ค่ายตรีศูล ‘มาเซราติ’ เปิดตัว “กรันทูริสโม โฟลกอเร” (GranTurismo Folgore) รถสปอร์ต ลักชัวรี ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ครั้งแรกในประเทศไทย และเป็นประเทศที่สองในเอเชีย ด้วยราคา 12.9 ล้านบาท รับตลาดรถหรูฟื้นตัว ชูนวัตกรรมใหม่ผสานตำนาน 75 ปี สไตล์แบรนด์อิตาเลียน ขยายฐานคนรุ่นใหม่มุ่งพลังงานสะอาด คาดปีนี้ปิดยอดขาย 70 - 80 คัน
ปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ ประเทศไทย กล่าวว่า แนวโน้มตลาดรถหรูกลับมาฟื้นตัวตั้งแต่ปี 2566 ที่ผ่านมา และคาดว่าปีนี้จะกลับมาเป็นปีที่ดีที่สุด หลังจากในช่วงโควิดการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ และการส่งมอบรถยนต์ชะลอตัว โดยมาเซราติ ประเทศไทย ได้เปิดตัวรถยนต์ ‘มาเซราติ กรันทูริสโม’ โฉมใหม่ ที่มีให้เลือกทั้งแบบเครื่องยนต์สันดาป และขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% เพื่อขยายฐานคนรุ่นใหม่ที่มีแนวโน้มเลือกใช้รถยนต์พลังงานสะอาดมากขึ้น
![](https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/02/5F78VRmUR1XgNzpU5Nxz.jpg)
ขณะเดียวกันยังได้สมรรถนะในการขับขี่แบบรถสปอร์ต โดยรุ่น “กรันทูริสโม โฟลกอเร” (GranTurismo Folgore) ถือเป็นการเปิดตัวรถยนต์สปอร์ตพลังงานไฟฟ้าครั้งแรกในประเทศไทย และเป็นการเปิดตัวของมาเซราติประเทศที่สองในเอเชีย
“คนรุ่นใหม่มีแนวโน้มเลือกใช้รถยนต์พลังงานสะอาดมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาจากการสำรวจพฤติกรรมลูกค้าส่วนใหญ่จะมีรถยนต์ไฟฟ้าอยู่แล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่จะได้สัมผัสกับรถยนต์สปอร์ตที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ที่ให้สมรรถนะในการขับขี่ที่ผสานระหว่างนวัตกรรมและตำนานกว่า 75 ปี ของรถกรันทูริสโมจากอิตาลี ที่ตั้งใจพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า โดยใช้ประสบการณ์จากสนามแข่ง ฟอร์มูล่า อี มาเซราติกรันทูริสโม ถือเป็นจุดรวมของอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของมาเซราติ” ปิยะเทพกล่าว
สำหรับการเปิดตัวรถยนต์มาเซราติกรันทูริสโม จากค่ายตรีศูลในครั้งนี้ มี 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ โมเดนา (Modena) ความแรง 490 แรงม้า (HP) แรงบิด 600 นิวตันเมตร ราคาเริ่มต้น 14.5 ล้านบาท และ โทรเฟโอ (Trofeo) ที่อัพเกรดเพิ่มกำลังเป็น 550 แรงม้า (HP) แรงบิด 650 นิวตันเมตร ราคาเริ่มต้น 16.9 ล้านบาท
![](https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/02/Dopt9CcX52FSbQwB6kz9.jpg)
ส่วน กรันทูริสโม โฟลกอเร (GranTurismo Folgore) ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ส่งกำลังผ่านมอเตอร์ 402 แรงม้า (HP) จำนวน 3 ตัว (หน้า 1 หลัง 2) วางเป็นรูปตัว “T” เพื่อให้ได้อารมณ์ในการขับขี่ พร้อมเสียงสังเคราะห์แบบรถสปอร์ต ผสานเทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800 โวลต์ ความจุ 92.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง เทคโนโลยีของรถแข่งฟอร์มูลา อี (Formula E) 761 แรงม้า (HP) แรงบิด 1,350 นิวตันเมตร ราคาเริ่มต้น 12.9 ล้านบาท
![](https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/02/SVh3Fwhq5dJEEmZHhEQi.jpg)
