Raynald Aeschlimann หัวเรือใหญ่คนใหม่แห่ง Omega - Forbes Thailand

Raynald Aeschlimann หัวเรือใหญ่คนใหม่แห่ง Omega

มนต์เสน่ห์ของนาฬิกาหรูไม่เพียงเปี่ยมด้วยคุณภาพและการสรรค์สร้างที่ประณีต ทว่า ยังร้อยรัดความเป็นมาอันยาวนานเข้าไว้ด้วยกันอย่างแนบชิด เฉกเช่น Omega แบรนด์นาฬิกาสายเลือดสวิสที่ปรากฏโฉมในแวดวงเรือนเวลาชั้นสูงมากว่าร้อยปี เป็นที่ชื่นชอบของบุคคลสำคัญระดับโลกอย่าง John F. Kennedy ซึ่งสวมใส่ Omega UltraThin ในพิธีเฉลิมฉลองการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา หรือแม้แต่ Prince William แห่งราชวงศ์อังกฤษ ก็ทรงมี Omega Seamaster เป็นเรือนเวลาที่พระองค์ทรงโปรด

ท่ามกลางสายธารธุรกิจอันเชี่ยวกราก Raynald Aeschlimann วัย 46 ปี ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง President & CEO คนใหม่ของ Omega เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาพร้อมให้สัมภาษณ์ Forbes Thailand หลังนั่งเก้าอี้เบอร์หนึ่งขององค์กรได้ 6 เดือน Forbes Thailand: ทิศทางของ Omega จะเป็นอย่างไรในอนาคต ภายใต้การนำของคุณ Aeschlimann: ผมให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกัน หน้าที่ของผมคือสนับสนุนให้ช่างทำนาฬิกาได้ผลิตนาฬิกาที่ดีที่สุด ปีหน้าและปีถัดๆ ไป คงไม่ใช่ปีที่จะผ่านไปได้ง่ายนัก แต่ผมก็พร้อมจะเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ เสมอ Forbes Thailand: สภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมาส่งผลกระทบกับแบรนด์หรือไม่ Aeschlimann: เป็นธรรมชาติของทุกธุรกิจที่ต้องมีขึ้นมีลงสิ่งสำคัญคือการมุ่งตรงไปยังเป้าหมายเท่านั้นการที่เรามีอัตราการเติบโตที่ดีหลายปีเป็นเรื่องเยี่ยมยอดมากครับ Forbes Thailand: ช่วงเวลาเช่นนี้ นาฬิกาหรูยังดึงดูดลูกค้าได้มากน้อยเพียงไร Aeschlimann: ธุรกิจนาฬิกาหรูมีการทำตลาดอย่างน่าทึ่งแต่ถึงที่สุดแล้วผมไม่เชื่อว่าในระยะยาว ลูกค้าจะชื่นชอบผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการทำตลาดอย่างหนัก สำหรับผมแล้ว Omega มีมรดกอันล้ำค่าด้านการผลิตนาฬิกาที่มีคุณภาพและนี่แหละคือสิ่งที่ทำให้ลูกค้ายังคงเชื่อมั่นในแบรนด์ของเรา Forbes Thailand: สัดส่วนการจำหน่าย Omega ในแต่ละทวีปเป็นอย่างไร Aeschlimann: ค่อนข้างตอบยากทีเดียว เพราะลูกค้าชาวเอเชียจำนวนมากท่องเที่ยวและซื้อ Omega ในต่างประเทศ แต่ถ้าให้ประมาณแล้ว สัดส่วนการจำหน่ายในเอเชียมีกว่า 50% ซึ่งรุ่น Constellation จะเป็นที่นิยมในกลุ่มลูกค้าเอเชียเพราะมีความสวยงาม ขณะที่ลูกค้ายุโรปจะชื่นชอบรุ่น Speedmaster และ Seamasterหรือรุ่นที่ดูแข็งแรงทนทาน สำหรับจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่เรายังรักษาตำแหน่งผู้นำอันดับต้นๆ ไว้ได้ ส่วนประเทศไทยก็ไปได้ดี กลยุทธ์ของเราไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็คือตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด แต่ก็ต้องรักษาคุณค่าซึ่งเป็นแก่นหลักของแบรนด์เอาไว้ Forbes Thailand: จุดเด่นของ Omega ที่ทำให้ยังคงครองใจนักสะสมนาฬิกามาตลอดคืออะไร Aeschlimann: ผมคิดว่าเป็นเพราะเรานำประวัติศาสตร์อันน่าตื่นตาตื่นใจพร้อมด้วยนวัตกรรมออกสู่ตลาด Buzz Aldrin สวมใส่ Omega ขณะเดินบนดวงจันทร์ในปี 1969 เราเป็นแบรนด์ที่นักบินอวกาศหลายคนของ NASA ไว้วางใจทำให้ Omega มีชื่อโดดเด่นด้านการท่องอวกาศ เรายังเป็นผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ดังนั้นคุณภาพจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ Omega ยังได้รับความนิยมจากผู้ชื่นชอบนาฬิกาอยู่ครับ Forbes Thailand: Omega รุ่นใดที่ได้รับความนิยมตลอดกาลและคุณชื่นชอบรุ่นใดมากที่สุด Aeschlimann: แน่นอนว่าต้องเป็นรุ่นSpeedmaster เรามีฐานลูกค้าของรุ่นนี้ที่แข็งแกร่งมากๆ และสำหรับตัวผมแล้ว ผมชอบรุ่นSeamaster Planet Ocean “Deep Black” ตัวเรือนเซรามิคสีดำครับ  
ติดตามเรื่องราวและบทความทางด้านธุรกิจ ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2559