ลิงค์ เน็ตเวิร์คฯ รวมพลขาใหญ่ คลุม 6 ธุรกิจทั่วไทย - Forbes Thailand

ลิงค์ เน็ตเวิร์คฯ รวมพลขาใหญ่ คลุม 6 ธุรกิจทั่วไทย

ภายในห้องบอลรูมของโรงแรมย่านสุขุมวิทอัดแน่นไปด้วยสักขีพยานของการรวมตัวที่อลังการด้วยบรรดาเจ้าของกิจการและสุดยอดผู้บริหารของธุรกิจชั้นนำในไทยทั่วทุกภูมิภาค

หัวเรือใหญ่ของงาน ไม่ใช่ใคร แต่เป็นหนึ่งในสมาชิกทำเนียบ 50 เศรษฐีไทยลำดับที่ 13 จัดโดย Forbes  คือ วิชัย ทองแตง นักลงทุนและนักธุรกิจแถวหน้าในฐานะผู้ให้คำปรึกษาและร่วมลงขันที่สัดส่วน 25% ของทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท (ที่ไม่ยอมระบุตัวเลขเม็ดเงินลงทุนด้านไอทีและระบบเครือข่ายชัดๆ แต่ยืนยันว่าเป็นทุนส่วนตัวของวิชัยเอง) ส่วนทุนอีก 75%  มาจากพันธมิตรหลักของดีลนี้อีก 28 ราย ด้วยความเชื่อของวิชัยที่ว่าผู้อ่อนแอต้องรวมตัวกันเผื่อให้แข่งขันได้แกร่งขึ้นและรับมือกับ AEC ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยย้ำว่า "คนเก่งถ้ารวมกันได้จะเกิดพลัง" 

ขณะที่มีแกนนำอีกสองรายร่วมบอกเล่าเรื่องราวและที่มาของการจับมือครั้งนี้คือ ธนกร วีรชาติยานุกูล เจ้าของศูนย์การค้า UD Town และประธานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี ในฐานะผู้จุดประกาย และ ทวี โฆษิตจิรนันท์ กรรมการผู้จัดการ แห่ง MatchPoint International ที่เป็นผู้ผลักดันให้เกิดดีลในบทของนักจัดคู่ธุรกิจ จากคำท้าของธนกรที่ว่า "ถ้าทำได้จริงจะแก้ผ้า" ซึ่งเปิดใจบนเวทีแถลงข่าวว่าตอยนนั้นพูดไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอลล์

"การรวมตัวครั้งนี้น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนของทุกคนที่มารวมกัน เพราะดีลนี้แค่ชอบแต่ไม่เชื่อใจกันก็ไม่เกิด" ทวี เผยถึงเหตุแห่งความร่วมมือเชื่อมเครือข่ายธุรกิจครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วไทย ที่กลายเป็น บริษัท ลิงค์ เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด ที่ครอบคลุม 6 กลุ่มธุรกิจ คือ 1) สินค้าอุปโภคบริโภค 2)  สินค้าเครื่องใช้ในบ้าน 3) มือถือและอุปกรณ์สื่อสาร 4) ทีวี-อินเตอร์เน็ต 5) บริการทางการเงิน 6) สินค้าเอสเอ็มอี และสินค้าประจำถิ่น ซึ่งเดินหน้าด้วยธุรกิจจัดจำหน่ายและบริการก่อนเป็นก้าวแรก

ทั้งนี้หนึ่งในตัวแทนหัวเรือใหญ่บอกว่า "เราคือห้างขนาดใหญ่มากๆ ที่กระจายสินค้าและบริการไปทั่วประเทศ ซึ่งเข้าถึงท้องถิ่นได้จริงๆ" ซึ่งยอดขายของทั้งเครือข่ายอยู่ที่ราว 2 หมื่นล้านบาทในปีที่ผ่านมา ทรงพลังด้วย 150,000 ช่องทางจำหน่ายที่มีตั้งแต่ห้างขนาดใหญ่ถึงร้านของชำในชุมชน และจะเป็น 300,000 ช่องทางจำหน่ายในปี 2559

อีกหนึ่งพันธมิตรที่เล็งเห็นโอกาสของดีลนี้ คือ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ที่หวังให้เครือข่ายนี้เป็นช่องทางจำหนายกล่องดิจิตอลทีวี GMM Z ให้ลงถึงตลาดท้องถิ่น และยังสามารถนำสินค้าของพันธมิตรมาจำหนายผ่าน O Shopping หรือ home shopping  ที่บริหารโดย บริษัท จีเอ็มเอ็ม ซีเจ โอ ช้อปปิ้ง จำกัด ของค่ายจีเอ็มเอ็มที่จับมือกับ CJ O Shopping หนึ่งในบริษัทในเครือซีเจกรุ๊ป หรือ CJ Corporation (Cheil Jedang Corporation) จากเกาหลี

ทั้งนี้โครงสร้างของบริษัทในภาพรวมจะมี ลิงค์ เน็ตเวิร์คฯ เป็นบริษัทแม่ ที่มีบริษัทลูกในเครือ 5 บริษัทที่ประจำอยู่ใน 5 ภูมิภาค สำหรับแผนงานจะแบ่งเป็นสามระยะ ซึ่งเฟสแรกนับจากปัจจุบันจนจบปี 2559 ที่วางเป้าทำยอดขายถึง 4 หมื่นล้านบาท ต่อมาเฟสสองคือระหว่างปลายปี 2559 ถึง 2560 เป็นช่วงเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ตามด้วยเฟสสามเน้นสร้างมูลค่าเพิ่มแก่บริษัทหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์

และแน่นอน เมื่อดีลสุดอลังการนี้วี่แววว่าจะติดลมบนได้จริง และตัวพ่อนักลงทุนในตลาดหุ้นเปิดใจถึงความเชื่อมั่นในดีลนี้แบบสุดตัวว่า "การรวมตัวนี้เป็นแนวคิดที่ถูกต้องในสภาพตลาดและการแข่งขันในปัจจุบัน ช่วยต่อยอดธุรกิจ ลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนบริหาร เพิ่มช่องทางจำหน่ายให้ธุรกิจรากหญ้า เอสเอ็มอี และผู้ผลิตท้องถิ่น ได้จริง" ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกที่ลิงค์ เน็ตเวิร์คฯ จ่อคิวจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยในอนาคตซึ่ง วิชัย ในฐานะประธานกรรมการของลิงค์ เน็ตเวิร์คฯ ย้ำว่าจะนำบริษัทลูกในเครือเข้าตลาดหุ้นก่อน