ธิสเซ่นครุปป์ ตั้งฐานการผลิตและศูนย์โอลีโอเคมีคอลระดับโลกแห่งแรกในประเทศไทย ที่พร้อมส่งออกเทคโนโลยีสู่ทั่วโลก - Forbes Thailand

ธิสเซ่นครุปป์ ตั้งฐานการผลิตและศูนย์โอลีโอเคมีคอลระดับโลกแห่งแรกในประเทศไทย ที่พร้อมส่งออกเทคโนโลยีสู่ทั่วโลก

Thyssenkrupp หนึ่งในกลุ่มบริษัทวิศวกรรมอุตสาหการที่มีความหลากหลายและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศเปิดศูนย์เทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมโอลีโอเคมีคอลในจังหวัดระยอง ใกล้นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ภายใต้การดูแลของ Thyssenkrupp Industrial Solutions ส่งมอบโซลูชั่นเชิงวิศวกรรมที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทั่วโลก ด้วยงบประมาณการลงทุนกว่า 18 ล้านยูโร หรือประมาณ 680 ล้านบาท

ทั้งนี้ Thyssenkrupp ได้ทำการส่งมอบโรงงานแบบโมดูลาร์ขนาดใหญ่ให้แก่ Oxiteno บริษัทผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ระดับโลกจากประเทศจากบราซิล โดยโรงงานดังกล่าวได้รับการพัฒนาออกแบบทางวิศวกรรมและก่อสร้างในประเทศไทย โดยหลังจากได้รับการตรวจสอบคุณภาพแล้ว จึงได้ทำการถอดออกเป็นส่วนๆ เพื่อทำการเคลื่อนย้าย โดยปัจจุบัน โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการขนส่งเพื่อส่งมอบให้ลูกค้านำไปประกอบเป็นโรงงานในประเทศสหรัฐอเมริกา
Brian Cameron ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Thyssenkrupp Industrial Solutions ประเทศไทย
“เราสามารถยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันในประเทศไทยเพื่อมอบโซลูชั่นส์ให้แก่โรงงานเกือบทุกแห่งทั่วโลกด้วยการใช้แนวทางแบบโมดูลาร์ ที่คล้ายกับตัวต่อเลโก้ ซึ่งทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น คาดการณ์ระยะเวลาได้ ทั้งยังมีมูลค่าการลงทุนที่ต่ำกว่า ทำให้ลูกค้าของเราสามารถผลิตสินค้าเข้าสู่ตลาดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น” Brian Cameron ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Thyssenkrupp Industrial Solutions ประเทศไทย เผย
Francois Schefman  Head of Country ประจำประเทศไทย, Thyssenkrupp
ด้าน Francois Schefman  Head of Country ประจำประเทศไทย, Thyssenkrupp กล่าวถึงความสำคัญของการลงทุนในประเทศไทย โดยศูนย์โอลีโอเคมีคอลแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของเราในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจในประเทศไทยให้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางวิศวกรรมในระดับโลกของเรา “การได้เห็นทีมงานที่มาบตาพุด ดำเนินโครงการระดับโลกจนแล้วเสร็จนั้น เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นยินดีอย่างมาก โครงการนี้นับเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าประเทศไทยมีคุณภาพการผลิตอยู่ในระดับสูง และวิศวกรไทยก็มีความสามารถที่จะแข่งขันในระดับโลกได้อย่างแท้จริง” ทั้งนี้ Heinrich Hiesinger CEO แห่ง Thyssenkrupp ได้ร่วมเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อเตรียมการเปิดตัวศูนย์เทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมโอลีโอเคมีคอลที่มาบตาพุต เขามาได้ย้อนเล่าถึงประวัติศาสตร์และความเป็นมาระหว่าง Thyssenkrupp กับประเทศไทย กว่า 145 ปี ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระอยู่หัวรัฐกาลที่ 5 รวมถึงการเสด็จเยือน สำนักงานใหญ่ Thyssenkrupp เยอรมันนี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัฐกาลที่ 9 สำหรับการเดินทางในประเทศของ Thyssenkrupp นั้นได้เข้ามาก่อตั้ง Thyssenkrupp Industrial Solutions ตั้งแต่ปี 2533 โดยมีไฮไลท์ที่สำคัญในการนำเทคโนโลยีจากเยอรมันนีสร้างธุรกิจแบบ B2B การก่อสร้างโรงงานที่ทำสัญญาร่วมกับ TPI Polene จังหวัดระยอง ด้วยสัญญา 150 ล้านยูโร ในปี 2546 และในปี 2558 Thyssenkrupp Industrial Solutions เดินทางมาสู่ก้าวกระโดดที่สำคัญคือการควบรวม Inventa Technology จากประเทศสิงคโปร์ และนำเทคโนโลยีและความรู้ต่างๆ มาใช้และลงทุนที่ ศูนย์เทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมโอลีโอเคมีคอล ในประเทศไทยทำให้ศูนย์เทคโนโลยีแห่งเป็นศูนย์วิจัยที่ทันสมัยที่สุดของ Thyssenkrupp ที่พร้อมส่งออกเทคโนโลยีสู่ทั่วโลก
Heinrich Hiesinger CEO Thyssenkrupp
“ธิสเซ่นครุปป์ อินดัสเตรียล โซลูชั่นส์ ประเทศไทย ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เรามีสัญญาจ้างกับลูกค้ารายใหญ่มากกว่า 100 รายในประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงโครงการออกแบบ จัดซื้อ และก่อสร้าง (อีพีซี) และการให้บริการดูแลตลอดทั้งอายุโครงการเราเป็นผู้ดำเนินโครงการสำคัญในประเทศไทยอย่างมากมาย อาทิ โครงการโรงงานปิโตรเคมีหลายแห่งในจังหวัดระยอง โครงการอุปกรณ์ทำเหมืองที่แม่เมาะ และโครงการก่อสร้างโรงงานปูนซีเมนต์ขนาดใหญ่ 4 แห่งในจังหวัดสระบุรี โดย ปัจจุบัน ธิสเซ่นครุปป์ อินดัสเตรียล โซลูชั่นส์ มีวิศวกรกว่า 250 คน ประจำอยู่ในสำนักงานที่กรุงเทพฯ และมาบตาพุด จังหวัดระยอง” Heinrich Hiesinger CEO Thyssenkrupp กล่าว และทิ้งท้ายภาพรวมทั่วโลกของ ThyssenKrupp “ปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 156,000 คน ในเกือบ 80 ประเทศทั่วโลก ทำงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ออกแบบกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรมอันล้ำสมัยและให้บริการเพื่อความก้าวหน้าที่ยั่งยืน เราถือว่าทักษะและความมุ่งมั่นของพนักงานคือพื้นฐานความสำเร็จของ ThyssenKrupp โดยในปีงบประมาณปี 2558/2559 สร้างยอดขายประมาณ 3.9 หมื่นล้านยูโร”