เทรนด์ยนตรกรรมไฟฟ้ากำลังมาแรงทั่วโลก ในไทยแม้จะยังไม่แพร่หลายด้วยข้อจำกัดหลายด้าน แต่การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้านวัตกรรมใหม่ “อี-พาวเวอร์” จากค่าย Nissan สู่ตลาดเมืองไทยก็มีความน่าสนใจไม่น้อย เพราะช่วยแก้ pain point การชาร์จไฟ ให้เป็นยนตรกรรมไฟฟ้าสมบูรณ์แบบที่ใช้ “น้ำมัน” ในวิถีปกติ
เตรียมแผนเปิดตัวมาตั้งแต่ต้นปี (มีนาคม 2563) แต่ด้วยสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ค่ายรถยนต์ที่มียอดขายอันดับ 5 ของเมืองไทยอย่าง “Nissan” จำต้องเลื่อนกำหนดเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้านวัตกรรมใหม่ออกไป แต่ในที่สุดก็รอการปลดล็อกกรุงเทพฯ ไม่ไหว ตัดใจเปิดตัว “Nissan Kicks e-Power" หรือ นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ รถยนต์คอมแพ็ค เอสยูวี อเนกประสงค์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงงานไฟฟ้า 100% แต่ “ไม่ต้องชาร์จไฟ” ผ่านเฟซบุ๊คไลฟ์เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนรุกตลาดแบบไดเร็กต์ถึงลูกค้าโดยตรง
ด้วยสมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้าสมบูรณ์แบบ แต่ใช้ “น้ำมัน” เป็นเชื้อเพลิงในการปั่นไฟป้อนเข้าระบบมอเตอร์ โดยยังคงตอบโจทย์ยนตรกรรมแห่งอนาคตที่ลดมลพิษฝุ่นควันและเสียงรบกวน เนื่องจากขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์และพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่
เทคโนโลยีอี-พาวเวอร์ ช่วยลดปัญหาความไม่สะดวกในชาร์จสเตชั่นที่มีจำกัด เพราะรถยนต์เทคโนโลยีใหม่นี้จะใช้การ “เติมน้ำมัน” เพื่อไปหมุนมอเตอร์ โดยรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบ ลดมลพิษฝุ่นควัน ลดเสียงรบกวน ตอบโจทย์ยนตรกรรมรักษ์โลกในแบบที่ไม่กระทบวิถีการใช้รถเดิมๆ เพราะสามารถเติมน้ำมันเพื่อปั่นไฟฟ้าได้ทุกสถานีบริการน้ำมันตามปกติ
นอกจากนี้ “Nissan Kicks” ยังเปิดตัวในราคาที่สู้ตลาดแมสได้ ด้วยด้วยราคาเริ่มต้นที่ 889,000 บาท สำหรับรถยนต์คอมแพ็ค เอสยูวี อเนกประสงค์รุ่นแรกในประเทศไทยกับเทคโนโลยีอี-พาวเวอร์ ที่จะนำลูกค้าในไทยก้าวสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า โดยการเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของภูมิภาคและครั้งแรกของโลก สำหรับ “Nissan Kicks” ใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอี-พาวเวอร์ ซึ่งเป็นการปฏิวัติระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า หลังจากที่ได้ทำตลาดในประเทศญี่ปุ่นเป็นแห่งแรก Nissan Kicks ใหม่นี้จะผลิตในประเทศไทย เพื่อลูกค้ากลุ่มเออร์เบิน ไลฟ์สไตล์
เทคโนโลยีอี-พาวเวอร์ของ Nissan ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย และสามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยรถยนต์จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ส่วนเครื่องยนต์สันดาปภายในจะทำหน้าที่เพียงผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับระบบ ซึ่งเทคโนโลยีอี-พาวเวอร์ ประกอบไปด้วย เครื่องยนต์เบนซิน เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (generator) อินเวอร์เตอร์ (Inverter) มอเตอร์ไฟฟ้า (electic motor) และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-ion battery)
