เศรษฐกิจปี 2558 แม้เติบโตเป็นบวก แต่ยังน่าผิดหวัง - Forbes Thailand

เศรษฐกิจปี 2558 แม้เติบโตเป็นบวก แต่ยังน่าผิดหวัง

FORBES THAILAND / ADMIN
02 Dec 2014 | 05:28 PM
READ 6467
ธนาคารไทยพาณิชย์ผิดหวังการเบิกจ่าย-การลงทุนภาครัฐพลาดเป้า ทำให้ปีหน้าเติบโตแค่ 3.5% จากฐานที่ต่ำของปี 2557 หวังได้แค่การท่องเที่ยว ส่วนการส่งออกอาจฟื้นไม่เต็มที่

 
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (EIC) ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์ "มุมมองเศรษฐกิจไทยในปี 2558" โดยระบุว่า เศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะเติบโต 3-3.5% จากปัจจัยขับเคลื่อนจากการท่องเที่ยว ที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ การส่งออกที่มีแนวโน้มขยายตัว 3% และการลงทุนภาครัฐตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล 
 
"อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตดังกล่าวถือว่าค่อนข้างน่าผิดหวัง เมื่อเทียบกับฐานที่ต่ำในปี 2557 ซึ่งอีไอซีคาดว่าจะเติบโตที่ 0.8%"
 
ทั้งนี้ EIC ประเมินว่าการลงทุนภาครัฐ ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลักทางเศรษฐกิจ มีแนวโน้มขยายตัวได้ต่ำกว่าคาดการณ์ เหตุจากการเบิกจ่ายงบลงทุนที่พลาดเป้าของรัฐบาลในช่วงครึ่งหลังของปี 2557  อีกทั้งการบริโภคภาคครัวเรือนยังถูกกดดันจากภาวะหนี้ครัวเรือน และจะฟื้นตัวได้อย่างช้าๆ 
 
การเบิกจ่ายภาครัฐ และการเบิกจ่ายงบลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 เป็นไปอย่างน่าผิดหวัง จนบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่หากเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในปี 2558 ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่ตั้งเป้าไว้ โดยเฉพาะแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานประมาณ 68,000 ล้านบาทในปี 2558 และนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือนอื่นๆ เช่น การจ่ายเงินสนับสนุนชาวนาและการสนับสนุนธุรกิจ SMEs อาจจะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้ดีกว่าที่คาดการณ์
 
EIC คาดว่าในปี 2558 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเติบโต 10% หลังความไม่สงบทางการเมืองเริ่มหมดไป รวมทั้งนโยบายช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวของภาครัฐ เช่น  การลดค่าวีซ่าให้นักท่องเที่ยวชาวจีน ได้สร้างแรงจูงใจให้แก่นักท่องเที่ยว เห็นได้จากช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาอัตราการเติบโตกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง 
 
ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงเชิงลบยังมีอยู่เช่นกัน จากภาคการส่งออกที่อาจจะฟื้นตัวได้ไม่มากนัก เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัวในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุโรป และความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์
 
EIC ประเมินค่าเงินบาทในปี 2558 มีแนวโน้มอ่อนค่าลงถึง 33.5 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ โดยจะเริ่มอ่อนตัวลงในช่วงไตรมาส 2 ของปี เนื่องจากภาวะเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ ตามแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงครึ่งหลังของปี และการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ 
 
ทั้งนี้คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่ 2% ในปี 2558 และมีโอกาสที่จะผ่อนคลายเพิ่มเติม หากอุปสงค์ในประเทศอ่อนแอกว่าที่คาด และยังไม่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