ภายในห้องโดยสารของมาเซราติ กรันทูริสโม ติดตั้งนวัตกรรมล้ำสมัย ด้วยระบบมัลติมีเดีย Maserati Intelligent Assistant (MIA) อินโฟเทนเมนท์ใหม่ล่าสุด หน้าจอ comfort display ที่รวมฟังก์ชั่นหลักของทัชสกรีนอเนกประสงค์ นาฬิกาดิจิทัลอัจฉริยะ (Dijital Smart Clock) และเฮด-อัพ ดิสเพลย์ (เป็นออปชั่น) และมอบประสบการณ์พิเศษแบบ ‘all-round sound experience’ การันตีด้วยสุ้มเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ มาเซราติ รวมทั้งเวอร์ชั่นรถไฟฟ้า เกิดจากฝีมือการพัฒนาของวิศวกรจาก Maserati Innovation Lab ผ่านระบบเครื่องเสียง Maserati Sound Audio System
สำหรับรถยนต์สปอร์ต มาเซราติ กรันทูริสโม โฟลกอเร มีระยะทางวิ่งกว่า 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งด้วยโครงสร้างพื้นฐานของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่มีความพร้อม เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เมเซราติเลือกเปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้ในประเทศไทย เป็นประเทศที่สองในเอเชีย รองจากสิงคโปร์
![](https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/02/BY3Tw4joCda3cLA7b3PM.jpg)
ตลาดรถหรู 2,000 คันฟื้นตัว
ปิยะเทพ กล่าวว่า ตลาดรถหรูในประเทศไทยมียอดจำหน่ายประมาณ 2,000 คันต่อปี ปีนี้คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัว โดยมาเซราติคาดว่าจะมียอดขายประมาณ 70 - 80 คัน โดยจะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ ขณะที่แนวโน้มความต้องการรถยนต์ไฟฟ้ามีเพิ่มขึ้น คาดว่าจะมีสัดส่วน 20 - 30% จากตลาดรวม โดยมาเซราติ รถยนต์หรูภายใต้กลุ่มสเตลแลนทิส ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำจากประเทศอิตาลี ยังมีแบรนด์อื่นๆ เข่น อัลฟ่า โรมิโอ, เฟียต และเปอร์โยต์ มีแผนเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้พลังงานสะอาดคาดว่าจะมีสัดส่วนจากตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 40 - 50% ในประเทศไทย
![](https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/02/mcDde3VvbAMXenEDoB1e.jpg)
สำหรับรถยนต์รุ่นกรันทูริสโม มาเซราติ ประเทศไทย ได้โควตานำเข้ามาจำหน่ายประมาณ 12 คัน ซึ่งขณะนี้มียอดจองเข้ามาแล้ว ซึ่งผู้บริโภคจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่อยากทดลองใช้รถพลังงานไฟฟ้า กับกลุ่มดั้งเดิม ซึ่งเป็นฐานลูกค้า ส่วนใหญ่จะซื้อเพื่อสะสม จะให้ความสำคัญกับเครื่องยนต์และเสียงที่สะท้อนถึงความเป็นรถสปอร์ตหรูเป็นหลัก
“ตลาดรถหรูไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เพราะกลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อ แต่ช่วงที่ผ่านมา ตลาดได้รับผลกระทบจากการชะลอการเปิดรถยนต์รุ่นใหม่ๆ และการส่งมอบที่ล่าช้า อย่างแบรนด์มาเซราติ ค่ายตรีศูล เน้นการผลิตรถยนต์จำนวนไม่มากในแต่ละปี โดยวางโพสิชั่นเหมือนสินค้าแบรนด์เนมที่มีไม่มากนัก ส่วนใหญ่กลุ่มเป้าหมายจะซื้อเพื่อสะสม และให้ความสำคัญกับเครื่องยนต์เป็นหลัก” ปิยะเทพกล่าว
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เศรษฐกิจชะลอไม่กระทบคนรวย! Lamborghini อวดยอดซูเปอร์คาร์ ขายหมดถึงปี 2026 แล้ว
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine