ่งเป็นกิจการในกลุ่มบริษัทเจริญสิน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติให้จัดตั้งบริษัท ซีพีแอล เวนเจอร์ พลัส จำกัด ซึ่งซีพีแอลจะถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวในสัดส่วน 99.98% โดยบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ จะทำหน้าที่ในการเข้าลงทุนในธุรกิจต่างๆ ที่มีโอกาสและศักยภาพในการเติบโตอย่างยั่งยืนในปัจจุบันและในอนาคต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CPL กล่าวด้วยว่า การจัดตั้ง  ‘ซีพีแอล เวนเจอร์ พลัส’ ถือเป็นอีกก้าวของซีพีแอล ที่มุ่งมั่นจะกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน พร้อมๆ กับสร้างโอกาสใหม่ๆ เพื่อแสวงหาผลตอบแทนจากการลงทุน ซึ่งธุรกิจที่เป็นเป้าหมายในการเข้าลงทุน ไม่ได้ถูกจำกัดว่าจะต้องเชื่อมโยงกับธุรกิจหนังสำเร็จรูป หรือธุรกิจด้านความปลอดภัย ที่เป็นธุรกิจหลักของซีพีแอล เท่านั้น เพราะโลกในปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ทำให้ฝ่ายบริหารเล็งเห็นว่า จะต้องมองหาธุรกิจใหม่ที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง สามารถทำกำไรและตอบโจทย์สังคมในยุคปัจจุบัน เราจึงไม่ได้จำกัดว่าจะต้องมองหาอุตสาหกรรมใดเป็นพิเศษ แต่เป้าหมายอยู่ที่การจัดโครงสร้างการลงทุนเพื่อสร้าง New S-Curve ให้กับธุรกิจ และคาดหวังการมองหาธุรกิจที่เป็นยูนิคอร์น ที่สามารถสร้างการเติบโตก้าวกระโดดให้กับซีพีแอลได้ในอนาคต ทั้งนี้ บริษัท ซีพีแอล เวนเจอร์ พลัส จำกัด จะดำเนินการจัดตั้งภายในเดือนมิถุนายน 2564 ซึ่งการดำเนินธุรกิจของบริษัทย่อยจะเอื้อกับซีพีแอลในฐานะบริษัทแม่ ทั้งในแง่ของความยั่งยืน ตอบโจทย์การลงทุนที่นอกเหนือจากจะให้ผลตอบแทนแล้ว ยังเป็นการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน “ต้องยอมรับว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นช่วงที่ดีของบริษัทฯ เพราะความซบเซาของอุตสาหกรรมฟอกหนัง แต่เราก็ฟันฝ่าจนผ่านพ้นมาได้ จนถึงปัจจุบันก็ยังมีวิกฤตโควิด-19 ที่ยังต้องรับมือต่อ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาดังกล่าวบริษัทฯ เห็นว่าการเลือกหรือมองหาธุรกิจในช่วงวิกฤตเป็นสิ่งสำคัญ เพราะบางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบันบางส่วนก็เกิดขึ้นในช่วงเวลาแบบนี้ รวมไปถึงบางธุรกิจที่มีไอเดียดี แต่ขาดเงินทุนและสภาพคล่อง หรือแม้แต่ธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่เป็นกระแสตอบโจทย์ทางสังคม และเป็นธุรกิจมีศักยภาพ เราก็พร้อมที่จะเข้าไปลงทุน ถือเป็นการพลิกวิกฤตเพื่อสร้างโอกาสใหม่ที่จะสร้างการเติบโตที่ดีให้กับบริษัทฯ ได้ในอนาคต” ภูวสิษฏ์ กล่าว อ่านเพิ่มเติม: ‘‘ดุสิตธานี’ ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไตรมาสแรกโชว์กำไร 74 ล้านบาท
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine