บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย กลับมาพร้อมผลสำเร็จทางธุรกิจในกลุ่มลูกค้าองค์กร ในไตรมาสแรกของปี 2566 ผ่านกลยุทธ์การทำธุรกิจและบริการชั้นยอด ด้วยยอดการขายที่เติบโตขึ้นกว่า 11.9% ปีต่อปี และเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในหมู่ลูกค้าองค์กร
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนไปอยู่เสมอของลูกค้า บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จึงเดินหน้าส่งมอบผลิตภัณฑ์ตามปรัชญา "พลังแห่งทางเลือก" ที่นำเสนอยนตรกรรมและระบบขับเคลื่อนหลากหลายรูปแบบ ซึ่งรวมไปถึงรถยนต์สันดาปภายในและรถยนต์ไฟฟ้า
ปัจจุบัน บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ถึง 4 รุ่น ครอบคลุมยนตรกรรมพรีเมียมทุกเซกเมนต์ ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู iX3 บีเอ็มดับเบิลยู iX บีเอ็มดับเบิลยู i4 และบีเอ็มดับเบิลยู i7 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มองหายนตรกรรมพลังงานสะอาดเพื่อความยั่งยืน และสอดคล้องกับพันธกิจของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ในการขับเคลื่อนยนตรกรรมแห่งอนาคต ที่มุ่งเน้นความยั่งยืนและการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งต่อสุนทรีภาพแห่งการขับขี่ให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคน
อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “ในช่วงปีที่ผ่านมา เราได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของแนวทางการดำเนินธุรกิจที่หันมามุ่งเน้นการพัฒนาอนาคตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ในขณะที่หลังจากมีการเปิดประเทศและเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว
เรายังพบว่าลูกค้าในกลุ่มธุรกิจองค์กรของเราไม่ว่าจะเป็น สถานทูต โรงแรม หรือองค์กรต่างๆ ก็ให้ความสนใจและเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มลูกค้าองค์กรเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีสัดส่วนถึง 37% ในไตรมาสแรกของปี 2566 สูงกว่าปีก่อนหน้าที่มีสัดส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ 32%”
“บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จะยังคงมุ่งพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และนำเสนอที่สุดของ "พลังแห่งทางเลือก" ให้กับลูกค้าองค์กรต่อไป อย่างที่เห็นได้จากการเปิดตัวรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู i7 และ บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport ซึ่งเป็นรุ่นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% และปลั๊กอินไฮบริดในกลุ่ม Luxury Class ที่จะช่วยสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจให้กับลูกค้าองค์กรต่างๆ ตลอดจนแพ็คเกจและข้อเสนอสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้”
เสริมแกร่งทีมฝ่ายขายสำหรับลูกค้าองค์กร รุกขยายฐานลูกค้าพร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วยยนตรกรรมและบริการระดับพรีเมียม บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ยังได้เตรียมความพร้อมด้านบุคลากรเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าองค์กรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยทีมฝ่ายขายที่รับผิดชอบดูแลการวางกลยุทธ์การขาย แผนการตลาด จนถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์และข้อเสนอต่างๆ และการนำเสนอบริการสำหรับลูกค้าองค์กรทุกประเภท ได้แก่
เซอร์เกย์ กิดอน ผู้จัดการฝ่ายขายลูกค้าองค์กรและการขายพิเศษ รับผิดชอบด้านการพัฒนา วางกลยุทธ์ และการจัดการธุรกิจองค์กรโดยรวม ของลูกค้าองค์กรและการขายพิเศษ ซึ่งรวมไปถึงโปรแกรมการขายพิเศษสำหรับลูกค้าธุรกิจโรงแรม การวางแผนการตลาดสำหรับลูกค้าองค์กร และกลยุทธ์การขายของเครือข่ายผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการสำหรับลูกค้าองค์กร
วิชิต ตั้งวงศ์ชื่นสุข ผู้จัดการฝ่ายขายลูกค้าองค์กร รับผิดชอบด้านการประสานงานตรงกับกลุ่มลูกค้าหลัก สนับสนุนเครือข่ายผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการด้านการขายให้กับลูกค้าองค์กร รวมไปถึงการขายรถยนต์ฟลีท การขายระดับองค์กรผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายของบีเอ็มดับเบิลยู และการให้บริการลูกค้าองค์กร
ญาดานันท์ บุนนาค ฝ่ายขายลูกค้าองค์กรที่มีสถานะทางการทูตและการขายพิเศษ รับผิดชอบด้านการประสานงานตรงกับคณะทูต สถานเอกอัครราชทูต และองค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งรวมไปถึงการนำเสนอโซลูชันแก่ธุรกิจให้บริการรถลิมูซีนและลูกค้าธุรกิจโรงแรมระดับห้าดาว การดูแลลูกค้าที่มีสถานะทางการทูต รถประจำสถานทูต และองค์กรระหว่างประเทศ รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์และข้อเสนอทางการเงินแก่ธุรกิจให้บริการรถลิมูซีนและลูกค้าธุรกิจโรงแรมระดับห้าดาว
อ่านเพิ่มเติม: Sea ประกาศขึ้นเงินเดือน 5% หลังปีก่อนปลดพนักงานและลดต้นทุนกว่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐ
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine