บี.กริม เพาเวอร์ ปรับโครงสร้างการบริหาร ตั้งเป้ากำลังการผลิต 7,200 เมกะวัตต์ในปี 2568 - Forbes Thailand

บี.กริม เพาเวอร์ ปรับโครงสร้างการบริหาร ตั้งเป้ากำลังการผลิต 7,200 เมกะวัตต์ในปี 2568

PR / PR NEWS
17 Dec 2020 | 02:15 PM
READ 1950

บี.กริม เพาเวอร์ ปรับโครงสร้างการบริหารรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมตั้งเป้าหมายการขยายกำลังการผลิตไปสู่ 7,200 เมกะวัตต์ เพื่อส่งเสริมและรองรับการขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคง

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการแต่งตั้ง ปรียนาถ สุนทรวาทะ ให้ดำรงตำแหน่ง รองประธานกรรมการ (Vice Chairperson) และปรับเปลี่ยนบทบาทจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มาเป็นกรรมการบริหาร บี.กริม เพาเวอร์ โดยมีหน้าที่บริหารจัดการธุรกิจต่างประเทศและมุ่งเน้นการขยายกิจการซึ่งมีเป้าหมายลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในต่างประเทศอีกกว่า 3,000 เมกะวัตต์ในปีหน้า และพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและลำเลียงก๊าซ LNG ให้ประสบความสำเร็จต่อไป ด้วยเหตุนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทจึงได้อนุมัติแต่งตั้ง ฮาราลด์ ลิงค์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แทนตำแหน่งที่ว่างลงนี้ ทั้งนี้ ฮาราลด์ ลิงค์ เป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญ และมีประสบการณ์ทำงานในธุรกิจต่างๆ รวมถึงธุรกิจพลังงานมายาวนานกว่า 40 ปี โดยเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้บริหารระดับสูงสุดของ บี.กริม เพาเวอร์มาตั้งแต่เริ่มต้น บี.กริม เพาเวอร์ มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักธรรมมาภิบาล มุ่งเน้นการขยายธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยปัจจุบัน คณะกรรมการบริษัทมีสัดส่วนกรรมการอิสระถึงร้อยละ 66.6 และนอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทจึงได้อนุมัติแต่งตั้ง คุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ ให้ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการอิสระ (Lead Independent Director) เพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจตามหลักกำกับดูแลกิจการที่ดีให้เป็นไปตามหลักสากล ด้วยเป้าหมายการขยายกำลังการผลิตไปสู่ 7,200 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตจากโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วและอยู่ระหว่างพัฒนา 3,682 เมกะวัตต์ บี.กริม เพาเวอร์ ได้ขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ เวียดนาม สปป.ลาว โอมาน ฟิลิปปินส์ และล่าสุดโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กำลังผลิตติดตั้ง 39 เมกะวัตต์ ภายใต้บริษัท Ray Power ในกัมพูชาได้ผ่านการทดสอบความสมบูรณ์ของการเชื่อมต่อระบบเพื่อจำหน่ายไฟฟ้าเรียบร้อยแล้วเตรียมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในเดือนนี้ตามแผนแม้ว่าจะมีเหตุการณ์โควิด 19 และอุทกภัยก็ตาม ซึ่งจะถือเป็นการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งเดียวของกัมพูชาในปีนี้