กองทุนเพื่อน Zuck - Forbes Thailand

กองทุนเพื่อน Zuck

FORBES THAILAND / ADMIN
16 Jun 2015 | 06:09 PM
READ 4847
เรื่อง: Brian Solomon เรียบเรียง: นวตา สันติวัฒนา


ในภาคธุรกิจการเงินและการลงทุน นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์นับเป็นอาชีพที่อยู่ในลำดับท้ายๆ ของห่วงโซ่อาหารในบรรดานายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ที่ปัจจุบันมักเรียกตนเองว่า “ผู้บริหารความมั่งคั่ง” กลับมีเพียงไม่กี่รายที่สามารถขยายฐานลูกค้าและพัฒนารูปแบบธุรกิจได้อย่าง Iconiq Capital บริษัทหน้าใหม่จาก Silicon Valley ซึ่งมี Divesh Makan ที่ปรึกษาการเงินเชื้อสายอินเดียผู้กระตือรือร้นจากแอฟริกาใต้เป็นผู้นั่งแท่นบริหาร


Makan วัย 41 ปี ได้พลิกโฉมบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนขึ้นทะเบียนอนุญาตอันธรรมดาทั่วไป ให้กลายเป็นบริษัทลับเฉพาะสำหรับสมาชิกแวดวงมหาเศรษฐีในธุรกิจเทคโนโลยี ซึ่งมีรูปแบบธุรกิจแบบผสมผสานระหว่างให้คำปรึกษาด้านการเงินส่วนบุคคล และลงทุนในกองทุนประเภทธุรกิจร่วมลงทุน ลูกค้ารายที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของเขา อันเป็นหัวใจสำคัญที่นำพาบริษัทก้าวสู่ความสำเร็จคือ Mark Zuckerberg มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง Facebook โดย Makan พบกับ Zuckerberg ครั้งแรกเมื่อปี 2004 ขณะที่เขาทำงานในตำแหน่งนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ Goldman Sachs


การค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปในแวดวงสังคมของ Zuckerberg ในช่วงที่ Facebook เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจได้กลายเป็นช่องทางในการทำเงินของ Iconiq ปัจจุบันบริษัทมีกองทุนภายใต้การบริหารมูลค่ามากกว่า 1.4 พันล้านเหรียญ และให้คำปรึกษาทางการเงินเพื่อดูแลสินทรัพย์อีกประมาณ 7.6 พันล้านเหรียญ


ทั้งนี้ การให้คำปรึกษาด้านการเงินเป็นเพียงหนึ่งในบริการของบริษัทเท่านั้น Makan ได้ก่อร่างสร้างเครือข่ายสมาชิกจากแวดวงคนรอบตัวของ Zuckerberg ซึ่งรวมถึง Dustin Moskovitz และ Sheryl Sandberg จาก Facebook, Jack Dorsey แห่ง Twitter และ Reid Hoffman ผู้ร่วมก่อตั้ง LinkedIn เป็นต้น


ในฐานะที่ปรึกษาด้านการลงทุนที่ขึ้นทะเบียนอนุญาต Makan ต้องยึดถือแนวทางปฏิบัติที่จะ “ไม่มีส่วนร่วมในการดำเนินการใดๆ ที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ของลูกค้า” แต่ Iconiq ไม่เหมือนกับโบรกเกอร์ธรรมดาทั่วไปจาก Merill ที่จะระมัดระวังทำตามกฏเกณฑ์ปฏิบัติในทุกขั้นตอน การดำเนินการของบริษัทอยู่ในสถานการณ์ที่อาจก่อให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน ตัวอย่างเช่น การลงทุนใน SurveyMonkey ของ Iconiq เมื่อปี 2013 ซึ่ง Makan มีส่วนร่วมทั้งเป็นที่ปรึกษาการลงทุน เป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดชอบ และมีความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อน เขานำลูกค้าอย่างเช่น Drew Houston จาก Dropbox, Adam D’Angelo จาก Quora และ Jeff Weiner จาก LinkedIn เข้าร่วมลงทุนเมื่อบริษัททำการระดมทุนมูลค่า 800 ล้านเหรียญ


แต่ทั้งนี้ Dave Goldberg ซึ่งนั่งตำแหน่ง CEO ของ SurveyMonkey ภรรยาของเขา รวมถึง Sandberg ซึ่งเป็นผู้บริหารของ Facebook ยังเป็นลูกค้าและเพื่อนสนิทของ Makan ด้วย นอกจากนั้น Goldberg ยังเป็นหนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการของ Iconiq คณะกรรมการ ก.ล.ต.ของสหรัฐ ไม่เห็นด้วยที่ผู้ให้คำปรึกษามีส่วนเกี่ยวข้องในสถานการณ์ที่อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างในกรณีนี้ แต่ยังคงอนุญาตให้ดำเนินการตราบที่ไม่มีการเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณะ


Iconiq คิดค่าธรรมเนียมตามอัตราส่วนของมูลค่าสินทรัพย์ซึ่งจะนำไปลงทุนในหุ้น พันธบัตร และกองทุน ETFs เช่นเดียวกับผู้บริหารความมั่งคั่งรายอื่น โดยมีอัตราสูงสุดอยู่ที่ 1.5% นอกจากนั้นบริษัทจะคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในรูปของส่วนแบ่งกำไรจากกองทุนในอัตรา 20%-30% ของผลกำไร และเพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในการทำเงิน Iconiq จะร่วมลงทุนกับลูกค้าในโครงการต่างๆ ที่ตนจัดเตรียมด้วยเช่นกัน


ปัจจุบัน Iconiq รายงานว่าบริษัทปิดรับลูกค้ารายใหม่แล้ว แต่ยังคงพยายามจีบนักประกอบการผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นอันน่าสนใจต่างๆ โดยเริ่มสานความสัมพันธ์จากการให้คำแนะนำด้านการเงิน และค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปลงทุนในบริษัทด้วยเงินทุนของ Iconiq และบรรดาลูกค้าชั้นดี


คู่แข่งอย่าง Bruce Brugler จาก Presidio Group ซึ่งบริหารเงินทุนมูลค่ากว่า 4 พันล้านเหรียญทึ่งในความสำเร็จของ Makan “เป็นที่ชัดเจนว่า Iconiq มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ แต่นั่นคือรูปแบบการดำเนินธุรกิจของพวกเขา” สิ่งที่จะเป็นอุปสรรคต่อแนวทางการเติบโตของ Iconiq ก็คือภาวะตกต่ำอย่างรุนแรงของหุ้นและการออก IPO สำหรับธุรกิจเทคโนโลยีที่กำลังร้อนถึงขีดสุด “พวกเขามาดหมายว่าภาวะตลาดกระทิงจะยังคงดำเนินต่อไป และการได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้คำปรึกษาการเงินกับ ‘Zuckerberg และเพื่อนฝูง’ ไปจนถึงการร่วมลงทุนในบริษัทเหล่านี้จะยังคงมีเสน่ห์น่าดึงดูดอยู่" Brugler กล่าว “ทว่าพวกเขาไม่ได้คิดถึงภาวะตลาดขาลง”


การใช้เส้นสายในแวดวงมหาเศรษฐีธุรกิจเทคโนโลยีเพื่อล่อเหยื่อเกิดขึ้นกับทีมงานของ Forbes เองด้วยเช่นกัน โฆษกของ Iconiq เสนอ “ประเด็นข่าวแบบเจาะลึก” ให้กับเราถึงสองครั้ง แลกกับการที่ให้เราตีพิมพ์เสนอข่าวนั้น Makan “จะเป็นบุคลากรที่มีค่ามหาศาลยิ่งกว่านี้” พวกเขาบอกกับเราเช่นนี้ “ด้วยเส้นสายเครือข่ายที่ Divesh มี อาจทำให้เขาเป็นเพื่อนที่น่าคบก็ได้”


อ่านฉบับเต็ม "กองทุนเพื่อน Zuck" ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ FEBRUARY 2015