วีโร่ เอเจนซี่ ด้านประชาสัมพันธ์และดิจิทัล ที่มีสำนักงานในไทย เมียนมา และประเทศต่างๆ ในอาเซียน เตรียมออกอัปเดตบทสรุปสถานการณ์ล่าสุดรายสัปดาห์ ทั้งในด้านการประกอบธุรกิจและภูมิทัศน์ของสื่อในเมียนมา เพื่อเตรียมความพร้อมแก่ธุรกิจและวงการเอเจนซี่ประชาสัมพันธ์ รวมถึงแบ่งปันแนวทางเพื่อการดำเนินงานธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากบทสรุปสถานการณ์ล่าสุดประจำสัปดาห์นี้เป็นฉบับแรก
ภัทร์นีธิ์ จีริผาบ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารของวีโร่ กล่าวว่า “วีโร่ในฐานะผู้พิทักษ์แบรนด์ของลูกค้า และองค์กรพลเมืองของอาเซียน เราถือว่านี่คือหน้าที่และความรับผิดชอบในการมอบคำปรึกษาแก่ลูกค้าของเรา เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานการณ์ในตลาดประเทศ เมียนมา อย่างรอบด้าน เพื่อประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างถูกต้องแม่นยำ เราหวังว่าการออกบทสรุปล่าสุดทุกสัปดาห์จะเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือแก่แบรนด์ต่างๆ ที่ดำเนินธุรกิจในเมียนมา และแก่ผู้อ่านที่มีข้อกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ ท่ามกลางกระแสของข่าวลือและการคาดเดาต่างๆ มากมาย และขอใช้โอกาสนี้เพื่อขอบคุณเพื่อนร่วมงานของเราในย่างกุ้ง ที่ยังคงรักษาคำมั่นสัญญาที่จะสนับสนุนลูกค้าของเราต่อไปแม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก” บทสรุปสถานการณ์จากวีโร่ มอบข้อเสนอแนะที่แบรนด์และผู้นำธุรกิจควรพิจารณาเพื่อใช้ดำเนินการต่อได้ทันที สามารถดูบทสรุปและคำแนะนำฉบับสมบูรณ์ได้ที่นี่ บทสรุปสถานการณ์ล่าสุดในเมียนมา ฉบับที่ 1 ตัวอย่างบางส่วนจากบทสรุปและคำแนะนำฉบับสมบูรณ์ฉบับล่าสุดที่ออกในวันนี้ โดยวีโร่จะอัปเดตสถานการณ์ล่าสุดรายสัปดาห์แก่ท่านอย่างต่อเนื่องในฉบับถัดๆ ไป- ให้ความเอาใจใส่และความเห็นอกเห็นใจกลุ่มเป้าหมายของตนให้มากขึ้นกว่าเดิมผ่านการสื่อสารทุกรูปแบบ
- หากแบรนด์มีพนักงานในเมียนมา ขอให้ทุ่มเทเวลาและทรัพยากรต่างๆ ในการช่วยเหลือพนักงานให้สามารถรับมือและผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้ เช่น การสร้างช่องทางต่างๆ สำหรับการติดต่อสื่อสารในกรณีที่เกิดเหตุขัดข้องอื่นๆ ตามมา และวางจุดยืนขององค์กรในสถานการณ์ปัจจุบันให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- แบรนด์ควรงดเว้นกิจกรรมหรือแคมเปญต่างๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่เราควรให้ความสำคัญกับกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ที่ทำให้เสี่ยงต่อการถูกเข้าใจผิดว่าเป็นองค์กรที่ปิดหูปิดตาไม่ให้ความสนใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
- แบรนด์ควรมีความระมัดระวังในการติดตามตรวจสอบภาพลักษณ์ของแบรนด์ รวมถึงควรมีการเตรียมแผนงานด้านการปกป้องภาพลักษณ์ของแบรนด์เอาไว้ อนึ่งขณะนี้มีข้อมูลข่าวสารที่ไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับแบรนด์ต่างๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับกองทัพเผยแพร่ต่อๆ กันไปเป็นวงกว้าง ดังนั้นการชี้แจงถึงความเป็นอิสระและปลอดจากการเมืองจึงจำเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์เช่นนี้
- แบรนด์ควรตรวจสอบย้อนหลังไปถึงประวัติการติดต่อหรือความสัมพันธ์กับรัฐวิสาหกิจของเมียนมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อประเมินว่าการติดต่อครั้งนั้นจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงขององค์กรหรือไม่
- แบรนด์ควรพิจารณาอย่างรอบคอบเป็นกรณีๆ ไปเกี่ยวกับสิ่งที่สามารถหรือไม่สามารถสื่อสารกับประชาชน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และลูกค้า ทั้งนี้เนื่องจากหลายคนมองว่าแบรนด์ต่างๆ ควรมีจุดยืนของตนเอง ซึ่งในบางกรณีก็อาจเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นสถานการณ์ที่แต่ละแบรนด์เผชิญอยู่มีความเฉพาะเจาะจงที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นในกรณีที่มีประเด็นปัญหาสำคัญ จุดยืนที่แบรนด์เลือกจึงจำเป็นต้องเป็นจุดยืนที่แบรนด์มีแผนสำรองเตรียมรับมือเอาไว้แล้วอย่างดี
- แบรนด์และองค์กรต่างๆ ที่สามารถช่วยเหลือประชาชนในประเทศนี้ได้ ควรมองหาลู่ทางในการให้ความช่วยเหลือในสิ่งที่ขาดแคลน
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine