Charlie Munger ชี้ Elon Musk กำลังถูกแซงหน้าโดยผู้นำ BYD จากจีน ที่พร้อมชิงยอดขายยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั่วโลกจาก Tesla
Charlie Munger มือขวาของ Warren Buffett แห่ง Berkshire Hathaway กล่าวชื่นชมความสำเร็จของบริษัทจากแดนมังกร BYD ไปเมื่อต้นปีนี้ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายนี้มีชัยเหนือ Tesla ในประเทศจีน และใกล้จะเป็นผู้ครองตลาด EV ทั่วโลกด้วยเช่นกัน Munger จึงตัดสินใจพา Berkshire เข้าร่วมลงทุนใน BYD
“ผมไม่เคยช่วยอะไร Berkshire ได้ยอดเยี่ยมเท่าเรื่อง BYD เลย” Munger กล่าวในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ การประชุมรายปีของสำนักข่าว Daily Journal “BYD ก้าวนำ Tesla ไปไกลมากในจีน จนแทบไม่น่าเชื่อเลยล่ะ”
Munger ยังเสริมด้วยว่าการตัดสินใจลงทุน 270 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กับ BYD ในปี 2008 นั้น ณ ช่วงเวลานี้ “มีมูลค่าราว 8 พันล้านหรืออาจจะถึง 9 พันล้านเหรียญ ถือเป็นอัตราผลตอบแทนที่คุ้มค่าจริงๆ”
Munger เชื่อว่าเหตุผลสำคัญที่ทำให้ BYD ประสบความสำเร็จคือความสามารถของผู้ก่อตั้งและซีอีโออย่าง Wang Chuanfu ซึ่งในปี 2009 นักลงทุนอาวุโสรายนี้ยังให้คำนิยามว่าเป็น “Thomas Edison รวมร่างกับ Jack Welch” นอกจากนี้ ล่าสุดที่ผ่านมา เขาก็ชื่นชมคุณสมบัติต่างๆ ของมหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง BYD ซึ่งเติบโตมากับความยากจนสุดขีด โดยเกิดมาเป็นลูกชาวนาก่อนจะกำพร้าตั้งแต่ยังเยาว์
“เขาสามารถทำในสิ่งที่คุณทำไม่ได้” Munger กล่าวในตอนหนึ่งของรายการพอดแคสต์ Acquired “เขาเป็นยอดมนุษย์ที่รู้ว่าต้องทำอะไรด้วยสองมือ ใกล้เคียงกับคำว่าเริ่มจากศูนย์เลยทีเดียว ชายจาก BYD คนนี้เก่งเรื่องการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ขึ้นมายิ่งกว่า Elon เสียอีก”
Munger ยังบอกว่าการลงทุนในบริษัทยานยนต์สัญชาติจีนรายนี้เป็น “สไตล์ธุรกิจร่วมลงทุน” พร้อมเสริม “BYD คือปาฏิหาริย์ แต่ชายคนนั้นตั้งหน้าตั้งตาทำงาน 70 ชั่วโมงต่อสัปดาห์และมีไอคิวสูงมาก” Wang เป็นที่รู้จักกันในฐานะนักประหยัดต้นทุนตัวยง และยังคงใช้ชีวิตแบบมัธยัสถ์เรื่อยมา
ใช่ สำหรับ BYD และไม่ สำหรับ Tesla
Munger เคยได้รับการเสนอจาก Musk ให้ Berkshire เข้ามาลงทุนใน Tesla แต่เขาตัดสินใจปฏิเสธไป เจ้าพ่อ X ทวีตข้อความไปเมื่อต้นปีนี้ว่า “Munger จะลงทุนใน Tesla ที่มูลค่าประเมินราว 200 ล้านเหรียญก็ย่อมได้ตอนที่ผมทานมื้อเที่ยงกับเขาเมื่อปลายปี 2008” โดยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ Tesla ตอนนี้อยู่ที่ 679 ล้านเหรียญ
ทว่า Berkshire หลีกเลี่ยงการลงทุนกับ Tesla ด้วยเหตุผลบางประการ และมองว่าความเสี่ยงมีมากเกินไป ซึ่ง Buffett ก็ออกมาอธิบายเมื่อก่อนหน้านี้ว่า “Charlie กับผมรู้สึกมานานแล้วว่าอุตสาหกรรมยานยนต์นั้นยากเกินไปหน่อย มันเป็นธุรกิจที่คุณต้องเผชิญกับคู่แข่งมากมายจากทั่วทุกมุมโลก และพวกเขาไม่มีทีท่าจะล้มหายตายจากไปง่ายๆ เหมือนมีผู้ชนะในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ตำแหน่งนั้นไม่ใช่ที่ถาวร”
“ผมคิดว่าผมรู้ว่า Apple จะไปอยู่ตรงจุดไหนในอีก 5 หรือ 10 ปีข้างหน้า แต่ผมเดาไม่ได้เลยว่าพวกบริษัทรถยนต์จะเป็นอย่างไรในอีก 5 หรือ 10 ปี” เขาเน้นย้ำเพิ่มเติม
ในรายการพอดแคสต์ Acquired ที่ผ่านมา Munger กล่าวว่า “ผู้ชนะน่ะหรือ? ใครจะไปรู้ ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าพวกนี้ยังคงไม่แน่นอน ทั้งเงินลงทุนใหม่จำนวนมาก วิธีการต่างๆ ในการขายรถ ไหนจะการรวมตัวอันยากยิ่ง ดังนั้นผมจึงไม่คิดสนใจอุตสาหกรรมยานยนต์เลย”
กระทั่งทุกวันนี้ BYD ยังทำให้เขารู้สึกกระวนกระวาย แม้จะประสบความสำเร็จ Berkshire ทยอยขายหุ้น BYD มาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว รวมถึงหุ้นมูลค่า 25.7 ล้านเหรียญเมื่อเดือนที่ผ่านมา
“ผมอาจจะเป็นแฟนตัวยง แต่ก็รู้สึกเหมือนกำลังวัดดวงอยู่ทุกครั้งตอนที่ธุรกิจของพวกเขาเริ่มแกว่งไปมา” พร้อมบรรยายความรู้สึก “พวกเขาทำให้ผมกังวลซึ่งมันรุนแรงมาก”
เขาบรรยายถึง “ความผิดพลาดใหญ่หลวง” ที่ BYD ทำลงไปในช่วงตั้งต้นจน “เกือบจะล้มละลายด้วยระบบการสร้างตัวแทนจำหน่ายตอนแรกเริ่ม”
ครั้นถามว่าสิ่งใดเกี่ยวกับ BYD ที่จับใจเขา Munger ตอบว่า “คนๆ นี้เป็นอัจฉริยะ เขาจบปริญญาเอกด้านวิศวกรรม เขาสามารถดูแบบของใครสักคนตอนเช้า พอตกบ่ายเขาก็สร้างมันขึ้นมาได้เลย ผมไม่เคยเจอใครที่เป็นแบบนั้นมาก่อน เขาสามารถทำได้ทุกอย่าง มีความเป็นวิศวกรแต่กำเนิด และเป็นผู้บริหารการผลิตประเภทที่ต้องทำให้สำเร็จ ถือเป็นพรสวรรค์สำคัญที่ต้องมีสำหรับตำแหน่งนั้นเลย”
ทั้งหมดนี้อธิบายว่าเหตุใด BYD ผู้สร้างแบตเตอรี่และชิปเซมิคอนดักเตอร์ของตัวเอง จึงสามารถเบียดยอดขาย EV ทั่วโลกของ Tesla ได้ในไตรมาสที่สามด้วยความต่างที่ 3,456 คัน และยังพร้อมจะเข้าแย่งชิงมาอีกด้วย โดย BYD ขายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบไป 431,603 คันในไตรมาสดังกล่าว เพิ่มขึ้นมา 23% จากไตรมาสก่อนหน้า
“BYD จะขายรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับผู้โดยสารได้มากกว่า Tesla ในไตรมาสที่สี่” Taylor Ogan ซีอีโอ Snow Bull Capital เฮดจ์ฟันจากเซินเจิ้นซึ่งถือหุ้นในบริษัทยานยนต์ทั้งสองแห่งเผยกับ Bloomberg เมื่อเดือนที่ผ่านมา
นอกจากเป็นที่รู้จักในชื่อผู้ขายรถยนต์ราคาประหยัดในตลาดใหญ่แล้ว BYD ยังเพิ่งจะเปิดตัวไลน์อัพที่เป็นแบรนด์ลักชูรีเพื่อดันยอดขาย ทั้งยังส่งออกรถยนต์ไปต่างประเทศ โดยเฉพาะในยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมียอดขายจากการส่งออกคิดเป็น 9% เพิ่มขึ้นจาก 5% ในไตรมาสก่อนหน้า
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Musk ได้ออกมาตอบโต้การสัมภาษณ์ในปี 2011 ซึ่งเขาหัวเราะเยาะคุณภาพรถของ BYD
“นั่นมันหลายปีมาแล้วนะ” Musk อธิบาย “ทุกวันนี้รถของพวกเขาเป็นคู่แข่งศักยภาพสูงทีเดียว”
แปลและเรียบเรียงจาก Charlie Munger says Elon Musk is outclassed by the head of China’s BYD
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 13 คนดังผู้ล่วงลับ ที่ทำเงินได้มากสุด ปี 2023
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine