TikTok เผยกลยุทธ์ครึ่งหลังปี 63 เน้นบันเทิง การศึกษา และ ข่าวสาร - Forbes Thailand

TikTok เผยกลยุทธ์ครึ่งหลังปี 63 เน้นบันเทิง การศึกษา และ ข่าวสาร

FORBES THAILAND / ADMIN
07 Aug 2020 | 06:34 PM
READ 3943
TikTok แพลตฟอร์มคอนเทนต์วิดีโอสั้นชั้นนำระดับโลก ต่อยอดความสำเร็จจากกลยุทธ์ Content Diversification หรือ การเพิ่มความหลายให้กับคอนเทนต์บนแพลตฟอร์ม เดินหน้าชู 3 กลยุทธ์คอนเทนต์ : ความบันเทิง การศึกษา และ ข่าวสาร เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมและความสนใจของผู้ใช้คนไทย พร้อมตอกย้ำภาพความเป็นผู้นำแพลตฟอร์มคอนเทนต์วิดีโอสั้นที่นำเสนอคอนเทนต์ที่หลากหลายตรงความต้องการของผู้ใช้ในทุกกลุ่มเป้าหมาย ปกรณ์ วัฒนเฉลิมวุฒิกร หัวหน้าฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ที่ผ่านมาTikTok ได้เดินหน้าขยายฐานผู้ใช้และครีเอเตอร์ในประเทศไทยผ่านการใช้กลยุทธ์ Content Diversification หรือ การเพิ่มความหลากหลายให้กับคอนเทนต์บนแพลตฟอร์ม ซึ่งนับเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้เราประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากกลยุทธ์นี้นอกจากจะช่วยสร้างความโดดเด่นและหลากหลายให้กับ UGC (User Generated Content) หรือ คอนเทนต์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ใช้บนแพลตฟอร์มยังมีส่วนช่วยทำให้ Ecosystem ของTikTok ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ใช้ ครีเอเตอร์หรือผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ รวมไปถึงแบรนด์ต่างๆ ที่มาทำการตลาดบนTikTok มีความสมบูรณ์และแข็งแรงในเวลาอันรวดเร็ว “จากกลยุทธ์ดังกล่าวจะเห็นได้ว่าติ๊กต๊อก ได้ผลักดันและสนับสนุนให้เกิดการนำเสนอคอนเทนต์ที่เป็นสาระ ความรู้ และข้อมูลที่มีประโยชน์ให้มีจำนวนมากขึ้นบนแพลตฟอร์ม ซึ่งนอกจากจะตอบโจทย์ความต้องการ ที่หลากหลายของผู้คนในทุกกลุ่มอายุและความสนใจ ยังเป็นการเปิดพื้นที่ให้กับครีเอเตอร์หน้าใหม่ที่มีความความถนัดเฉพาะทาง ได้โชว์ทักษะความสามารถทางความคิดสร้างสรรค์ ส่งผลให้มีครีเอเตอร์หน้าใหม่แจ้งเกิดเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากบนแพลตฟอร์มติ๊กต๊อก” ปกรณ์กล่าวเสริม
ปกรณ์ วัฒนเฉลิมวุฒิกร หัวหน้าฝ่ายการตลาด
ด้วยความสำเร็จในการเป็นผู้นำแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่มาแรงแห่งยุคที่ได้สร้างปรากฏการณ์มากมายในช่วงที่ผ่านมา ทั้งกระแสฮิตไวรัลดัง แคมเปญทอล์คออฟเดอะทาวน์ รวมถึงการปรากฏตัวของเหล่าเซเลบริตี้และศิลปินดาราชื่อดังบนแพลตฟอร์มของเรา ในช่วงที่ผ่านมาTikTok จึงมุ่งเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จไปอีกขั้นด้วยการชู 3 กลยุทธ์คอนเทนต์ที่จะเป็นแฟล็กชิพสำคัญในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ได้แก่ คอนเทนต์ความบันเทิง, การศึกษา และ ข่าวสาร ที่นอกจากจะมีเป้าหมายสำคัญ คือ การมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อมอบประสบการณ์แพลตฟอร์มที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้ของเรา โดยทั้ง 3 กลยุทธ์ คอนเทนต์มีความน่าสนใจ ดังต่อไปนี้