คุณสมบัติของรถรุ่นนี้คือการออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของคนที่ใช้ชีวิตอิสระที่กำลังมองหารถยนต์ที่มีสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้าง พร้อมระบบการขับขี่อัจฉริยะ และอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยขั้นสูงในราคาที่คุ้มค่า โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกต่อจากประเทศญี่ปุ่น ที่ Nissan ผลิตเทคโนโลยีอี-พาวเวอร์ออกสู่ตลาด และมั่นใจว่าจะขับเคลื่อนให้คนไทยพร้อมก้าวสู่ยุคการใช้ในอนาคต ในขณะที่รถยนต์มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ให้อัตราการประหยัดน้ำมันมากขึ้นมอบอัตราเร่งและสมรรถนะที่โดดเด่น
“การเปิดตัวรถยนต์ นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ใหม่ในประเทศไทยครั้งนี้เป็นการนำเสนอนวัตกรรมแห่งการเปลี่ยนแปลง (Disruptive) ซึ่งเป็นดีเอ็นเอของ Nissan ที่นำมาสู่ภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง” Yutaka Sanada รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย กล่าวและว่า “นับเป็นวันที่น่าตื่นเต้นสำหรับ Nissan และประเทศไทย ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางด้านการผลิตและส่งออกที่สำคัญระดับโลกของ Nissan รวมถึงผู้นำระดับภูมิภาคในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ขององค์กรด้านยานยนต์พลังงานไฟฟ้า”
“การออกแบบที่ทันสมัยและแข็งแกร่งของรถยนต์คันนี้จะช่วยเสริมประสิทธิภาพให้กับเทคโนโลยีอี-พาวเวอร์ที่ล้ำสมัย ผสมผสานสไตล์ได้อย่างลงตัวและโดดเด่น มอบความสะดวกสบายและมีเทคโนโลยีจาก นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility) ให้ลูกค้าชาวไทยได้เห็นถึงการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ของ Nissan” Sanada ย้ำ
เอกลักษณ์ของเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ คือ เมื่อต้องการเร่งความเร็วหรือขับขึ้นที่สูงชัน มอเตอร์ไฟฟ้าจะได้รับพลังงานไฟฟ้าจากทั้งแบตเตอรี่และอินเวอร์เตอร์เพื่อเพิ่มพลกำลัง ในขณะชะลอความเร็ว เครื่องยนต์จะหยุดทำงานและฟื้นฟูพลังงานด้วยการชาร์จพลังงานไฟฟ้ากลับสู่แบตเตอรี่จนกระทั่งรถหยุดนิ่ง ทำให้ไม่มีการสิ้นเปลืองพลังงานจากการลดความเร็ว
“นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ใหม่ ผลิตขึ้นในประเทศไทยด้วยศักยภาพและทักษะความชำนาญของพนักงานชาวไทย โดยรถรุ่นนี้มาพร้อม 14 เทคโนโลยีจากนิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี ที่ดีที่สุดในรถระดับเดียวกัน มีการออกแบบที่โดดเด่นและราคาที่โดนใจ” ราเมช นาราสิมัน ประธาน นิสสัน (มอเตอร์) ประเทศไทย จำกัด กล่าวเสริม
เทคโนโลยีอัจริยะ-ปลอดภัย
เทคโนโลยีในรถรุ่นใหม่จากนิสสันนี้ ประกอบไปด้วย มอเตอร์ไฟฟ้า EM57 เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (generator) และอุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter) ที่ผลิตกระแสไฟฟ้าจากเครื่องยนต์สันดาปภายในขนาด 1.2 ลิตร 12 วาล์ว 3 สูบ แถวเรียงแบบ DOHC (Double Overhead Camshaft) ระบบอี-พาวเวอร์ ให้พลกำลังสูงสุด 95 กิโลวัตต์ (129 พีเอส) มีแรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร (Nm) และใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ที่มี 4 โมดูล เทคโนโลยีนี้ทำให้นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ มีอัตราเร่งที่ราบรื่นทำให้การขับขี่เงียบ และใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า
นอกจากนี้ยังเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ด้วย เทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ วัน-เพดัล (One-Pedal) ช่วยให้ผู้ขับขี่เร่ง ชะลอความเร็ว และเบรกจนรถหยุดนิ่งได้ด้วยคันเร่งเพียงอย่างเดียว การใช้คันเร่งเดียวช่วยให้ การรักษาระยะห่างระหว่างรถยนต์คันหน้า การชะลอความเร็ว และการหยุดเมื่อลงเขาหรือหยุดเมื่อเจอสัญญาณไฟจราจร สะดวกสบายและง่ายยิ่งขึ้น
รถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมการขับขี่ใน 4 รูปแบบ คือแบบปกติ (Normal Mode) แบบเอสหรือสมาร์ทโหมด (Smart Mode) แบบอีโค (Eco Mode) และแบบอีวี (EV Mode) ซึ่งการขับขี่ในแบบปกติจะให้อัตราเร่งความเร็ว และการหยุดรถที่ดีเยี่ยม (โดยการปล่อยเท้าออกจากคันเร่ง) เทียบเท่ากับการหยุดของรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในทั่วๆ ไป ในแบบเอสหรือสมาร์ทโหมด รถจะเพิ่มประสิทธิภาพการเร่งความเร็วและการหยุดรถได้ดีมากยิ่งขึ้น
ในแบบอีโค (Eco) รถจะปรับการขับเคลื่อนเพื่อการประหยัดน้ำมันโดยเน้นใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง ส่วนการขับขี่ด้วยอีวี (EV) ที่ปรับเปลี่ยนให้รถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่เหลือภายในแบตเตอรี่ โดยเครื่องยนต์จะไม่ทำงานจนกระทั่งแบตเตอรี่อยู่ในระดับต่ำ จะทำให้สัมผัสถึงความเงียบและอีกขั้นของความประหยัด
นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ใหม่มาพร้อม 14 เทคโนโลยีจากนิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี ที่ดีที่สุด อาทิ เทคโนโลยีควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (Intelligent Cruise Control) เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning) เทคโนโลยีเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking) เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning system) เทคโนโลยีเตือนรถในทางสวนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor) พร้อมด้วยเทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection) และเทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ (Intelligent Rear View Mirror) เป็นต้น
คุณสมบัติด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของนิสสัน คิกส์ ใหม่ ประกอบด้วยระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (Anti-lock Braking System) ระบบกระจายแรงเบรก (Electronic Brake Force Distribution System) และระบบเสริมแรงเบรก (Brake Assist) เป็นระบบมาตรฐานในรถยนต์ทุกรุ่น รวมไปถึงถุงลมนิรภัย SRS 6 จุด
การออกแบบ-เชื่อมต่อลงตัว
นิสสัน คิกส์ ใหม่ มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานเส้นสายของอารมณ์เข้ากับการใช้งานจริงได้อย่างลงตัว พร้อมการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของนิสสัน ด้วยรูปแบบที่โดดเด่นทันสมัย อาทิ กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้า และไฟท้ายแบบบูมเมอแรง หลังคาแบบลอยตัว (floating roof) พร้อม ที่บังแดด (wrap-around visor) จากกระจกหน้าไปถึงกระจกข้าง เสาหลังคาท้ายถูกซ่อนพรางสายตาด้วยสีดำที่ผสมผสานเข้ากับกระจกประตูท้าย ในขณะที่หลังคาแบบลอยตัวถูกขยายออก ทำให้โดดเด่นสะดุดตา
สำหรับการออกแบบภายนอกที่โดดเด่นอื่นๆ ได้แก่ ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟเลี้ยวแบบบูมเมอแรง LED Signature Light ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL) แบบ LED ไฟหน้า พร้อมระบบ Follow-me-home ไฟท้ายแบบ LED ภายนอกได้รับการออกแบบใหม่ให้ปราดเปรียวกว้างและยาวขึ้น ภายใต้ปรัชญาในการสร้างสรรค์รถยนต์แบบ “รูปทรงเรขาคณิตที่สื่อถึงอารมณ์ หรือ Emotional Geometry” ของ Nissan ที่เพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในที่กว้างขวางของตัวรถ
ภายในได้รับการออกแบบเพื่อรองรับแผงหน้าปัดดีไซน์ใหม่ หน้าจออินโฟเทนเมนท์ (infotainment) พวงมาลัยและเบาะที่นั่งได้อย่างลงตัว ห้องโดยสารที่มีสไตล์ ได้รับการออกแบบและการปรับแต่งอย่างประณีต รวมถึงการออกแบบแผงหน้าปัดด้วยลายเส้นของแนวปีกเครื่องร่อนหรือ Gliding Wing ที่เรียบง่ายและทันสมัย โดดเด่นด้วยจอสีแสดงผลบนหน้าปัดขนาด 7 นิ้ว ติดตั้งอยู่ภายในพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์เต็มรูปแบบ โดยยังนำเสนอลวดลายภายในแบบทูโทน สีดำและสีส้ม ซึ่งมีเฉพาะในรุ่น VL
ด้านการเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Intelligent Integration) จัดการผ่านระบบข้อมูลและความบันเทิง Nissan Connect ระบบอินโฟเทนเมนท์ มาพร้อมหน้าจอสีระบบสัมผัสแบบ AIVI ขนาด 8 นิ้ว เพิ่มความทันสมัยด้วยการเชื่อมต่อสาระและความบันเทิง ระบบนำทาง และความปลอดภัย ภายใต้แพลตฟอร์มเดียว โดยผ่านการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วย Apple CarPlay (สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS) นอกจากนี้ Nissan Connect ยังแสดงให้เห็นถึงการบูรณาการของเทคโนโลยีแบบอัจฉริยะ ซึ่งเป็นคุณสมบัติหลักของนิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี
รถยนต์ไฟฟ้าเทคโนโลยีใหม่รุ่นนี้มี 6 สีภายนอกให้เลือก ได้แก่ สีดำ แบล็ค สตาร์ (Black Star) สีขาว สตอร์ม ไวท์ (Storm White) สีแดง เรเดียนท์ เรด (Radiant Red) สีเทา กัน เมทาลิค (Gun Metallic) สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์ (Brilliant Silver) และสีส้ม โมนาร์ช (Monarch Orange) นอกจากนี้ยังนำเสนอสีทูโทนที่เป็นทางเลือกใหม่ให้ความรู้สึกหรูหรามากขึ้นด้วยหลังคาแบบลอยตัวสีดำ มีให้เลือกเฉพาะในรุ่น VL สำหรับ 4 สีภายนอก สีส้ม โมนาร์ช สีแดง เรเดียนท์ เรด สีเทา กัน เมทาลิค และสีขาว สตอร์ม ไวท์
ราคาพร้อมสู้ตลาดแมส
สำหรับนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ มี 4 รุ่นย่อย พร้อมราคาเริ่มต้นช่วงเปิดตัว ดังนี้ 1.2 ลิตร รุ่น S ราคา 889,000 บาท, 1.2 ลิตร รุ่น E ราคา 949,000 บาท, 1.2 ลิตร รุ่น V ราคา 999,000 บาท, 1.2 ลิตร รุ่น VL ราคา1,049,000 บาท โดยทุกรุ่นมาพร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีอายุการใช้งานที่นาน 10 ปี รับประกันระบบไฟฟ้าเป็นเวลา 5 ปี และรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรแล้วแต่ระยะใดถึงก่อน
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine