วอริกซ์เปิดตัวชุดแข่งทีมชาติไทยปี 2019 วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล คาดสิ้นปีปิดรายได้ราว 660 ล้านบาท
วอริกซ์เปิดตัวชุดแข่งทีมชาติไทยปี 2019 ใช้เทคโนโลยีการผลิตเดียวกับชุดแชมป์เวิร์ดคัพปีล่าสุด ด้าน วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการบริษัทวอริกซ์ฯ เผยยอดขายรวมโตราว 21 เปอร์เซ็นต์ คาดสิ้นปีปิด 660 ล้านบาท ตลอด 5 ปีการก่อตั้งโตแบบก้าวกระโดด ภูมิใจเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างผลิตภัณฑ์คุณภาพสู่คนไทย และความพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2562
วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด เผยถึงการเปิดชุดแข่งขันทีมชาติไทยประจำปี 2562 ซึ่งมีการเปลี่ยนชุดใหม่ปีละหนึ่งครั้ง ซึ่งในปีนี้ วอริกซ์ ได้นำเทคโนโลยีการผลิตแบบ COMBATEC 7 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการผลิตเดียวกับชุดทีมชาติในชุดแข่งขันสำหรับนักเตะ ซึ่งในทุกปีชุดแข่งขันจะออกแบบและผลิตเป็น 3 ระดับ คือ ชุดแข่งขันสำหรับนักเตะ เทคโนโลยีการผลิต COMBATEC 7 ในราคา 1,999 บาท, ชุดแข่งขันสำหรับแฟนบอล ใช้เทคโนโลยี COMBACOOL 3 ในราคา 399 บาท และ เสื้อเชียร์ทีมชาติไทย ที่ใช้เทคโนโลยี COMBALITE3 ในราคา 399 บาท
“ความภูมิใจของวอริกซ์คือการผลิตชุดแข่งขันที่เป็นที่พึงพอใจกับผู้บริโภค เรานำเทคโนโลยีการผลิตและเนื้อผ้าคุณภาพสูงในราคาที่เป็นไปได้ ในทุกๆ ปีคุณภาพของชุดแข่งขันในแต่ละรุ่นเราใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี” วิศัลย์ กล่าว
วิศัลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่าปีนี้เป็นที่สองจากสัญญาทั้งหมด 4 ปี ที่เราได้ลิขสิทธิ์ในการผลิตชุดแข่งขันให้กับทีมชาติไทย ตลอดสองปีที่ผ่านมาเรามีจำหน่ายชุดแข่งขัน (นับเฉพาะเสื้อ) ราว 1 ล้านตัว ซึ่งเป็นสัดส่วนจากการจำหน่ายผ่านหน้าร้านราคา 6 สาขาและการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์
สำหรับภาพรวมการเติบโตบริษัท วิศัลย์เผยว่าปี 2561 เราคาดการณ์รายได้ที่ราว 660 ล้านบาท โดยมีสัดส่วน 1 ใน 3 เป็นชุดแข่งขันที่วอริกซ์ได้ลิขสิทธิ์ในการผลิตชุดแข่งขันฟุตบอล โดยมีชุดทีมชาติ ชุดสโมสรประจำจังหวัด และชุดแข่งขันฟุตบอลในกลุ่มประเทศอาเซียนที่เราได้ลิขสิทธิ์ อาทิ สัญญา 6 ปีในได้ลิขสิทธิ์ชุดแข่งขันฟุตบอลเมียนมาเมื่อต้นปี โดยมีกลุ่มนี้ยังรวมไปถึงกีฬาฟุตซอลด้วย โดย สัดส่วนรายได้ 2 ใน 3 ที่เหลือเป็นการผลิตที่ไม่ใช่กลุ่มกีฬาฟุตบอล อาทิ ชุดแข่งขันแบตมินตัน, ชุดแข่งขันกีฬากอล์ฟ และการผลิตอื่นๆ อาทิ เสื้องานวิ่ง ซึ่งวอริกซ์
วิศัลย์กล่าวเสริมว่ากลุ่มเป้าหมายสำหรับสินค้าชุดกีฬาของเราอยู่ที่ราว 7 ล้านคน โดยสัดส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายราว 39 เปอร์เซ็นต์มาจากร้านสาขา เขาย้ำเสริมว่า สัดส่วนในการจัดจำหน่ายผ่านออนไลน์ มีการเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ วอริกซ์ทำการจัดหน่ายออนไลน์ผ่านกลุ่ม มาร์เก็ตเพลซ อาทิ ลาซาด้า, ช้อปปี้ รวมถึงการนำเสนอช่องทางใหม่ๆ อย่าง การสั่งซื้อผ่าน 7-Eleven
“ปีนี้เราลงทุนราว 50 ล้านบาทในหลายๆ อาทิการย้ายคลังสินค้าจากนครปฐมไปยังย่านกิ่งแก้ว ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีพื้นที่ขยายจากเดิม 800 ตร.ม. เป็น 2,500 ตร.ม. รวมถึงพัฒนาระบบการจัดส่งภายใน รวมถึงการขยายร้านสาขาและการปรับปรุงเว็บไซต์” วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด กล่าวและเสริมว่า
“เป้าหมายปี 2562 เราตั้งเป้ารายได้ที่ 800 ล้านบาท โดยปีหน้าเราขยายตลาดไปยังกลุ่มสินค้า “สปอร์ตแฟชั่น” และ “กลุ่มไลฟ์ไตล์แวร์” ซึ่งเป็นซับแบรนด์ของ วอริกซ์ คาดการณ์จำหน่ายราวไตรมาสสองของปี 2562 และปีหน้าเราขยายการทำการตลาดไปยังกลุ่มอายุใหม่ๆ ทั้งเด็กลงและแก่ขึ้น ซึ่งกลุ่มเป้าหมายเดิมของเราอยู่ที่ช่วงอายุ 18-35 ปี ซึ่งเราอาจจะทำตลาดแตะไปที่อายุ 15-16 ปี ในทำการตลาดไปถึงกลุ่มอายุ 4 ปี”