  • Entertainment: คอนเทนต์ความบันเทิง
สำหรับคอนเทนต์ความบันเทิงถือเป็นหนึ่งในคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทยมาตลอด โดยที่ผ่านมา โดยTikTok ได้ปล่อยฟีเจอร์สำคัญอย่าง Entertainment Anchor ที่จะช่วยให้ผู้คนบนแพลตฟอร์มสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ความบันเทิงต่างๆ ได้อย่างเจาะลึก แบบเอ็กซ์คลูซีฟ และล่าสุด กับปรากฎการณ์ความบันเทิงรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับความร่วมมือระหว่างTikTok และ สถานีโทรทัศน์ชื่อดังในเกาหลีใต้ TVN D ในการสร้างสรรค์ซีรีส์ “TRAP” ที่ได้สร้าง ปรากฏการณ์การฉายซีรีส์ทั้งทางโทรทัศน์และการปล่อยคลิปเอ็กซ์คลูซีฟที่ไม่ฉายบนช่องทางอื่นๆ เพื่อให้แฟนๆ ได้รู้ลึกถึงเบื้องหลังของตัวละคร รวมถึงการพูดคุยกับนักแสดงนำบนแพลตฟอร์มTikTok ได้อย่างใกล้ชิด
  • Education: คอนเทนต์การศึกษา
คอนเทนต์การศึกษาถือเป็นหนึ่งในคอนเทนต์ที่สร้างความโดดเด่นให้กับแพลตฟอร์มในช่วงที่ผ่านมา ภายหลังการเปิดตัวแคมเปญ #TikTokUni ก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยม ไม่เพียงแต่กับกลุ่มผู้ใช้แพลตฟอร์มแต่ยังรวมถึงการแจ้งเกิดให้กับครีเอเตอร์ สายการศึกษามากมาย จนสามารถสร้างยอดวิวรวมได้สูงถึง 4.1 พันล้านวิว ภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของTikTok ที่สามารถต่อยอดพื้นที่สำหรับความคิดสร้างสรรค์ให้กลายเป็นพื้นที่แห่งสาระความรู้ที่ได้รับการนำเสนอในรูปแบบใหม่ที่น่าสนใจ สนุก น่าติดตาม จนเกิดเป็นศูนย์รวมวิชาน่ารู้ผ่านแฮชแท็คมากมาย อาทิ #เก่งภาษากับTikTok, #วิทย์ที่คุณไม่รู้, #สังคมต้องรู้, #ประวัติศาสตร์คลายสงสัย, #การตลาดวันละคลิป เป็นต้น
  • News: คอนเทนต์ข่าวสาร
คอนเทนต์ข่าวสารเป็นอีกหนึ่งคอนเทนต์ที่กำลังมาแรงมากบนแพลตฟอร์มTikTok และตอบโจทย์ คนยุคใหม่ที่ต้องการติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ประจำวันผ่านทาง #ข่าวTikTok  ซึ่งล่าสุดมียอดวิวสูงถึง 896 ล้านวิว โดยที่ผ่านมามีสื่อชั้นนำระดับโลกและในประเทศไทย ได้เข้ามาเปิดแอคเคาท์บนTikTok เพื่อใช้เป็นช่องทางในการนำเสนอข่าวสารในรูปแบบคอนเทนต์วิดีโอสั้นที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยู่บนดิจิทัลและการนำเสนอข้อมูลข่าวสารพัฒนาไปในรูปแบบที่สั้น กระชับ เข้าใจง่าย ผ่าน #ข่าวTikTok ทั้งหมดนี้ คือ 3 กลยุทธ์คอนเทนต์ที่จะมีบทบาทสำคัญในการยกระดับประสบการณ์ของTikTok จากแพลตฟอร์มแห่งความสร้างสรรค์และความสนุกสู่แพลตฟอร์มที่มอบสาระความรู้คู่ความบันเทิงให้กับผู้ใช้คนไทย อีกทั้งยังเป็นพื้นที่สร้างโอกาสให้กับครีเอเตอร์หน้าใหม่สามารถแจ้งเกิดบน TikTok ได้อย่างไร้ข้อจำกัด อ่านเพิ่มเติม: 4 หลักคิดสร้างสมดุลระหว่าง ข้อมูลส่วนบุคคล กับ การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine