เน็กซ์ พอยท์ จับมือบริษัทจีน Dayun ร่วมพัฒนาในเชิงกลยุทธ์เพื่อผลิตและประกอบรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กในประเทศไทย เล็งผลิตรถ Mini SUV รุ่น Yuehu ตั้งเป้าขายในราคาต่ำกว่า 490,000 บาท
บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ได้ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา NEX และ Dayun Automobile Co., Ltd (“Dayun”) ได้ร่วมกันลงนามสัญญาร่วมพัฒนาในเชิงกลยุทธ์เพื่อผลิตและประกอบรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กในประเทศไทย (Strategic Cooperation Agreement หรือ “SCA”)
โดยขั้นต้นบริษัทฯ จะนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กรุ่น Yuehu เพื่อจัดจำหน่าย และศึกษาตลาดร่วมกัน เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตและประกอบรถยนต์ดังกล่าวในประเทศไทยให้เป็นฐานในการผลิตสำหรับพวงมาลัยขวาในลำดับถัดไป
“การลงนามใน SCA นี้เป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของบริษัทฯ และเพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายของภาครัฐที่มุ่งเน้นสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อลดการปล่อยคาร์บอน ตามการประชุม COP27 ที่ประเทศไทยได้ประกาศเจตนารมณ์โดยตั้งเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี ค.ศ. 2065
“โดยปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการพิจารณาเพื่อขอการสนับสนุนของรัฐผ่านมาตรการ EV 3.5 เพิ่มเติม เพื่อให้สามารถจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก Yuehu ได้ในราคาที่ต่ำกว่า 490,000 บาท มุ่งเน้นการทำตลาดในกลุ่ม Eco Car ซึ่งมียอดจดทะเบียนประมาณ 100,000 คันต่อปี ทั้งนี้หากมีการศึกษารายละเอียดในการลงทุนพร้อมทั้งมีความชัดเจนในรายละเอียดเพิ่มเติม จะดำเนินการขออนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทต่อไป” คณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NEX ระบุ
ทั้งนี้ DAYUN Group เป็นบริษัทจีน ที่มุ่งเน้นผลิตและประกอบรถเชิงพาณิชย์เป็นหลัก โดยได้เริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก (Mini SUV) ราคาประหยัดซึ่งสามารถขายได้กว่า 20,000 คัน ในปัจจุบัน มีทุนจดทะเบียนถึงกว่า 5,000 ล้านบาท การร่วมมือกันในครั้งนี้จะมุ่งเน้นการผลิตและประกอบรถ Mini SUV เป็นหลัก โดยมีเป้าหมายมุ่งเน้นกลุ่ม ECO CAR ในประเทศไทยที่ปีที่แล้วมีจำนวนรถจดทะเบียนเกือบ 100,000 คัน
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 7 ค่ายรถ EV ยักษ์ใหญ่จีน โชว์แผนซื้อชิ้นส่วนในประเทศ มองโอกาสระยะยาวใช้ชิ้นส่วนในไทยถึง 90%
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine