สยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพ ครบรอบ 1 ปี ปรับกลยุทธ์ตอบโจทย์ลูกค้าคนไทย - Forbes Thailand

สยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพ ครบรอบ 1 ปี ปรับกลยุทธ์ตอบโจทย์ลูกค้าคนไทย

FORBES THAILAND / ADMIN
25 Jun 2021 | 11:40 AM
READ 2186

ครบรอบ 1 ปี สยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพ (Siam Premium Outlets Bangkok) ฝ่าวิกฤตโควิด 19 พร้อมปรับกลยุทธ์โฟกัสลูกค้าชาวไทย พร้อมเร่งพัฒนาโมเดลธุรกิจออนไลน์ (S-Commerce)

ไมเคิ้ล ถัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน จำกัด ผู้ดูแลโครงการ สยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพ เผยว่า “ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้พัฒนาธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่าง ไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อพัฒนาโครงการ “สยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพ” ในประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางของการช้อปปิ้ง รองรับนักช้อปชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ต้องเผชิญความท้าทายอย่างมาก เนื่องจากการขับเคลื่อนธุรกิจเกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เมื่อต้องรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แม้ปัจจัยแวดล้อมภายนอกเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ สร้างอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ แต่ถือเป็นปีที่บริษัทได้เรียนรู้ ปรับตัว วางแนวทางการทำงาน สร้างสรรค์กลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อผลักดันธุรกิจให้ยังเดินหน้าต่อได้ ภายใต้ข้อจำกัดนานัปการ อาทิ การเร่งพัฒนาโมเดลธุรกิจออนไลน์ (S-Commerce) เพื่อตอบสนองพฤติกรรมนักช้อปในการซื้อสินค้าได้ทุกที่ทุกเวลา การโฟกัสทำตลาดกับลูกค้าคนไทย ทดแทนนักท่องเที่ยวที่หายไปจากผลกระทบของโรคโควิด-19 โดยมีการเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยด้านสุขอนามัยทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิของลูกค้าก่อนเข้าใช้บริการ สนับสนุนให้พนักงานได้รับวัคซีน โควิด-19 และการคัดกรองพนักงานจากบริษัทคู่ค้าที่เข้ามาทำงานในพื้นที่อย่างเข้มข้น เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจเมื่อมาช้อปปิ้ง ปรับตัวฝ่าวิกฤตโควิด ดึงดูดผู้ใช้บริการกว่า 2 ล้านคน สำหรับ 1 ปีที่ผ่านมา แม้จะมีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น แต่การปรับตัวของสยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพ ทำให้สามารถสร้างผลงานได้อย่างน่าพอใจ โดยเปิดร้านค้าแบรนด์ชั้นนำรวมเป็น 125 ร้านดัง คิดเป็นร้อยละ 91 ของพื้นที่ (ข้อมูลถึงมิถุนายน 2564) สามารถดึงดูดผู้บริโภคให้เข้ามาใช้บริการกว่า 2 ล้านคน โดยมีสัดส่วนเป็นผู้หญิงร้อยละ 65 และผู้ชายร้อยละ 35 ครอบคลุมทุกกลุ่มอายุ ทั้งเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน ผู้สูงวัย ตอกย้ำความแข็งแกร่งและศักยภาพในการดึงดูดนักช้อปและชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย รวมทั้งยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งแบรนด์ดังระดับโลกที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการสำหรับทุกคนในครอบครัว โดยคาดว่าในครึ่งปีหลังนี้ สามารถดึงดูดผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการได้อีกมากกว่าล้านคน ขณะที่ยอดการใช้จ่ายของลูกค้าที่เข้ามาช้อปปิ้งภายในสยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพ เฉลี่ยอยู่ที่ 1,400 – 1,500 บาทต่อคน ซึ่งค่อนข้างน่าพอใจและเหนือความคาดหมาย เนื่องจากสถานการณ์ของโรคระบาดที่เกิดขึ้น ทำให้บริษัทมุ่งมั่นทำตลาดเจาะผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อภายในประเทศ ในทางกลับกันหากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ คาดว่ายอดการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนจะเพิ่มสูงขึ้นมาก เดินหน้านำเสนอสินค้าและบริการระดับโลกตลอดปี 2564 ปี 2564 นี้เป็นอีกปีที่ท้าทาย