แน่นอนว่า เมื่อเม็ดเงินลงทุนสูงขนาดนี้ รัฐบาลจะพึ่งพางบประมาณเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะมีข้อจำกัดด้านการเงินและการกู้ยืมเงินตราต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ ทางออกของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอีกทางหนึ่งที่จะนำมาใช้ได้ คือ การร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public-Private Partnerships หรือ PPPs) โดยรัฐเปิดโอกาสให้เอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ (Economic Infrastructure)
เหตุผลบางส่วนที่ทำให้การร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนจึงได้รับความนิยม? นั่นเป็นเพราะ PPPs ช่วยรัฐประหยัดต้นทุนการลงทุน การให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนช่วยให้รัฐเกิดความคล่องตัวในการจัดสรรงบประมาณและค่าใช้จ่าย ถือเป็นการแบ่งเบาภาระและลดปริมาณเงินที่รัฐจำเป็นต้องกู้มาจัดทำโครงสร้างพื้นฐาน อีกทั้ง PPPs เพิ่มโอกาสและช่องทางในการทำธุรกิจให้แก่ภาคเอกชน นำไปสู่การนำเสนอการให้บริการสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลดีแก่ผู้บริโภค
ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา มีราชกิจจานุเบกษาประกาศคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ เรื่อง แผนยุทธศาสตร์ให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2558-2562 ออกมาแล้วว่า จะเปิดโอกาสให้เอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุน (Opt-out) 6 กิจการ และรัฐส่งเสริมให้เอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุน (Opt-in) 14 กิจการ โดยมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นราว 1.41 ล้านล้านบาท ซึ่งกติกาของการเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน จะเป็นไปตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 หรือเรียกสั้นๆ ว่า พ.ร.บ. ร่วมทุนปี 2556 (กฎหมาย PPPs)
![](/uploads/userfiles/images/August%202015/insights-2.jpg)
ในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายฉบับนี้ยังได้ศึกาการดึงเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจากประเทศต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษหรือเกาหลีใต้ สำหรับบ้านเราหากลองเจาะลงไปดูรายละเอียดของพ.ร.บ. ร่วมทุนปี 56 จะเห็นความชัดเจน 5 ด้านหลักๆ ด้วยกัน ดังนี้
1.มีหน่วยงานกำกับดูแลชัดเจน
2.การพิจารณาโครงการมีความรวดเร็วขึ้น
3.มีสัญญามาตรฐานชัดเจน
4.โครงการมีความน่าเชื่อถือและมีมูลค่ามากขึ้นเพราะมีที่ปรึกษาดูแล
5.มีกลไกที่อำนวยความสะดวกในการลงทุน โดยกฎหมายกำหนดมาตรการพิเศษ
![](/uploads/userfiles/images/August%202015/Janist-re.jpg)
จนิษฐ อาภรณ์รัตน์
ผู้อำนวยการสายงานภาษีและกฎหมาย
บริษัท PwC ประเทศไทย
คลิ๊กอ่านฉบับเต็ม "เจาะ พ.ร.บ. ร่วมทุนปี 56 ความหวังลงทุนโครงสร้างพื้นฐานไทย" ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ August 2015