เล็ง "เชียงใหม่-หัวหิน-ภูเก็ต-เขาหลัก" จุดหมายโรงแรมใหม่ Starwood - Forbes Thailand

เล็ง "เชียงใหม่-หัวหิน-ภูเก็ต-เขาหลัก" จุดหมายโรงแรมใหม่ Starwood

Le Meridien Chiang Rai Resort ในเครือ Starwood



Starwood Hotels & Resorts Worldwide กลุ่มโรงแรมยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกาเชื่อมั่นว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยในอนาคตยังมีแนวโน้มสดใส แม้กฎอัยการศึกจะบังคับใช้แต่ก็ในระยะสั้น ยอดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทยอยเพิ่มขึ้นหลังการรัฐประหาร โดย Starwood เดินหน้าหาทำเลจะเปิดโรงแรมใหม่ๆ เพิ่มขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยว


 

Stephen Ho, President ตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคของ Starwood กล่าวกับ Forbes Thailand ขณะเยือนกรุงเทพฯ ในเดือนนี้ว่า สัญญาณการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และจะดีขึ้นเรื่อยๆ ในเดือนที่เหลือของปีนี้จนถึงปีหน้า บนสมมติฐานที่ว่ากฎอัยการศึกจะต้องถูกยกเลิก และคำเตือนให้ระมัดระวังการเดินทางในไทย หรือ travel warning โดยรัฐบาลของประเทศต่างๆ จะลดระดับลงมา เพื่อแก้ปัญหาที่บริษัทประกันในต่างประเทศไม่รับประกันภัยสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทย ขณะที่ยังอยู่ภาวะกฎอัยการศึก

 

“ผมเชื่อมั่นอย่างมากว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยมีแนวโน้มไปได้ดี... ปัจจัยสำคัญของอุตสาหกรรมนี้คือเสถียรภาพของประเทศ” เขากล่าว และเสริมว่าไทยยังเป็นประเทศที่ “ปลอดภัย” สำหรับการท่องเที่ยว เห็นได้ว่าทุกวันนี้คนไทยยังทำใช้ชีวิตได้ตามปกติ ดังนั้น Starwood “จึงทำงานอย่างหนัก” ร่วมกับบริษัทท่องเที่ยวและสายการบินต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงเวลาที่ผ่านมา 

 

Ho บอกอีกว่า เขาไม่คิดว่าปีนี้เป็นที่ “ลำบากที่สุด” ของบริษัทที่ทำธุรกิจที่นี่ เนื่องจากที่ผ่านมา เครือโรงแรมของเขาก็เผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆ อยู่เสมอ ทั้งจากรัฐประหารและภัยธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี

 

เขาย้ำว่า ประเทศไทยยังเป็นประเทศน่าเที่ยว เขายกกรุงเทพฯ เป็นเมืองตัวอย่าง แม้ว่าจะเผชิญกับรถติด แต่ก็สร้างความจดจำที่ดีให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก  เขาไม่คิดว่ามันเป็นอุปสรรคกับการท่องเที่ยวเลย ในทางตรงกันข้ามนักท่องเที่ยวจำนวนมากยังสนุกกับการท่องเที่ยวโดยใช้พาหนะอื่นๆ เป็นทางเลือกในการเดินทางอย่าง เช่นรถไฟฟ้า ในที่สุดแล้ว ชัดเจนว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนมากกลับมาเยี่ยมเยือนกรุงเทพฯ อีกหลายๆ ครั้ง ซึ่งมันต่างจากเมืองอื่นๆ ที่เขาเหล่านั้นไปแค่ครั้งเดียวเพื่อให้รู้เท่านั้นและไม่กลับไปเที่ยวอีกเลย

 

เหตุผลหลักที่ประเทศไทยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขนาดนี้ Ho สรุปได้ว่าส่วนประกอบของความสำเร็จเหล่านั้นคือ คนที่เป็นมิตร บริการที่มีคุณภาพ อาหารอร่อย ความบันเทิงและการช็อปปิ้ง โดยรวมคือ ความหลากหลายทางการท่องเที่ยว ที่ไม่แค่ดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกลุ่มครอบครัวและประชุมสัมมนาต่างๆ อีกด้วย 

 

“ความเป็นลักษณะพิเศษของไทยตรงนี้เอง มันไม่ง่ายที่ ประเทศอื่น จะมาแข่งด้วย” เขากล่าวและย้ำว่า ไทยเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในภูมิภาค เมื่อประเทศไทยได้รับผลกระทบจากพิษการเมือง ประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย

 

Ho ปฏิเสธที่จะเปิดเผยถึงจำนวนโรงแรมใหม่ที่จะเปิดในอนาคตที่นี่ แต่กล่าวว่าบริษัทจะเปิดให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเฉพาะในรูปแบบรีสอร์ต เนื่องจากมีหลายเมืองที่น่าสนใจอาทิ เชียงใหม่ หัวหิน เขาหลัก สมุย และภูเก็ต เป็นต้น แต่ละพื้นที่ก็มีจุดขายต่างกัน อย่างเช่นหัวหินกำลังเป็นจุดหมายปลายทางของการประชุมสัมมนา และการจัดงานแต่งงาน โดยเฉพาะปีนี้จัดพิธีแต่งงานของชาวอินเดียไปกว่า 30 คู่แล้ว หรือเขาหลักก็เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวชาวยุโรป สำหรับกรุงเทพฯ แล้ว บริษัทก็ให้ความสำคัญเช่นกัน และไม่คิดว่าตลาดห้องพักในเมืองหลวงจะล้นเหมือนที่เข้าใจกัน ในส่วนตัวของเขายังเชื่อว่า เมื่ออุตสากรรมท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้น ความต้องการห้องพักก็จะดีดกลับเอง

 

ปัจจุบันกลุ่ม Starwood มีโรงแรม 22 แห่งในประเทศไทย โดยผ่านการรับจ้างบริหาร รวมไปด้วยแบรนด์ Aloft, Four Points by Sheraton, Le Meridien, Sheraton, W, The Luxury Collection, St. Regis และ Westin และจะเปิดอีก 3 แห่งในอนาคตคือ Le Meridien Suvarnabhumi Golf Resort & Spa, Sheraton Samui Resort และ W Retreat Phuket - Phang Nga Bay แขกที่พักมากกว่า 50% มาจากในระดับภูมิภาคและในเอเชียเช่น จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย และรัสเซีย

 

กรมการท่องเที่ยวซึ่งอยู่ภายใต้กำกับของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานถึงสถานการการท่องเที่ยวในไทยว่า ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยลดลง 10.66% เหลือราว 15.7 ล้านคน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ขณะที่รายได้หดตัวลง 7.8% เหลือราว 724.75 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม คาดว่าในเดือนที่เหลือของปีนี้จะมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากบ้านเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น และการผ่อนคลายมาตรการด้านความมั่นคง รวมไปถึงการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวจีนอีกด้วย