ความจริงของอเมริกันชน คนจนกว่าบริจาคมากกว่า - Forbes Thailand

ความจริงของอเมริกันชน คนจนกว่าบริจาคมากกว่า

FORBES THAILAND / ADMIN
13 Oct 2014 | 05:29 AM
READ 2088
Chronicle of Philanthropy ศึกษาพบว่า นับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจต้นศตวรรษ 21 (Great Recession) เศรษฐีชาวอเมริกันบริจาคเงินให้การกุศลลดลง ตรงกันข้ามกับคนที่มีเงินน้อย กลับบริจาคมากกว่า
 

ทั้งนี้ จากการศึกษาเปรียบเทียบตัวเลขในปี 2012 เทียบเคียงกับตัวเลขในปี 2006 ทำให้พบความจริงที่ว่า คนอเมริกันผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 200,000 เหรียญขึ้นไป ในปี 2012 จะบริจาคเงินเพื่อการกุศลประมาณ 5% ของรายได้ ซึ่งเป็นตัวเลขน้อยกว่าในปี 2006 
 
Stacy Palmer บรรณาธิการ Chronicle of Philanthropy เพิ่มเติมว่า ในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคือง คนที่มีรายได้สูงมีแนวโน้มที่จะบริจาคในสัดส่วนน้อยลง เนื่องจากพวกเขาพากันตื่นตระหนก เมื่อช่วงเวลาตกต่ำมาถึง
 
แนวโน้มเช่นนี้ย่อมทำให้เม็ดเงินสนับสนุนมหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และองค์กรทางวัฒนธรรมต่างๆ ซึ่งคนรวยอุปถัมภ์ค้ำชูมาก่อนหน้าลดน้อยลง ในขณะที่ผู้บริจาคที่มีรายได้ปานกลางหรือต่ำมักจะบริจาคให้องค์กรสาธารณกุศลเสียมากกว่า
 
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนอเมริกันผู้มีรายได้ปานกลาง-ต่ำกลับเป็นตรงกันข้าม ผู้มีรายได้น้อยกว่า 100,000 เหรียญ จะบริจาคเพื่อการกุศลในปี 2012 มากกว่าปี 2006 ราว 5%  ในขณะคนที่จนกว่าโดยมีรายได้ไม่ถึง 25,000 เหรียญ จะบริจาคเกือบถึง 17%
 
"ผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้ต่ำรับรู้เรื่องราวของคนตกงานหรือคนไร้บ้าน พวกเขาจึงกังวลว่าสักวันจะเจอเรื่องพวกนี้เขากับตัวเอง ทำให้คนกลุ่มนี้อ่อนไหวต่อความต้องการของผู้คน ในช่วงขณะเวลาตกยาก" Palmer กล่าว และว่าศาสนาก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการกระตุ้นคนกลุ่มนี้
 
แต่หากพิจารณาเม็ดเงินโดยรวมแล้ว คนรวยยังคงบริจาคเพิ่มมากขึ้น โดยยอดบริจาคระหว่างปี 2006 ถึงปี 2012 เพิ่มขึ้นจาก 4.6 พันล้านเหรียญ เป็น 7.75 หมื่นล้านเหรียญ โดยช่วงเวลาดังกล่าว ความมั่งคั่งของเศรษฐีอเมริกันตามการจัดอันดับ Forbes 400 พุ่งขึ้นถึง 1.04 ล้านล้านเหรียญ
 
ขณะที่ผู้มีรายได้ต่ำกว่า 100,000 เหรียญ ในปี 2012 มียอดบริจาครวม 5.73 หมื่นล้านเหรียญ
 
 
 
ความถดถอยในการอุทิศเงินเพื่อการกุศลยังเกิดขึ้นในเมืองใหญ่อันดับต้นๆ ของสหรัฐฯ อีกด้วย  การศึกษาเปรียบเทียบระหว่างปี 2012 กับปี 2006 ยังพบอีกว่า คนที่อาศัยในเมืองระดับมหานคร 36 แห่ง มียอดบริจาคในสัดส่วนต่อรายได้ลดต่ำลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองอย่าง Philadelphia และ Buffalo ยอดบริจาคตกฮวบมากกว่า 10% ขณะที่เมือง Los Angeles, Minneapolis-St.Paul และ Washington, D.C. ก็ทิ้งกันไม่ห่าง ยอดบริจาคลดถึง 9%
 
ขณะที่ผู้อยู่อาศัยใน Utah ได้เป็นผู้ใจบุญสุนทานมากที่สุดของประเทศนี้ เพราะทุกรายได้ 1,000 เหรียญ เขาจะอุทิศบริจาคถึง 65.60 เหรียญ  และใน Salt Lake City นั้น จัดได้ว่าเป็นเมืองมหานครที่เป็นศูนย์รวมของเศรษฐีจิตเมตตา ที่มียอดบริจาคเกินกว่า 5% ของรายได้  เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ที่นี่นับถือนิกาย Mormons  จึงทำให้เกิดสำนึกว่าต้องแบ่งปันรายได้ของตนเองอย่างน้อย 10% ให้กับงานการกุศล
 
ส่วน New Hampshire เป็นรัฐที่ใจบุญน้อยสุด เพราะบริจาคแค่ 17.40 เหรียญ ต่อรายได้ทุก 1,000 เหรียญ
 
ทั้งนี้จากรายงานการศึกษา ในปี 2012 ชาวอเมริกันบริจาครวมแล้ว 1.8 แสนล้านเหรียญ

 

เรียบเรียงจาก Wealthy Americans Are Giving Less Of Their Incomes To Charity, While Poor Are Donating More โดย Katia Savchuk