แม้ปี 67 ตลาดรถยนต์ไทยสุดหิน! แต่ Volvo โต 1% ปีนี้จ่อเปิดตัวใหม่ 4 รุ่น – เปิดบริการ SMART Repair - Forbes Thailand

แม้ปี 67 ตลาดรถยนต์ไทยสุดหิน! แต่ Volvo โต 1% ปีนี้จ่อเปิดตัวใหม่ 4 รุ่น – เปิดบริการ SMART Repair

Volvo เผยผลประกอบการปี 2024 เติบโต 1% ท่ามกลางภาวะตลาดที่ท้าทาย ส่วนปีนี้ยังคงเดินหน้าเปิดตัวรถใหม่ ขยายดีลเลอร์ เปิดบริการ SMART Repair และเปิดศูนย์ซ่อมแบตเตอรี่ หวังรักษาความเป็นผู้นำตลาดรถพรีเมียม


    ปี 2024 ถือเป็นปีที่เต็มไปด้วยแรงกดดันสำหรับตลาดรถยนต์ไทย ยอดขายรวมของอุตสาหกรรมหดตัวจากปัจจัยหลายด้าน ตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ค่าครองชีพที่กดดันกำลังซื้อ ไปจนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดจากผู้ผลิตจีนที่เร่งขยายตลาดในภูมิภาค

    แม้จะเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย แต่ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ยังคงสามารถสร้างยอดขายเติบโตได้ 1% ซึ่งถือเป็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับภาพรวมตลาดที่อยู่ในช่วงขาลง

    “ปีที่แล้วเราต้องเผชิญกับสภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน แต่ Volvo ยังคงมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ของเรา แทนที่จะกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่คู่แข่งทำ เราเลือกที่จะเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ และรักษาความมั่นคงของธุรกิจในระยะยาว” คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย และประเทศมาเลเชีย กล่าว


    คริส เวลส์ กล่าวอีกว่า อีกหนึ่งจุดแข็งของ Volvo คือการปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง Volvo สามารถเพิ่มสัดส่วนยอดขาย BEV จาก 50% เป็น 80% ภายในปีเดียว ตอกย้ำว่าแบรนด์สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีพลังงานสะอาด

    อย่างไรก็ตาม Volvo ยังคงให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ Plug-in Hybrid (PHEV) ซึ่งยังคงเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม โดยแบรนด์ได้ตัดสินใจขยายการจำหน่ายรถ PHEV ออกไปจากแผนเดิมที่ตั้งใจจะยุติการผลิตบางรุ่น เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และโครงสร้างพื้นฐานของไทยที่ยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานไฟฟ้า

    “เราเข้าใจว่าลูกค้าของเรามีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน และเราต้องการให้พวกเขามีตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด BEV กำลังเติบโต แต่เรายังต้องรักษาสมดุลกับ PHEV เพื่อให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคไฟฟ้าได้อย่างราบรื่น” คริส เวลส์ กล่าวเสริม


[ ปี 2025 เตรียมเปิดตัวรถใหม่ 4 รุ่น ]

    แม้ภาพรวมตลาดรถยนต์ปีนี้น่าจะยังทรงตัว แต่ Volvo ไม่ได้หยุดเดินหน้า ปี 2025 จะเป็นอีกปีที่แบรนด์เดินเกมรุกต่อเนื่อง โดยเตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ทั้งหมด 4 รุ่น เป็นรถยนต์ BEV 2 รุ่น โดยหนึ่งในนั้นคือ EX30 Cross Country รุ่นพิเศษของ EX30 ที่ออกแบบให้รองรับการขับขี่ในทุกสภาพถนน เสริมสมรรถนะและความแข็งแกร่ง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ต้องการความอเนกประสงค์มากขึ้น

Volvo EX30


    นอกจากนี้ในไตรมาสแรกของปี 2025 วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ได้วางแผนการส่งมอบรถไฟฟ้าขนาด 7 ที่นั่ง สไตล์เอสยูวี รุ่นเรือธงอย่าง Volvo EX90 ให้แก่ลูกค้า ซึ่ง EX90 นำเสนอนิยามบทใหม่ของเทคโนโลยีและมาตรฐานความปลอดภัยของวอลโว่ คาร์ โดยเป็นรถรุ่นแรกที่ใช้ชิปในการประมวลผล ผ่านการทำงานของซอฟต์แวร์เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้ความปลอดภัย, การเชื่อมต่อ และข้อมูล บนแพลตฟอร์มที่สามารถอัพเกรดเพื่อรองรับการใช้งานในอนาคตได้อย่างต่อเนื่อง

Volvo EX90


    “เรามองว่าอนาคตรถยนต์พลังงานไฟฟ้ายังมีโอกาสเติบโตอีกมาก Volvo จึงไม่หยุดพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ขับขี่ที่ปลอดภัยและสะดวกสบายที่สุด” คริส เวลส์ กล่าว


[ ขยายเครือข่ายดีลเลอร์และศูนย์บริการ ]

    อีกหนึ่งแผนสำคัญของปี 2025 คือการขยายเครือข่ายดีลเลอร์และศูนย์บริการ Volvo วางแผน เพิ่มจำนวนดีลเลอร์ใหม่ที่พิษณุโลก และมีดีลเลอร์ใหม่ขยายสาขาเพิ่มที่พัฒนาการในกลางปีนี้ เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

    ในแง่ของการบริการเพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า บริษัทฯ ได้วางแผนในการเปิดโชว์รูม และศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานครบวงจร Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR) แห่งใหม่ พร้อมวางแผนการขยายบริการ Volvo Mobile Service ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบรับความนิยมของลูกค้าที่สนใจรับบริการเป็นจำนวนมากเนื่องจากเป็นบริการที่มีความสะดวกสบาย

Volvo Mobile Service


    เนื่องด้วยความเข้าใจในสภาวะของตลาด และเศรษฐกิจที่ผู้บริโภคกำลังเผชิญ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทยยังได้วางแผนจัดตั้งศูนย์ซ่อมและรีไซเคิลแบตเตอรี่ ที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งแพ็ก แต่สามารถซ่อมแซมเฉพาะจุดที่มีปัญหาได้

    “แบตเตอรี่เป็นส่วนสำคัญของรถ EV และต้นทุนการเปลี่ยนแบตใหม่ทั้งลูกยังค่อนข้างสูง โครงการของเราจะช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น” คริส เวลส์ อธิบาย

    นอกจากนี้ Volvo ยังมีโครงการส่งแบตเตอรี่เก่าที่หมดอายุไปรีไซเคิลที่สิงคโปร์ เพื่อนำแร่ธาตุสำคัญ เช่น ลิเธียมและโคบอลต์ กลับมาใช้ใหม่ในกระบวนการผลิต

    “เรามองว่าความยั่งยืนเป็นเรื่องที่ทุกบริษัทต้องให้ความสำคัญ การรีไซเคิลแบตเตอรี่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยให้เราสามารถบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

    ไม่เพียงเท่านั้น ปีนี้ Volvo ยังเปิดบริการ SMART Repair Service ซึ่งเป็นการบริการซ่อมความเสียหายขนาดเล็ก และขนาดกลาง ที่เกิดขึ้นกับตัวรถด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยของวอลโว่ แทนที่การเปลี่ยนอุปกรณ์ยกชิ้น ซึ่งการซ่อมดังกล่าวใช้เวลาไม่นาน และมีราคาประหยัด จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องตลอดช่วงอายุการใช้รถ เพิ่มมูลค่าในการเป็นเจ้าของซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ต้องการนำเสนอให้แก่ผู้เป็นเจ้าของรถวอลโว่ทุกคน

    โดยบริการ SMART Repair Service จะค่อยๆ ทยอยใส่เข้าไปในดีลเลอร์แต่ละราย ในเฟสแรกจะซ่อมกระจกบังลมหน้าได้โดยไม่ต้องเข้าศูนย์ตัวถัง และขยายการให้บริการซ่อมเบาะและรอยบุบขนาดเล็กในระยะถัดไป ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ลูกค้าและทำให้การดูแลรถยนต์เป็นเรื่องง่ายขึ้น

    “เราต้องการให้ Volvo เป็นแบรนด์ที่ให้บริการลูกค้าได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซมรถ การดูแลแบตเตอรี่ หรือบริการหลังการขายอื่นๆ ลูกค้าของเราควรได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด” คริส เวลส์ กล่าว


[ ตลาดปี 2025 อาจไม่โต ]

    เมื่อพูดถึงแนวโน้มของตลาดรถยนต์ในปี 2025 คริส เวลส์ ยอมรับว่า ตลาดโดยรวมอาจทรงตัว หรืออาจไม่ได้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากยังไม่เห็นปัจจัยบวกที่จะทำให้ภาพรวมดีกว่าปี 2024 โดยคาดว่ายอดขายรวมทั้งปีของตลาดรถยนต์ในไทยน่าจะอยู่ที่ 5.5-5.6 แสนคันเท่านั้น

    “เรายังไม่เห็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าตลาดจะฟื้นตัวขึ้นมากจากปีที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดในเดือนมกราคม 2568 ก็ตกลงนิดหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นกลุ่มรถพรีเมียมยังค่อนข้างโอเค เราได้มาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 40% เรายังคงเชื่อมั่นในกลยุทธ์ของเรา และจะมุ่งเน้นไปที่การเติบโตในเซ็กเมนต์ของเราเอง และตั้งเป้าการเติบโตในไทยไว้ที่ 0-5%

    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องจับตาเพิ่มเติมคือนโยบายกำแพงภาษีของ Donald Trump ที่หากผู้ผลิตจีนเริ่มส่งออกรถยนต์ไปยังยุโรปและสหรัฐฯ ไม่ได้ ทำให้เกิดความเป็นไปได้ที่รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนจะไหลเข้ามาในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันด้านราคา



เครดิตภาพ: วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : MG อวดความสำเร็จในตลาดยุโรป ยอดขายปี 2024 รวม 244,595 คัน โตเพิ่ม 5.1% จากปีก่อนหน้า

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine