สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ในงาน SCB Investment Symposium 2014
อดีตเลขาธิการอาเซียนย้ำไทยมีหลายธุรกิจที่เข้มแข็ง สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก แต่การเมืองที่ไม่สงบ ระบบอุปถัมภ์ และการทุจริตในวงกว้าง จะเป็นตัวบั่นทอนความสามารถทางการแข่งขันของประเทศในอนาคต
สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ในฐานะประธานสถาบันออกแบบอนาคตประเทศไทย (FIT) กล่าวในงานสัมมนา "SCB Investment Symposium 2014 Change Rising ทะยานสู่ศักราชใหม่เศรษฐกิจโลก" เมื่อ 23 กันยายนนี้ว่า โอกาสและความท้าทายของผู้ประกอบการไทยบนเวทีธุรกิจระดับโลก ขึ้นอยู่กับการก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจของ ASEAN เช่น จำนวนชนชั้นกลางที่จะเติบโตจนมีอัตรา 60% ของประชากรทั้งหมดในปี 2030 และยังต้องปรับตัวให้ทันกาลก่อนจะสายเกินไป
"สิ่งที่ท้าทายที่สุดคือจะรักษาโอกาสจากที่ลูกตุ้มนาฬิกาแห่งความรุ่งเรือง หมุนมาสู่ ASEAN ให้ยั่งยืนได้อย่างไร"
สุรินทร์ระบุว่า อุตสาหกรรมหลายประเภทของไทยมีความสามารถทางการแข่งขันสูงในระดับโลก เช่น เช่น อาหารแช่แข็ง, ยานยนต์, การท่องเที่ยว หรือธุรกิจการแพทย์ แต่หากจะให้รักษาเพดานบินไว้ได้ ก็ต้องไม่ละเลยที่จะปรับโครงสร้างพื้นฐานล่วงหน้า ก่อนที่คู่แข่งจะมาช่วงชิงตลาด
"มีชาวต่างชาติย่านสุขุมวิทบอกว่าชอบเมืองไทย แต่เบื่อตำรวจมากวน" ดร.สุรินทร์สะท้อนหนึ่งในปัญหาที่บั่นทอนอนาคตของไทยอีกว่า หากระบบอุปถัมภ์และการทุจริตยังกัดกินรากฐานของไทยให้สั่นคลอน ก็ยากจะสร้างความสามารถในการแข่งขันได้
จุดน่าห่วงคือ การเมืองที่ไม่นิ่งเป็นหนึ่งในอุปสรรคขวางการเติบโต และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของไทย จากมุมองของสุรินทร์ซึ่งกล่าวติดตลกว่า ช่วงที่เคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการอาเซียนตลอดเวลา 5 ปี ได้คุยกับนายกรัฐมนตรี 5 คน รวมถึงทัศนตติและการปฏิบัติกับแรงงานต่างด้าวอย่างไร้มนุษยธรรม หรือนิยามได้ว่าการใช้แรงงานทาสในบางส่วนของภาคธุรกิจไทย ก็เป็นอีกช่องโหว่ที่ต้องเร่งแก้ไข นอกจากนี้ ทักษะด้านภาษาอังกฤษต้องถูกยกระดับอย่างจริงจังอีกด้วย
"หมดเวลาที่จะแก้ตัวว่าเราไม่ใช่เมืองขึ้นมาก่อนจึงพูดอังกฤษไม่เก่ง" ดร.สุรินทร์กล่าว และย้ำว่าถ้าภาษาและการศึกษาไม่ดี ก็ยากที่ผู้ประกอบการขนาดเล็กจะแข่งขันในระดับภูมิภาคได้
สุรินทร์ยังระบุอีกว่าภาคราชการของไทยต้องโปร่งใสและมีความเป็นมืออาชีพกว่านี้ พร้อมย้ำประโยคเด็ด "ต้องไม่ใช่มีวันนี้เพราะพี่ให้" รวมถึงยังต้องเร่งการสร้างนวัตกรรมให้ดีกว่านี้ และเห็นการลงทุนเพื่อค้นคว้าวิจัยอย่างจริงจัง เพื่อสร้างแต้มต่อแก่ลูกหลานรุ่นหลังและประเทศไทย
"ถ้าเราติดหล่มอยู่ เพื่อนบ้านที่ตามมาติดๆ ก็คงแซงไปในที่สุด" สุรินทร์ฝากข้อคิดต่อการวางอนาคตประเทศไทยเป็นการปิดท้าย