เอ็กซ์คลูซีฟพรีวิว เปิดตัวคอลเลคชั่นไฮไลท์ประจำปี 2017 จาก โอเดอมาร์ ปิเกต์ พร้อม 3 ตัวแทนแห่งซัมเมอร์ที่คุณห้ามพลาด - Forbes Thailand

เอ็กซ์คลูซีฟพรีวิว เปิดตัวคอลเลคชั่นไฮไลท์ประจำปี 2017 จาก โอเดอมาร์ ปิเกต์ พร้อม 3 ตัวแทนแห่งซัมเมอร์ที่คุณห้ามพลาด

FORBES THAILAND / ADMIN
27 Apr 2017 | 07:13 PM
READ 10985
AUDEMARS PIGUET จัดงานเอ็กซ์คลูซีฟพรีวิว เผยโฉมคอลเลคชั่นล่าสุด "AUDEMARS PIGUET 2017 SIHH NOVELTIES" เรือนเวลาชั้นสูงกว่า 20 เรือนที่พร้อมเผยสุนทรียศาสตร์แห่งดีไซน์ให้คุณได้สัมผัสก่อนใครในประเทศไทยเมื่อเร็วๆนี้ ส่งตรงจากงาน ซาลอง อินเตอร์เนชั่นแนล เดอ ลา โอต ออร์โลเฌรี 2017 หรือ SIHH 2017 และนี่คือ 3 ตัวแทนแห่งไลฟ์สไตล์ไอคอนที่เปี่ยมด้วยความคลาสสิคแต่เรียบหรูในแบบฉบับ  โอเดอมาร์ ปิเกต์ที่คุณห้ามพลาด ROYAL OAK PERPETUAL CALENDAR (รอยัล โอ๊ค เพอร์เพทชวล คาเลนดาร์) ผลงานอันทรงคุณค่าที่ผสานสุนทรียศาสตร์ร่วมสมัยและความซับซ้อนของกลไกแบบดั้งเดิมไว้อย่างยอดเยี่ยมจนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญของแบรนด์เครื่องบอกเวลาชั้นสูงแห่ง VALLÉE DE JOUX ปี 1955 AUDEMARS PIGUET ออกสตาร์ทสู่การเดินทางครั้งสำคัญด้วยการนำระบบปฏิทินถาวร หรือ เพอร์เพทชวล คาเลนดาร์ พร้อมส่วนแสดงปีอธิกสุรทินมาสู่นาฬิกาข้อมือเป็นครั้งแรก ความคลาสสิคเหนือกาลเวลาบนดีไซน์ตัวเรือนสีทอง 18 กะรัต ที่จำกัดการผลิตเพียง 9 เรือนเท่านั้น ปีนี้ AUDEMARS PIGUET สานต่อความท้าทายไปอีกขั้นกับ ROYAL OAK PERPETUAL CALENDAR  2017 ความสง่างามเต็มรูปแบบในเวอร์ชั่นตัวเรือนและสายสีดำ ผลิตจาก BLACK CERAMIC วัสดุชั้นเลิศที่ทนทานต่ออุณหภูมิสูงและสภาวะการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็วได้อย่างไร้ที่ติ ใช้เวลาค้นคว้าและพัฒนาโดยทีมช่างผู้ชำนาญการกว่า 600 ชั่วโมง ก่อนรังสรรค์อย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอนอีกกว่า 30 ชั่วโมงด้วยมือ บททดสอบสุดขั้วที่ต้องอาศัยทั้งทักษะชั้นสูงและความมุมานะมากกว่าการประดิษฐ์เรือนเวลา สแตนเลส สตีลถึง 5 เท่า สะท้อนถึงจิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่งของ AUDEMARS PIGUET ได้อย่างน่าชื่นชม โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นปฏิทินถาวรบนดีไซน์พื้นหน้าปัดสีเทาในลวดลาย GRANDE TAPISSERIE แสดงวัน, วันที่ และเดือนผ่านหน้าปัดย่อยสีเดียวกับตัวเรือน ดื่มด่ำมนต์เสน่ห์แห่งจันทรากับส่วนแสดงข้างขึ้น – ข้างแรม ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ที่ออกแบบให้รับกับท้องฟ้ายามรัตติกาลได้อย่างลงตัว ร่วมด้วยส่วนแสดงสัปดาห์บนวงแหวนด้านใน และไฮไลท์สำคัญอย่างส่วนแสดงเดือนพร้อมปีอธิกสุรทิน ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ขับเคลื่อนการทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 5134 บรรจุในตัวเรือนขนาด 41 มิลลิเมตร พร้อมด้วยกระจกฝาหลังแซฟไฟร์ที่เผยให้เห็นการทำงานของกลไกที่สลับซับซ้อนอย่างชัดเจน สำรองพลังงานได้ถึง 40 ชั่วโมง และกันน้ำลึกได้ 20 เมตร ROYAL OAK TOURBILLON EXTRA-THIN OPENWORKED (รอยัล โอ๊ค ตูร์บิญอง เอ็กซ์ตรา ทิน โอเพ่นเวิร์ค) OPENWORKED  หรือ การฉลุแบบสเกเลตัน นับเป็นศาสตร์และศิลป์ชั้นสูง ที่เผยให้เห็นความล้ำเลิศของกลไกที่ซ่อนอยู่ภายใน จุดเริ่มต้นของสุนทรียศาสตร์แห่งความงามที่เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะอันเที่ยงตรงของกลไกอย่างแท้จริง AUDEMARS