ในโลกยานยนต์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว CTS Group ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความเชี่ยวชาญและความไว้วางใจในการดูแลรถยนต์หรูมานานถึง 20 ปี จากการให้บริการรถซูเปอร์คาร์และรถยนต์ระดับพรีเมียมกว่า 100,000 คัน วันนี้ CTS ได้ก้าวสู่ปีที่ 21 พร้อมกับเริ่มต้นบทใหม่ของธุรกิจด้วยการขยายเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูระดับบน ผ่านการเปิดโชว์รูม Denza CTS Thonglor ที่ตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ที่สะท้อนถึงความทันสมัยและความหรูหราของโลกยานยนต์สมัยใหม่

"สิ่งที่ทำให้ CTS Group ยืนหยัดในตลาดมาอย่างยาวนาน คือความใส่ใจในทุกรายละเอียด ความน่าเชื่อถือ และการสร้างความไว้วางใจในลูกค้าของเรา" ธีรรัตน์ จงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CTS Group กล่าวถึง การทำธุรกิจดูแลรถยนต์หรูที่ต้องการความละเอียดอ่อนและการบริการระดับพรีเมียม จนทำให้ CTS เป็นแบรนด์ที่ลูกค้าระดับ HNWI (High Net Worth Individuals) เลือกใช้ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา
การดำเนินธุรกิจตลอด 20 ปีที่ผ่านมา CTS Group ยึดมั่นในนโยบาย "CTS Customer Excellence" ซึ่งมี 4 องค์ประกอบหลักที่สำคัญ คือ 1.การบริการที่ดีที่สุด 2.ผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ตอบความต้องการลูกค้า 3.บุคลากรที่ให้บริการต้องดีที่สุด ในการดูแลลูกค้าและการดูแลรถ และ 4.บริการหลังการขายที่ดีที่สุด ด้วยแนวทางดังกล่าว ถือเป็นธรรมนูญที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา สะท้อนได้จากลูกค้าเกือบ 100% ที่กลับมาใช้บริการอีกครั้ง
จากประสบการณ์ที่สั่งสมมา ทำให้ CTS มั่นใจว่ามีความสามารถเข้าใจความต้องการที่ลึกซึ้งของเจ้าของรถยนต์หรูได้อย่างลึกซึ้ง ทั้งในเรื่องการบำรุงรักษา การบริการที่เป็นส่วนตัว และการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เฉพาะเจาะจง นี่คือเหตุผลที่การขยายธุรกิจสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรู เพื่อนำประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญกว่า 20 ปี มาตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นเทรนด์ของโลกอนาคต โดยมีหัวใจสำคัญคือ การให้บริการที่ได้มาตรฐาน สามารถสร้างความประทับใจและตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
"การลงทุนครั้งนี้ไม่ใช่แค่การขายรถ แต่เป็นการสร้างอนาคตที่เราเชื่อมั่นว่าจะยั่งยืนทั้งในเชิงธุรกิจและความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยยืนหยัดในเรื่องคุณภาพและความน่าเชื่อถือ เพื่อก้าวสู่อนาคตยานยนต์ไฟฟ้าหรู อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในเมืองไทย" คุณธีรรัตน์กล่าว
CTS group เปิดโชว์รูม Denza CTS Thonglor ในเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา โดย CTS Group ตั้งเป้าหมายให้โชว์รูมแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของรถยนต์ไฟฟ้าหรูที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าระดับสูงในกรุงเทพฯ โดยคาดการณ์ยอดขาย 2,000 คันในปีแรก ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจในฐานลูกค้าปัจจุบันที่มีกว่า 100,000 ราย รวมถึงการขยายตัวของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประแทศไทยที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดยานยนต์ระดับพรีเมียม อย่าง Denza แบรนด์หรูของ BYD ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าอันดับต้นๆ ของโลก
"CTS group มองเห็นการเปลี่ยนแปลงของโลกยานยนต์ ที่ขับเคลื่อนสู่พลังงานสะอาด ความยั่งยืน และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เรามองว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะไม่ใช่แค่ตัวเลือกในอนาคต แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมที่ต้องการความสะดวกสบายและเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและความหรูหรา" ธีรรัตน์กล่าว
โชว์รูม Denza CTS Thonglor ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความแตกต่างในประสบการณ์ของลูกค้า การบริการที่ครบวงจรตั้งแต่การขาย การบำรุงรักษา ไปจนถึงการสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาว เป็นหัวใจสำคัญของ CTS
ในขณะเดียวกัน CTS Group ยังมีธุรกิจที่เสริมความเชี่ยวชาญในด้านการปกป้องและดูแลรถยนต์ ได้แก่ ธุรกิจเคลือบสี และฟิล์มปกป้องสีรถ ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและความประณีตในการติดตั้ง และ The Specialist ศูนย์บริการซ่อมสีที่เชี่ยวชาญด้านการดูแลรถซูเปอร์คาร์และรถยนต์หรู โดยใช้ระบบพิเศษที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของลูกค้าระดับสูง นอกจากนี้ CTS ยังขยายความเชี่ยวชาญสู่ CTS Home ธุรกิจที่ช่วยปกป้องเฟอร์นิเจอร์หรูภายในบ้านด้วยมาตรฐานเดียวกันกับการดูแลรถยนต์
ในทุกความเปลี่ยนแปลง CTS Group ยังคงยึดมั่นในพันธกิจของการเป็นผู้นำด้านการบริการรถยนต์หรูที่ลูกค้าสามารถไว้วางใจได้ "ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ CTS ในการเป็นมากกว่าผู้นำด้านการดูแลรถยนต์หรู เราตั้งใจที่จะเป็นมากกว่าผู้ขาย แต่เป็นคู่คิดและผู้ดูแลที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่าทุกครั้งที่เลือกใช้บริการของเรา สามารถไว้วางใจในทุกมิติของการดูแลทรัพย์สินอันมีคุณค่าในการดูแลลูกค้าอย่างเป็นพันธมิตรคนสำคัญ" คุณธีรรัตน์กล่าวปิดท้าย