เพราะสถานการณ์โรคระบาดยังอยู่กับคนไทยและคนทั้งโลก ทำให้นักท่องเที่ยวยังไม่สามารถเดินทางได้ ส่วนประเทศไทยมีการคาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะขยายตัวในระดับต่ำที่ร้อยละ 1-2 และการฟื้นตัวจะเริ่มดีขึ้นปีหน้า นักท่องเที่ยวจะกลับมาเติบโตที่ร้อยละ 10-15 กระทั่งปี 2566-2567 จึงจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้สยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพ ต้องวางกลยุทธ์การตลาด เพื่อรองรับผู้ใช้บริการทั้งที่เข้ามาจับจ่ายที่ศูนย์และสั่งซื้อผ่านบริการออนไลน์ต่างๆ โดยจัดโปรโมชั่นเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายคนไทยเป็นหลักร้อยละ 95 และชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทยร้อยละ 5 ไมเคิ้ล ถัง กล่าวเพิ่มเติมว่าในโอกาสที่สยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพ เปิดให้บริการมาครบ 1 ปีเต็ม เรายังคงเดินหน้านำเสนอสินค้าและบริการระดับโลกมาตอบสนองผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งปี 2564 นี้ ลูกค้าจะเห็นความตื่นตาตื่นใจกับสินค้าแบรนด์เนมหลากหลายหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์แฟชั่นสุดหรู ไลฟ์สไตล์แบรนด์ สินค้าแฟชั่น สินค้าเด็ก ที่จะเข้ามาเปิดให้บริการเพิ่มเติม ในปี 2564 นี้ มีร้านดังที่ทยอยเปิด ได้แก่ รีบอค (Reebok) สินค้าหลากหลายที่ตอบโจทย์ทุกการออกกำลังกาย, แบรนด์เสื้อผ้าสไตล์สมาร์ทแคชชวลของสุภาพบุรุษ บราวน์ แอนด์ โค (Browne & Co.), แบรนด์แฟชั่นสุภาพบุรุษ ยู บาย อุงกาโร (U by Ungaro) และ ปิแอร์ การ์แดง (Pierre Cardin), แบรนด์ชุดนอนผ้าเยื่อไม้ไผ่แท้ วินเทล (Vintel), แบรนด์ชุดนอน ชุดอยู่บ้าน ลิขสิทธิ์แท้ โจศิรินส์ (Josilins), ร้านของเล่นเด็ก ๆ สำหรับคุณหนู อัลฟ่าคิด (Alphakid) และแบรนด์ดังที่จะเปิดเพิ่มครึ่งปีหลัง ได้แก่ แบรนด์กระเป๋าถือแบรนด์ดังจากฝรั่งเศส ลองฌองป์ (Longchamp) ซึ่งจะเปิด Exclusive Outlet แห่งแรกที่ สยามพรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ในเดือนสิงหาคมนี้ รวมถึงร้านรองเท้าแบรนด์ยอดนิยมอย่าง เอคโค่ (Ecco) นอกจากนี้ เพื่อสร้างสีสันให้แก่การช้อปปิ้ง เรายังมีร้าน ป๊อป อัพ สโตร์ (pop-up store) ที่หมุนเวียนมาเปิด เพื่อสร้างความหลากหลายให้แก่ศูนย์ฯ และลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ เช่น เสื้อผ้าแบรนด์สำหรับวัยรุ่นวัยทำงานอย่าง โพเมโล (Pomelo) เปิดร้าน ป๊อป อัพ สโตร์ (pop-up store) โดยใช้พื้นที่กว่า 500 ตรม., ลัช (Lush) ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติแบรนด์ดังจากอังกฤษ ซึ่งเปิดให้บริการเป็นที่แรกที่สยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพ ทั้งนี้ยังมีแบรนด์รองเท้าอย่าง ไนน์ เวสท์ (Nine West), สตีฟ แมดเด้น (Steve Madden) แอร์วอร์ค (Airwalk) และเฟอร์นิเจอร์นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา โยกิโบ (Yogibo) นอกจากนี้ กลยุทธ์การบุกตลาด สยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพ ได้ปรับตัวให้สอดคล้องวิถีปกติใหม่หรือ New Normal จึงพัฒนาแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์อย่างต่อเนื่อง นำสินค้าและบริการตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกแพลตฟอร์ม ทั้งเว็บไซต์ของสยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพที่ www.siampremiumoutlets.com โซเชียลคอมเมิร์ซผ่าน Facebook: facebook.com/SiamPremiumOutletsBangkok, อินสตาแกรม : Instagram.com/siampremiumoutletsbangkok และบริการ CHAT&SHOP บนไลน์ออฟฟิเชี่ยล : @siampremiumoutlets ซึ่งคาดว่าบริการนี้จะสามารถช่วยให้ร้านค้าต่างๆ สามารถเพิ่มยอดขายได้เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10-30 ทั้งนี้การฉลองครบรอบ 1 ปี สยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพ ได้ผนึกพันธมิตรเพื่อจัดแคมเปญและโปรโมชั่นเอาใจนักช้อปที่เดินทางมาช้อปปิ้ง กับแคมเปญ “FIRST ANNIVERSARY” อีกด้วย อ่านเพิ่มเติม: Pomelo เปิดตัวบริการ Prism. ตอบโจทย์แบรนด์สินค้าแฟชั่นด้วยโซลูชันการตลาด
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine