"เกรท วอลล์ มอเตอร์" เปิดตัวแบรนด์ในไทยอย่างเป็นทางการ - Forbes Thailand

"เกรท วอลล์ มอเตอร์" เปิดตัวแบรนด์ในไทยอย่างเป็นทางการ

FORBES THAILAND / ADMIN
10 Feb 2021 | 04:51 PM
READ 1995

"เกรท วอลล์ มอเตอร์" จัดงาน “SAWASDEE THAILAND” เปิดตัวแบรนด์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ประกาศบุกตลาดไทยด้วย 3 กลยุทธ์หลัก เอลเลียต จาง ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย เผยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้กับผู้บริโภค

เอลเลียต จาง ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย เผยว่าตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในตลาดประเทศจีนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถเอสยูวีและรถกระบะ มีการขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกโดยการ สร้าง DNA ของผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นจนได้รับการยอมรับจากผู้ใช้เกือบ 10 ล้านคนทั่วโลก “เราไม่เพียงแต่มุ่งมั่นที่จะผลิตและส่งมอบรถยนต์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค แต่ยังใส่ใจในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านยานยนต์ไฟฟ้าอันล้ำสมัย เพื่อเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมยานยนต์ให้พร้อมขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ยั่งยืน และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้คนทั่วโลกผ่านทางนวัตกรรม อาทิ การพัฒนาเทคโนโลยี 5G การขับขี่อัตโนมัติและ V2X การพัฒนาแบรนด์เทคโนโลยีทั้ง GWM LEMON, GWM TANK และ GWM COFFEE INTELLIGENCE ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้กับผู้บริโภค” เอลเลียต จาง ยังเสริมว่า “เกรท วอลล์ มอเตอร์ รุกตลาดทั่วโลกด้วยรถยนต์ 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ HAVAL, ORA, WEY และ GWM Pick up เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์และความต้องการที่แตกต่างกัน ซึ่งธุรกิจของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ขยายไปยังกว่า 60 ประเทศทั่วโลกด้วยกลยุทธ์ Globalization รวมไปถึงการจัดตั้งโรงงานแบบ “12+5" คือ โรงงานผลิตเต็มรูปแบบ 12 แห่งรวมถึงโรงงานล่าสุดของเราที่จังหวัดระยอง ประเทศไทย และมีโรงงานแบบ KD (Knock Down) อีก 5 แห่งนอกประเทศจีน นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังมีเครือข่ายศูนย์วิจัยและพัฒนาใน 10 แห่งใน 7 ประเทศทั่วโลก ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จและความสามารถในการผลิตยานยนต์ ที่ผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยีคุณภาพสูง การันตีด้วยยอดขาย 1.11 ล้านคันในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท”
เอลเลียต จาง ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย
ล่าสุด Great Wall Motors ประสบความสำเร็จในการพัฒนาแบตเตอรี่ที่ปราศจากโคบอลต์เป็นรายแรกของโลก จากการริเริ่มคิดค้นพัฒนาการผลิตแบตเตอรี่ปริซึมเคลือบลามิเนตความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องจนประสบความสำเร็จ โดยเปิดตัวแบตเตอรี่ที่ปราศจากโคบอลต์ NMX อย่างเป็นทางการในปี 2020 ที่ผ่านมา นับเป็นการตอกย้ำความเป็นเลิศด้านงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ควบคู่ไปกับความยึดมั่นของบริษัทในการคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและการพัฒนาระบบนิเวศของโลกอย่างยั่งยืน สำหรับประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน Great Wall Motors ได้เริ่มขยายธุรกิจตั้งแต่ในช่วงปีที่ผ่านมา รวมถึงการจัดตั้งโรงงานที่จังหวัดระยองให้เป็น “โรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory)” ที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยกับกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการเกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย
ด้าน ณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย เผยว่า “ปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับทุกธุรกิจ แต่ในความท้าทายนั้นยังมีโอกาสอีกมากมายที่จะเติบโต เราให้ความสำคัญกับการรับฟังเสียงของประชาชนชาวไทย เรามีการสำรวจความคิดเห็น เก็บข้อมูลความต้องการของผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด เพื่อออกแบบแผนการดำเนินธุรกิจรวมถึงรูปแบบการให้บริการที่ตอบโจทย์และตรงตามความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งเราจะดำเนินธุรกิจผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก" โดย 3 กลยุทธ์หลักประกอบไปด้วย 1) xEV Leader การเป็นผู้นำด้านรถพลังงานไฟฟ้า กับ Mission “9 in 3” ที่จะนำรถยนต์รุ่นต่างๆ เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยทั้งหมด 9 รุ่น ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยรถยนต์แทบทั้งหมดจะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่พร้อมสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้เมืองไทยด้วยเทคโนโลยีและสมรรถนะ สร้างนิยามใหม่ของความสนุกและคุ้มค่าในการขับขี่เพื่ออนาคต 2) Consumer Voice Focus การรับฟังเสียงของผู้บริโภค เราให้ความสำคัญเรื่องการรับฟังเสียงของผู้บริโภคชาวไทยมาตั้งแต่การเริ่มเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย อีกทั้งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้ผู้ผลิตสามารถรับฟังเสียงที่แท้จริงจากผู้บริโภคได้โดยตรงและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และใช้กลยุทธ์การรับฟังเสียงของลูกค้าเป็นหลักในการวางแผนธุรกิจ และนำมากำหนดแนวทางการทำการตลาดและการให้บริการ เพื่อนำไปพัฒนา ปรับปรุง และยกระดับการให้บริการในทุกมิติ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยให้ดีที่สุด 3) New User Experience การสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า โดยนำเสียงของผู้บริโภคและคำแนะนำต่างๆ มาทำ New User Experience Concept ผ่านขบวนการ Design Thinking เพื่อออกแบบประสบการณ์ใหม่ของผู้บริโภคที่จะเริ่มต้นตั้งแต่ การค้นหาข้อมูล การเปรียบเทียบรุ่นรถ การทดสอบรถ การเลือกซื้อรถ การขอสินเชื่อ การส่งมอบรถ การบริการ และการสร้างความสุขตลอดการเป็นเจ้าของรถผ่านกิจกรรมต่างๆ แบบ O2O (Online-To-Offline) และประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกในโลกที่จะนำ New User Experience นี้เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับผู้บริโภค โดย New User Experience ถูกสร้างบนความเชื่อ 3 ข้อ คือ 1) Best Choice: ลูกค้าต้องเป็นผู้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดได้ด้วยตัวเอง 2) Transparency: ลูกค้าต้องการการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่โปร่งใส ตรงไปตรงมา และ 3) Happiness & Loyalty : ลูกค้าจะต้องมีความสุขและประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ตลอดการเป็นเจ้าของ และพร้อมที่จะส่งมอบความสุขนี้ให้กับผู้อื่นด้วยการบอกต่อ อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของงานนี้ คือการเปิดตัวรถยนต์ที่จะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย โดยประเดิมด้วยรุ่นยอดนิยมที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากจากผู้บริโภคชาวไทยอย่าง All New HAVAL H6 จากแบรนด์รถเอสยูวี HAVAL และ ORA Good Cat จากแบรนด์รถไฟฟ้า ORA  และนอกเหนือจาก 2 รุ่นนี้แล้ว เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะมีการนำรถยนต์อีก 2 รุ่น จากทั้ง 2 แบรนด์ ให้แฟนๆ ชาวไทยได้สัมผัสและยลโฉมกันภายในปีนี้เช่นกัน ณรงค์ สีตลายน ยังได้กล่าวปิดท้ายด้วยการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่น จริงจัง และจริงใจ ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการนำเสนอ การส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดให้กับคนไทย รวมไปถึงความพร้อมในการเข้ามา สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างมีศักยภาพในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก (Global Mobility Technology Company)” เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งมั่นที่จะส่งมอบยานยนต์ และเทคโนโลยีอัจฉริยะ พร้อมประสบการณ์การขับขี่ เหนือระดับให้กับผู้บริโภคชาวไทย  และพร้อมที่จะช่วยผลักดันการสร้างอีโคซิสเต็มของรถยนต์ไฟฟ้าในไทย รวมไปถึงการพัฒนาทักษะ องค์ความรู้ และศักยภาพของบุคลากรไทย ควบคู่ไปกับการยกระดับอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจไทยให้ก้าวไกลและเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน อ่านเพิ่มเติม: “สยามเฮลท์ กรุ๊ป” งัดกลยุทธ์ชุดใหญ่ฝ่าวิกฤตโควิด

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine