“ชาวเกาะ” เสิร์ฟกะทิพรีเมียม นำทัพครัวไทยบุกครัวโลก - Forbes Thailand

“ชาวเกาะ” เสิร์ฟกะทิพรีเมียม นำทัพครัวไทยบุกครัวโลก

เรื่อง: พรพรรณ ปัญญาภิรมย์ ภาพ: จันทร์กลาง กันทอง  (อ่านฉบับเต็ม "“ชาวเกาะ” เสิร์ฟกะทิพรีเมียม นำทัพครัวไทยบุกครัวโลก" ได้ที่่ Forbes Thailand ฉบับ August 2015)
 
ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก “ชาวเกาะ” กะทิสำเร็จรูปสัญชาติไทยที่อวดโฉมอย่างงดงามในครัวโลกมาเกือบ 40 ปี พร้อมดึง “แม่พลอย” และ “ยอดดอย” เติมเต็มความอร่อยครบวงจร พิชิตยอดขาย 6,000 ล้านบาท ครองแชมป์ผู้ส่งออกกะทิอันดับ 1 ของโลก

รถบรรทุกมะพร้าวจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กำลังมุ่งหน้าน้ำมะพร้าวกว่า 100,000 ลูกส่งโรงงานชาวเกาะ บนถนนพุทธมณฑลสาย 4 จังหวัดนครปฐม สำหรับการผลิตและจัดจำหน่ายกะทิสำเร็จรูป ภายใต้การบริหารงานของครอบครัว “เทพผดุงพร” รุ่นที่สอง ซึ่งแบ่งหน้าที่และความรับผิดชอบ เพื่อแตกยอดธุรกิจสู่ผู้ส่งออกกะทิสำเร็จรูปอันดับ 1 ของโลก ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาด 60% ทั่วโลก

เส้นทางความผูกพันระหว่างครอบครัวเทพผดุงพรและมะพร้าวเกิดขึ้นนานกว่าครึ่งศตวรรษ จากอำพลและจรีพร เทพผดุงพร ซึ่งเริ่มต้นธุรกิจขายส่งและขายปลีกมะพร้าวในห้องแถวสองคูหา ที่สี่แยกมหานาค ริมคลองผดุงกรุงเกษม จนกลายเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดอุดมมะพร้าว บนถนนมหาราช ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ธุรกิจเจริญเติบโตถึงขีดสุดสามารถส่งทายาทศึกษาต่อต่างประเทศได้ถึง 3 คน กระทั่งคู่แข่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น และการขนส่งทางบกได้รับความนิยมแทนที่การขนส่งทางน้ำ ส่งผลให้ธุรกิจพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ

ทางเลือกและทางรอดของเทพผดุงพรอยู่ที่การปรับตัวทางธุรกิจเปลี่ยนแปลงจากมะพร้าวลูกเป็นผลิตภัณฑ์กะทิพาสเจอร์ไรซ์ในปี 2519 ด้วยการลงทุนสร้างโรงงานแปรรูปมะพร้าวเป็นกะทิสำเร็จรูป พื้นที่ 28 ไร่ เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด รับซื้อมะพร้าวจากแหล่งผลิตทั่วประเทศ ผลิตกะทิสำเร็จรูปแบรนด์ TCC โดยมีแรงหนุนจาก 5 ทายาทหัวสมัยใหม่

ทายาทรุ่นสองนำโดยบุตรชายคนโต อภิศักดิ์ ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ และ ผู้อำนวยการฝ่ายขายต่างประเทศ บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด และเกียรติศักดิ์ ผู้เป็นกรรมการบริหาร และผู้จัดการโรงงานชาวเกาะ ร่วมกันถ่ายทอดถึงธุรกิจภาคต่อที่เปิดฉากขึ้นด้วยกลยุทธ์ “การเคาะประตู” สร้างการรับรู้ในผลิตภัณฑ์ที่อยู่นอกกรอบพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคนั้น ไล่เรียงตั้งแต่โรงงานอุตสาหกรรม ถึงร้านอาหาร ต่อเนื่องไปยังผู้บริโภคทั่วไปในตลาด

“ความท้าทายของเรา คือ การแข่งขันกับของสด และทำให้ผู้บริโภคยอมรับในสินค้าของเรา เราต้องหาตลาดหลัก และเข้าไปในอุตสาหกรรม รวมถึงโรงงานทำไอศครีม หลังจากนั้นจึงบุกเข้าตลาดสด ทำให้ลูกค้าเชื่อว่า กะทิสำเร็จรูปสามารถเก็บรักษาได้ ผมต้องขับรถไปส่งของเอง ทั้งหมดใช้เวลา 4-5 ปีกว่าลูกค้าจะยอมรับ” อภิศักดิ์ เล่าถึงอุปสรรคที่พวกเขาต้องฟันฝ่า และสร้างการยอมรับในกะทิสำเร็จรูปและโดยความทุ่มเทของเทพผดุงพรมะพร้าวในที่สุดได้ค้นพบกุญแจสำคัญในการแจ้งเกิดผลิตภัณฑ์กะทิสำเร็จรูปสำเร็จ และการก้าวออกนอกประเทศครั้งแรกจึงเริ่มขึ้นจากสหรัฐอเมริกา ที่อภิศักดิ์มองเห็นโอกาสทางธุรกิจในช่วงศึกษาปริญญาตรี และ ปริญญาโท

คีย์สำคัญของความสำเร็จในต่างประเทศที่ทำให้ชาวเกาะยังคงเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มพรีเมียมแบรนด์หลักในต่างประเทศ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ คือ รสชาติ คุณภาพ และมาตรฐานการส่งมอบที่สม่ำเสมอ รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของผู้บริโภคและผู้แทนจำหน่ายทั่วโลก

ด้านกำลังการผลิตภายใต้การบริหารงานส่วนโรงงานของเกียรติศักดิ์พร้อมเดินเครื่องเต็มที่หลังจากใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาทเพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคในตลาดโลก โรงงานชาวเกาะ บนพื้นที่ 45 ไร่ กำลังการผลิตสูงสุด 120,000 ตันต่อปี ภายใต้พนักงานประจำ 1,200 คน รวมทั้งโรงงานแม่พลอย พื้นที่ 30 ไร่ กำลังการผลิต 20,000 ตันต่อปี ผลิตสินค้าตราแม่พลอยประเภทน้ำจิ้ม น้ำพริกแกง และเครื่องปรุงรสต่างๆ โดยมีพนักงานประจำ 500 คน โดยมีวัตถุดิบมะพร้าวจากภาคใต้เป็นหลักรวมจำนวนเฉลี่ยวันละ 100,000 ลูกป้อนเข้าสู่โรงงาน

จากความมุ่งมั่นพยายามมองหาโอกาสทางธุรกิจ ทั้งแตกยอดผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายตอบโจทย์ความต้องการ และขยายตลาดนอกประเทศ ภายใต้การบริหารต้นทุนให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ส่งผลให้ปีที่ผ่านมา เทพผดุงพรมะพร้าวสามารถสร้างยอดขายรวม 6,000 ล้านบาท หรือเติบโต 30% โดยมีเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ อย่างน้อย 10%

...waiting for Gist...

อ่านฉบับเต็ม "“ชาวเกาะ” เสิร์ฟกะทิพรีเมียม นำทัพครัวไทยบุกครัวโลก" ได้ที่่ Forbes Thailand ฉบับ August 2015