ส่งไม้ต่อธุรกิจแบบเศรษฐีหมื่นล้าน “ประยุทธ มหากิจศิริ” - Forbes Thailand

ส่งไม้ต่อธุรกิจแบบเศรษฐีหมื่นล้าน “ประยุทธ มหากิจศิริ”

FORBES THAILAND / ADMIN
10 Jun 2015 | 11:25 AM
READ 6858
ในวัย 70 ปี ประยุทธ มหากิจศิริ เจ้าของอันดับ 18 ในรายชื่อ 50 อันดับมหาเศรษฐีไทย ปี 2015 จัดโดย Forbes ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 4.56 หมื่นล้านบาท จากธุรกิจกาแฟ เหล็กกล้า ขุดเจาะน้ำมัน ขนส่งทางน้ำ และอสังหาริมทรัพย์ ลุกขึ้นมาจับปากกาเขียนหนังสือ “ลองดู ประยุทธ มหากิจศิริ” จัดพิมพ์ครั้งแรกเมื่อต้นปีนี้ และนับถึงตอนนี้มียอดพิมพ์แล้วกว่า 1.5 แสนเล่ม เพื่อบันทึกประวัติชีวิต 5 รุ่น “มหากิจศิริ” พร้อมแนะเคล็ดลับการส่งไม้ต่อทางธุรกิจ

ประยุทธ บอกว่า หลักการและวิธีปฏิบัติสำหรับหัวหน้าครอบครัวที่ประสบความสำเร็จแล้วนั้น จะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมของสมรรถภาพของผู้สืบสกุลว่า มีความเพียรพยายามมากน้อยเพียงใดในการดำรงชีวิตข้างหน้า ซึ่งมีลักษณะทางเลือกอยู่ 2 ทางคือ

1. รักษาดูแลและขยายธุรกิจของครอบครัว ให้เจริญยิ่งขึ้นต่อไป หรือ
2. จะอยู่แบบสบายๆ ไม่ต้องทำงานหนักเกินเหตุ สามารถดูแลค้ำจุนทรัพย์สมบัติที่มีให้คงอยู่ได้

กรณีที่ 1 หัวหน้าครอบครัวต้องมั่นใจว่า ผู้สืบสกุลต้องมีใจที่จะทำงานหนัก เพื่อสานนโยบายงานและธุรกิจครอบครัวต่อไปได้ ส่วน กรณีที่ 2 หัวหน้าครอบครัวต้องช่วยวางกรอบของธุรกิจ เพื่อให้ผู้สืบสมบัติต่อนั้น เข้าใจถึงวิธีการดูแลสมบัติของครอบครัว ที่ผู้ปกครองได้สร้างมาอย่างยากลำบาก ให้สามารถยืนหยัดอยู่ต่อไปได้ หากมีการวางรูปแบบที่ดีแล้ว ลูกหลานผู้สืบสกุลก็จะสามารถบริหารทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ ให้มีรายได้สม่ำเสมอสามารถเลี้ยงดูครอบครัวให้มั่นคงต่อไปได้

สิ่งที่กล่าวมา ไม่มีกรณีใดกรณีหนึ่งที่ดีกว่าอีกกรณีหนึ่ง ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของครอบครัวนั้นๆ

การดูแลธุรกิจครอบครัวให้มีศักยภาพสูงสุด ต้องรู้จักวางแผน แยกแยะงานให้เป็นระบบ มีคนรับผิดชอบกับงาน โดยการทำงานเป็นหมู่คณะ การวางคนให้เหมาะกับงาน เป็นต้น การบริหารธุรกิจที่ดีนั้น อาจจำแนกออกเป็น 2 แนวทางใหญ่ ซึ่งมีความสำคัญต่อความสำเร็จขององค์กร คือ

1. Macro
2. Micro

Macro ความหมายคือด้านนโยบาย หรือด้านหลักการต่างๆ เพื่อให้เห็นทิศทางและโอกาส ที่จะพัฒนาองค์กร ที่ควรจะมี หรือพึงมี นโยบายต้องพร้อมยืดหยุ่นได้เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ ทั้งนี้ เพื่อให้องค์กรสามารถเดินไปสู่เป้าหมายข้างหน้าได้

Micro ความหมายคือในเรื่องปฏิบัติงานวันต่อวัน เป็นสิ่งสำคัญที่จะขับเคลื่อนและผลักดันให้องค์กรนั้นไปข้างหน้าพร้อมกับประสบผลสำเร็จได้ จึงต้องมีการดูแล ควบคุมอย่างใกล้ชิด มีบุคลากรที่ดี ทำงานเป็นกลุ่ม คอยสนับสนุนในเรื่องการงาน และการปฏิบัติงานต่างๆ ให้เรียบร้อยไปสู่เป้าหมายตามที่ได้วางแผนไว้

เมื่อแลกเปลี่ยนและแยกแยะความหมายและความเข้าใจเรื่อง Macro และ Micro แล้ว ก็ให้ปรับความเข้าใจคนในครอบครัวเพื่อให้แนวความคิดตรงกันทุกคน ซึ่งมีส่วนสำคัญมากต่อการขับเคลื่อนไปข้างหน้า การไม่มีเวลาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นให้ตรงกัน อาจทำให้ขับเคลื่อนผิดทิศทางก็เป็นได้

การเลือกผู้รับช่วง ต้องไม่เลือกคนที่ตนเองชอบมากที่สุด ต้องเลือกคนที่เหมาะสมที่สุด

ลูกที่เลียนแบบพ่อมากเกินไป จะเปิดหน้าต่างหรือมุมมองต่างๆ ของครอบครัวไม่ออก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะมองไม่เห็นจุดอ่อนหรือปัญหาที่ได้สะสมมา เมื่อไม่เห็นปัญหาก็แก้ไขจุดอ่อนไม่ถูกวิธี

สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจ แผนงานฝึกสร้างผู้รับช่วง หรือสร้างบันไดไต่เต้าให้รุ่นต่อไปได้เรียนรู้ และสะสมประสบการณ์ในการบริหารกิจการให้ถูกวิธีมีส่วนสำคัญ คือ

1. ให้ศึกษางาน 2. บริหารโครงการ 3. ศึกษางานด้านการเงิน 4. ศึกษางานด้านบุคคล 5. ผู้ช่วยผู้จัดการ 6. รับผิดชอบแผนงานธุรกิจ 7. ผู้จัดการทั่วไป 8. ประธานกรรมการ

หลักการและวิธีการส่งต่อธุรกิจให้รุ่นต่อไปตามที่กล่าวมานี้ เป็นข้อคิดในการวางแผนธุรกิจครอบครัวรูปแบบหนึ่ง ที่อาจนำไปปรับให้เข้ากับธุรกิจของแต่ละครอบครัว ให้สามารถขยายและเจริญรุ่งเรืองต่อไปได้

อ่านเพิ่มเติม
“เฉลิมชัย” พา TTA ลอยลำสู่กำไร

คลิ๊กเพื่ออ่านย้อนหลัง บทสัมภาษณ์ ของ "เฉลิมชัย มหากิจศิริ" บุตรชาย ผ่าน Forbes Thailand ฉบับ December 2014