PIGUET นับได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญของศาสตร์แห่งโอเพ่นเวิร์คกิ้งมาตั้งแต่ยุค 1930s และตอกย้ำความสำเร็จผ่านผลงานระดับมาสเตอร์พีซของประดิษฐกรรมเวลาหลากหลายรุ่นมาเป็นเวลากว่า 80 ปี ในปี 2012  ROYAL OAK TOURBILLON EXTRA-THIN OPENWORKED ได้ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในตัวเรือนแพลทินัม ซึ่งรังสรรค์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 40 ปี ของรุ่น ROYAL OAK  ตามมาด้วยเวอร์ชั่นตัวเรือนทองคำในปี 2016 โดยยังคงหัวใจหลักในการรังสรรค์ทุกรายละเอียดด้วยการทำมือทุกขั้นตอนจวบจนปัจจุบัน เพื่อแสดงถึงศาสตร์แห่งจักรกลเวลาชั้นสูง ในปีนี้ AUDEMARS PIGUET ตอบรับกระแสความต้องการของเหล่านักสะสมงานศิลป์ทั่วโลกอีกครั้ง กับเรือนเวลา ลิมิเต็ด อิดิชั่น ในเวอร์ชั่นสแตนเลส สตีล ขนาด 41 มิลลิเมตร ที่ยังคงเอกลักษณ์ของตัวเรือนรุ่นก่อนได้อย่างน่าค้นหา สะกดทุกสายตากับดีไซน์หน้าปัดสเกเลตันพร้อมกระจกฝาหลังแซฟไฟร์ ที่เผยให้เห็นความประณีตของกลไกไขลานคาลิเบอร์ 2924 ได้อย่างสวยงามไร้ที่ติ ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนรวม 216 ชิ้น เมนเพลทและบริดจ์เคลือบด้วยโรเดียมโทนสีเดียวกับตัวเรือน สำรองพลังงานได้นาน 70 ชั่วโมง ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 100 เรือน หรือเลือกเติมความอ่อนช้อยให้กับข้อมือกับเวอร์ชั่นพิ้งค์โกลด์ 18 กะรัต ที่ผลิตขึ้นเพียง 50 เรือนเท่านั้น สำหรับ ROYAL OAK TOURBILLON EXTRA-THIN OPENWORKED  รุ่นนี้นับเป็น 2 เวอร์ชั่นสุดท้าย ที่ AUDEMARS PIGUET ผลิตขึ้นโดยใช้สเกเลตันดีไซน์เฉพาะตัวนี้ ก่อนนับถอยหลังสู่ความท้าทายบริบทใหม่ในอีกไม่ช้า ROYAL OAK EXTRA-THIN (รอยัล โอ๊ค เอ็กซ์ตรา ทิน) ROYAL OAK ไอคอนนิค วอชท์คอลเลคชั่นที่คงความคลาสสิคตลอดกาลและเปี่ยมด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ เปิดตัวครั้งแรกในปี 1972 กับเวอร์ชั่นตัวเรือนสแตนเลส สตีลที่พลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่แวดวงนาฬิกาชั้นสูงเพียงชั่วข้ามคืน ด้วยเรือนเวลาลักชัวรี่สปอร์ตเรือนแรกของโลก ตามมาด้วยการรังสรรค์เรือนเวลาในเวอร์ชั่นทองคำในปี 1977 ก่อนเดินทางสู่ปฐมบทแห่งความล้ำค่ากับการเป็นไอคอนนิคดีไซน์ระดับโลก มาในปีนี้ โอเดอมาร์ ปิเกต์ ตอกย้ำความเรืองรองอันเจิดจรัสอีกครั้ง กับ ROYAL OAK EXTRA-THIN บนตัวเรือน “จัมโบ้” ทองคำ 18 กะรัต ขนาด 39 มิลลิเมตร ซีรีย์ล่าสุดที่ผลิตขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 40 ปี ให้กับประดิษฐกรรมเวลาทองคำเรือนแรกของ ROYAL OAK มาบนพื้นหน้าปัดลวดลายแบบ PETITE TAPISSERIE มีให้เลือก 2 เวอร์ชั่นคือ สีน้ำเงินสุดคลาสสิค หรือสีทองวินเทจลุคเดียวกับตัวเรือน โดดเด่นด้วยกลไกอัตโนมัติแบบบางพิเศษ คาลิเบอร์ 2121 ซึ่งมีความหนาเพียง 3.05 มิลลิเมตร ผลลัพธ์แห่งความทุ่มเทที่คงความเลอค่าจวบจนปัจจุบัน ถ่ายทอดสุนทรียศาสตร์ของเรือนเวลาต้นตำรับสู่ความเรืองรองครั้งใหม่ได้อย่างลงตัว กันน้ำลึกได้ 50 เมตร สำรองพลังงานนาน 40 ชั่วโมง ปิดท้ายความคลาสสิคด้วยสายและเข็มบอกเวลาทองคำเช่นเดียวกับตัวเรือน พบกับนวัตกรรมกลไกชั้นเลิศของ Audemars Piguet สุดยอดแบรนด์เครื่องบอกเวลาเหนือระดับจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เรือนเวลาที่คนทั้งโลกรู้จักเป็นอย่างดีที่ โอเดอมาร์ ปิเกต์ บูติค แห่งเดียวในประเทศไทย ณ ชั้นจี ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี