"ซิโนแวค ไบโอเทค" เผยการใช้งานวัคซีนโควิด ย้ำจุดยืนพัฒนาวัคซีนในมนุษย์ - Forbes Thailand

"ซิโนแวค ไบโอเทค" เผยการใช้งานวัคซีนโควิด ย้ำจุดยืนพัฒนาวัคซีนในมนุษย์

ซิโนแวค ไบโอเทค หรือ SVA ซึ่งจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq เปิดเผยประสิทธิภาพของการใช้งานวัคซีนทั่วโลกและไทย พร้อมเร่งพัฒนานวัตกรรมต่อสู้ในสงครามไวรัส

เหมิง เหว่ยหนิง รองประธาน บริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค (ฮ่องกง) จำกัด “จากการศึกษาและใช้งานจริงในชิลีพบว่า ในเด็กและวัยรุ่น 2 ล้านคนที่มีอายุระหว่าง 6 ถึง 16 ปี ที่ได้รับการฉีดวัคซีน CoronaVac ครบถ้วน ประสิทธิผลของวัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงถึง 74.5% ช่วยลดความจำเป็นในการรับการรักษาที่โรงพยาบาลได้ถึง 91.0% และป้องกันการรักษาตัวในแผนกผู้ป่วยหนักได้ถึง 93.8% ในเด็กและวัยรุ่นอายุ 6 ถึง 16 ปี” สำหรับประเทศไทย ซิโนแวคและวัคซีน CoronaVac ได้ร่วมในการรับมือกับสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่สำคัญของประเทศไทย โดยวัคซีน CoronaVac เป็นวัคซีนสำหรับไวรัสโควิด-19 ชนิดแรกที่ประเทศไทยนำเข้า และเป็นวัคซีนที่สองที่ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทยให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน จนถึงขณะนี้มีการใช้วัคซีน CoronaVac แล้วกว่า 26.3 ล้านโดสในประเทศไทย ซิโนแวคยังได้กระจายวัคซีนกว่า 10 ล้านโดสให้กับ 21 ประเทศภายใต้โครงการ CHINA AID ซึ่งในจำนวนนี้ 500,000 โดสได้ส่งมอบให้ประเทศไทย เขากล่าวต่อว่า “การอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทยเมื่อเร็วๆ นี้ในการให้ใช้วัคซีน CoronaVac กับเด็กที่มีอายุ 6 ปีขึ้นไป ยืนยันถึงการที่ซิโนแวคยึดมั่นในการที่จะช่วยให้ประชาชนในทุกช่วงอายุให้เข้าถึงวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิผล เรายังคงให้การสนับสนุนแก่ประเทศไทยในการเร่งและขยายขอบเขตการฉีดวัคซีนให้กับเด็ก และป้องกันพวกเขาจากโควิด-19” วัคซีน CoronaVac เสริมสร้างประสิทธิผลในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 และการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล การศึกษาจากข้อมูลการใช้งานจริง (real world data) ในประเทศชิลีเกี่ยวกับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีน CoronaVac แสดงให้เห็นว่าประสิทธิผลในการป้องกันการเจ็บป่วยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ของผู้ได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลา 14 วันหลังจากมีการฉีดวัคซีน CoronaVac กระตุ้น ประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อที่มีอาการเพิ่มขึ้นเป็น 80.2 เปอร์เซ็นต์ จาก 56 เปอร์เซ็นต์ และประสิทธิผลป้องกันความจำเป็นในการเข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นเป็น 88 เปอร์เซ็นต์ จาก 84 เปอร์เซ็นต์

ชี้ครอบคลุมเชื้อโอไมครอน

เหมิง กล่าวเสริมว่า วัคซีน CoronaVac ช่วยป้องกันผู้ได้รับวัคซีนจากเชื้อไวรัสโควิด-19 จากสายพันธุ์ต่างๆ ที่น่ากังวลรวมถึงโอไมครอน การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Medrxiv ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 พบว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนกระตุ้น CoronaVac มี T-cells และมีภูมิคุ้มกันชนิดลบล้างฤทธิ์ไวรัส ต่อสายพันธุ์เดลต้าและโอมิครอน นอกจากนั้นยังพบจากผลการศึกษาว่า ภูมิคุ้มกันชนิดลบล้างฤทธิ์ไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 4 สัปดาห์แรกหลังจากมีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น นอกจากนั้นมีการเพิ่มขึ้น T-cells สูงสุด ใน 4 สัปดาห์หลังจากการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งสะท้อนความสามารถในการต่อต้านสายพันธุ์เดลต้าและโอไมครอน จากข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างภูมิคุ้มกันและความปลอดภัย CoronaVac มีความเหมาะสมกับกลุ่มประชากรที่หลากหลาย รวมทั้งผู้ป่วยจากโรคเรื้อรัง (โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคจากระบบหายใจเรื้อรัง โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคมะเร็ง และโรคความดันสูง) ผู้สูงอายุ เด็ก สตรีมีครรภ์ และสตรีภายหลังการคลอดบุตร วัคซีน CoronaVac ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินและการทำการตลาดอย่างมีเงื่อนไขโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านยาและองค์การอนามัยโลกในกว่า 50 ประเทศและภูมิภาค ทั้งนี้มีการจัดส่งวัคซีน CoronaVac แล้วกว่า 2,700 ล้านโดสทั่วโลก และเด็กที่มีอายุระหว่าง 3 ถึง 17 ปีในประเทศจีนได้รับวัคซีนจำนวนมากกว่า 250 ล้านโดส ณ เดือนมกราคม 2565 ซิโนแวค ก่อตั้งเมื่อปี 2001 พัฒนาวัคซีนในมนุษย์เป็นหลักตั้งแต่วัคซีนตับอักเสบ ไข้หวัดใหญ่ คางทูม อีสุกอีใส โควิด และล่าสุดวัคซีนโปลิโอ โดยมีโรงงานผลิต 4 แห่งตั้งอยู่ที่ประเทศจีน มีกำลังผลิตสำหรับวัคซีนสำหรับวัคซีน 11 ประเภท จำนวน 400 ล้านโดส และวัคซีนโควิด 2 พันล้านโดสต่อปี มียอดขายทั่วโลกสะสมเกือบ 160 ล้านโดสในปี 2562 มีผู้ฉีดวัคซีนซิโนแวค เฉลี่ย 112 คนต่อนาที โดยวัคซีนซิโนแวคจำหน่ายใน 22 ประเทศทั่วโลก จดทะเบียนใน 17 ประเทศ และอยู่ระหว่างการตรวจสอบการขึ้นทะเบียนใน 26 ประเทศ ครอบคลุมประชากร 3.25 พันล้านคน ทั้งนี้เมื่อสิ้นเดือนมิถุนายน 2564 ซิโนแวคมียอดขายที่ 1.1 หมื่นล้านเหรียญฯ ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดือนกันของปีก่อนซึ่งทำยอดขายที่ 6.77 พันล้านเหรียญฯ อ่านเพิ่มเติม: “เอคอมเมิร์ซ กรุ๊ป” รุกธุรกิจทั่วอาเซียนด้วยซอฟต์แวร์ as-a-service เต็มรูปแบบในปี 2565

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine