"จีเอ็ม" พร้อมผงาดตลาดรถยนต์เชื่อมต่อบรอดแบนด์ 4G

            อุตสาหกรรมยานยนตร์สหรัฐฯ ช่วงปลายปีนี้คึกคักแน่ เมื่อ "เจเนอรัลมอเตอร์" (GM) พร้อมด้วยพันธมิตร "ออนสตาร์" (OnStar) บริษัทติดตั้งเทคโนโลยีไอทีให้กับจีเอ็ม ประกาศติดตั้งระบบบรอดแบนด์ 4G LTE พร้อมปล่อยสัญญาณไวไฟ ประเดิมรุ่นแรก "เชฟโรเลต มาลิบู" ในต้นปี 2015 ก่อนจะตามมาอีกหลายสิบรุ่น

            ยักษ์ใหญ่อย่างจีอีหวังว่า การรุกคืบครั้งนี้จะทำให้ตนก้าวเป็นผู้นำระบบไวไฟประจำยานยนต์ ไล่ทัน "ฟอร์ด" ซึ่งเดินหน้าไปก่อนแล้วกับระบบ Sync  หรือระบบอินโฟเทนเมนท์ไร้สายแบบครบวงจรระบบแรก ต่าจากระบบเก่าของออนสตาร์ที่ยังต้องเดินสายภายในตัวถัง

            ออนสตาร์พร้อมให้ลูกค้าทดลองใช้งานบรอดแบนด์ 4G LTE ขนาดสามกิกกะไบต์ก่อน หรือมิเช่นนั้นก็อาจจะให้มีโอกาสทดลองระบบทั้งหมดนานสามเดือน ซึ่งสอดรับกับทางจีเอ็มที่จะให้ออนสตาร์เปิดเดินระบบของตัวเอง ก่อนจะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมภายหลัง โดยลูกค้าจะเริ่มจ่ายค่าบริการอย่างต่ำสุดเดือนละ 5 เหรียญ 

            นวัตกรรมใหม่นี้จะทำให้ผู้ใช้รถของจีเอ็มเดินทางร่วมกับครอบครัวได้ในวันหยุด เด็กๆ ในเบาะหลังสามารถเล่นวิดีโอเกมไปได้ตลอดทริป และสำหรับคนอเมริกันที่เป็นลูกค้า AT&T อยู่แล้ว สามารถนำมาใช้กับระบบของรถจีเอ็มได้ โดยคิดแพคเกจบริการเดือนละ 10 เหรียญ

            ประธานออนสตาร์,แมรี่ ชาน กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่า รถยนต์ของจีเอ็มจะเป็นรถยนต์แบรนด์แรกในตลาด ที่เชื่อมต่อ 4G LTE อย่างเป็นจริงเป็นจัง
            
            เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้า ค่ายออดี้เพิ่งจะเปิดตัวออดี้ เอ 3 ซีดานตัวใหม่ ถือว่าเป็นรถยนต์ในสหรัฐฯ โมเดลแรกที่เชื่อมต่อ 4G LTE  แต่ทางจีเอ็มยังมั่นใจว่า ระบบการเชื่อมต่อ 4G LTE ของตนเอง ซึ่งมีเทคนิคพิเศษเฉพาะตัว จะได้รับการตอบสนองจากลูกค้าอย่างรวดเร็ว ด้วยอันเทคโนโลยีล้ำสมัย

            "ออดี้มีแค่สองแพ็คเกจ แถมมีในรถเพียงรุ่นเดียวเท่านั้น แต่สำหรับเราแล้ว ราคาแพคเกจจะสมเหตุสมผล และมีให้เลือกมากกว่า" ฟิล อับราม หัวหน้าแผนกอินโฟเทนเมนต์กล่าวกับ Forbe "เราจะเริ่มให้บริการได้ในปีนี้ ในรถกว่า 30 รุ่น ซึ่งไม่ได้เป็นแค่การให้บริการไวไฟธรรมดาๆ แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีจากออนสตาร์"

            ระบบ 4G LTE ของออนสตาร์จะติดตั้งตัวกระจายสัญญาณไวไฟทั้งในและนอกตัวรถ สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ไม่ว่าจะแลปทอปสมาร์ทโฟน เครื่องเล่นเกมคอนโซล หรือแทปเลต ได้พร้อมกันถึงเจ็ดเครื่อง ทางจีเอ็มยังอธิบายถึงเสาอากาศกำลังส่งสูงว่าสามารถกระจายสัญญาณได้ดีกว่าเสาอากาศสมาร์ทโฟน และสัญญาณไวไฟก็ไม่ได้กินแบตเตอรี่ของอุปกรณ์พกพาแต่อย่างใด และยังเปิดกระจายสัญญาณตลอดในช่วงเวลาที่ติดเครื่อง

            "เราทราบความต้องการของผู้บริโภคว่าต้องการนำโลกดิจิตอลของพวกเขาเข้ามาไว้ในรถยนต์ด้วย" อับรามกล่าว "เรากำลังทำตามคำมั่นสัญญาที่มีต่อลูกค้า ด้วยแพ็คเกจการใช้งานที่หลากหลาย เราจึงหวังว่าจะมีผู้ใช้บริการจำนวนหนึ่งที่จะเลือกสักแพ็คเกจที่เขาถูกใจ"

            บริการ 4G LTE ของออนสตาร์ จะเริ่มในรถยนต์รุ่นมาลิบู ซึ่งจะเป็นรถยนต์รุ่นแรกของจีเอ็มที่จะออกสู่ตลาดในปี 2015

อ่านต้นฉบับได้ที่ : http://www.forbes.com/sites/dalebuss/2014/05/12/gms-new-onstar-4g-lte-system-stakes-it-to-new-lead-in-connectivity/