‘เบน อาศนะเสน’ นำทัพทูน ประกันภัย ชิงตลาดประกันสุขภาพ ชูกลยุทธ์ “ซื้อ จ่าย จบ ออนไลน์” เจาะกลุ่มเป้าหมายเจน C เพิ่มทางเลือก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ มั่นใจปีนี้รายได้เติบโต 2 หลัก ย้ำผู้นำอันดับ 1 ประกันเดินทางแม้มีโควิด คาดสิ้นปีนี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเริ่มฟื้น
บริษัท ทูน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ Tune Protect Thailand บริษัทประกันภัยที่ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2557 โดยความร่วมมือกันระหว่าง TPG Tune Protect Group Berhad และบริษัท โอสถสภาประกันภัย จำกัด (มหาชน) และเป็นพันธมิตรกับสายการบินแอร์เอเชีย เริ่มให้บริการประกันภัยการเดินทางแอร์เอเชีย ปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารของ เบน อาศนะเสน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่มีเป้าหมายในการเป็นผู้นำในด้านธุรกิจประกันภัยดิจิทัล เบน กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น ธุรกิจประกันภัยการเดินทางโดยรวมได้รับกระทบ แต่สำหรับทูน ประกันภัยมีบริการประกันการเดินทางสำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย ต้องซื้อประกันมูลค่า 1 แสนเหรียญสหรัฐ และทูนยังเป็นผู้นำสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางในโครงการภูเก็ต แซนบอกซ์ ทำให้บริษัทยังคงเป็นผู้นำในกลุ่มประกันภัยการเดินทาง ซึ่งในปี 2563 ที่มีผ่านมา มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ที่ร้อยละ 29.1 อย่างไรก็ตาม ธุรกิจต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตผู้บริโภค ซึ่งจากสถานการณ์โควิดเช่นเดียวกัน ทำให้คนหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะ 5 โรคร้ายที่เป็นสาเหตุการตายของคนไทย ได้แก่ มะเร็ง โรคเส้นเลือดสมอง โรคหัวใจ โรคไต และเบาหวาน ที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง และคนต้องการการคุ้มครองมากกว่า 1 โรค ปัจจุบันประกันสุขภาพในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐ “การรุกธุรกิจประกันสุขภาพเป็นนโยบายของทูน กรุ๊ปทั่วโลก และประเทศไทย ซึ่งมีศักยภาพในการขยายตัวได้อีกมาก บริษัทมุ่งนำนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านธุรกิจประกันภัยที่หลากหลาย เข้าถึงง่าย ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มเจน C Connected” เบนกล่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดิจิทัล 100%
ทั้งนี้ บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ myFlexi CI ซึ่งเป็นแผนประกันโรคร้ายแรงแบบใหม่ของวงการประกันภัย และเป็นเจ้าแรกที่เลือกความคุ้มครอง โรคร้ายแรง ตามที่ต้องการ รวมถึงเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสมกับตนเองได้ ภายใต้กลยุทธ์ “ซื้อ จ่าย จบ ออนไลน์ ได้รับกรมธรรม์ทันที” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปี ถึง 60 ปี และเข้าถึงในไลฟ์สไตล์ที่จะตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น สำหรับแผนประกัน myFlexi CI นั้น สามารถเลือกทำประกันให้ตัวเองหรือคนที่รักได้ ครอบคลุม 5 กลุ่มโรคร้าย ได้แก่ โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง โรคไตและตับ แผลบาดเจ็บฉกรรจ์และโรคเบาหวาน เบี้ยประกันเริ่มต้นที่หลักพัน และสามารถปรับลดหรือเพิ่มความคุ้มครองได้ตามความต้องการ ครอบคลุมค่าชดเชยรายวัน และพยาบาลพิเศษ โดยคุ้มครองไปจนถึงอายุ 65 ปี และมีบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ Health2Go และบริการความเห็นที่สองทางการแพทย์ myEliteDoctor เพื่อให้คำปรึกษาเฉพาะทางเกี่ยวกับโรครายแรงได้ฟรี นอกจากแผนประกันตัวใหม่ ปีนี้ Tune Protect Thailand มีแผนที่จะรุกตลาดประกันทางด้านดิจิทัลอย่างเต็มตัว โดยมุ่งเน้นการให้บริการผ่านทางช่องทางออนไลน์ รวมไปถึงแอพพลิเคชั่น เพื่อสอดรับกับไลฟสไตล์ของคนยุคใหม่ และสอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบริษัท ที่ต้องการมุ่งเน้นบริการทางด้านนี้ให้มากขึ้น และเพื่อที่จะก้าวเป็นผู้นำทางด้าน ประกันภัยดิจิทัล อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างความแตกต่างของบริษัท ทูนประภันภัย “ทูน ประกันภัย เล็งเห็นถึงแนวโน้มของการประกันภัยในอนาคต รวมถึงกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัท เราจึงเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยผ่านช่องทางดิจิทัล เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย สะดวก รวมถึงส่งมอบกรมธรรม์ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องใช้กระดาษ (paperless) สอดคล้องกับคนที่เป็น Active Lifestyle ที่สนใจการดูแลสุขภาพ เท่าทันเทรนด์เทคโนโลยี” เบน กล่าวว่า บริษัทได้มีการสำรวจข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า เพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่แตกต่างจากบริษัทประกันรายอื่น โดยวางกลยุทธ์หลัก 4 ด้าน ได้แก่ -Speed to market มุ่งเน้นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และปรับปรุงสู่ตลาดอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันกับแนวโน้มของตลาดและสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป -Affordable Price เบี้ยประกันภัยที่เป็นธรรม ราคาเป็นหนึ่งในความสำคัญสูงสุด เราจึงกำหนดเบี้ยประกันภัยที่ลูกค้าเข้าถึงได้และสอดคล้องกับผลประโยชน์ที่ลูกค้าต้องการ -Simplified ช่องทางการเข้าถึงสินค้าง่าย และสะดวก ด้วยการพัฒนาขั้นตอนผ่านดิจิทัลเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า อย่างเรียบง่าย ในทุกช่องทางที่ลูกค้าสะดวกที่สุด -Be obsessed มุ่งมั่นที่จะมอบชีวิตที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ และให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้าเป็นอันดับหนึ่งตั้งเป้าเติบโตสองหลักต่อเนื่อง
เบน กล่าวว่า การดำเนินงานที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด ซึ่งในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีอัตราการเติบโตร้อยละ 20 ซึ่งเป็นผลจากการให้บริการผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ทั้งประกันการเดินทางเข้าประเทศ ประกันโควิด และประกันสุขภาพ และในช่วง 3–5 ปีจากนี้ บริษัทคาดว่ายังเติบโตได้ร้อยละ 15 – 20 ต่อปี ตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากตลาดประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากสำหรับธุรกิจประกันภัย สำหรับประกันภัยการเดินทางเชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้จะเริ่มกลับมา หลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาเริ่มมีการวางแผนเดินทางท่องเที่ยว จากความต้องการที่อัดอั้นในช่วงที่ผ่านมา หากประเทศไทยสามารถบริหารจัดการอย่างโครงการภูเก็ต แซนบอกซ์ได้ดี เชื่อว่ามีโอกาสที่ธุรกิจท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็ว “ทูน ประกันภัย พร้อมสนับสนุนโครงการของรัฐ ทั้งโครงการแซนบอกซ์ และประกันโควิดที่คุ้มครองเรื่อง Home Isolation Community Isolation เพราะมองว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค” เบนกล่าวทิ้งท้าย อ่านเพิ่มเติม: เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล เตรียมเดินเกมรุก “สิริฮับ” โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนตัวแรกของไทยไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine