เถ้าแก่น้อย รุกสตรีทฟู้ดเกาหลีขายแฟรนไชส์ Bomber Dog - Forbes Thailand

เถ้าแก่น้อย รุกสตรีทฟู้ดเกาหลีขายแฟรนไชส์ Bomber Dog

TKN ปั้นแบรนด์สตรีทฟู้ดเกาหลี เตรียมเปิดขายแฟรนไชส์ Bomber Dog อาหารทานเล่นสไตล์เกาหลี รุกขยายเข้าสู่ปั้มน้ำมัน เน้นเข้าถึงง่ายสำหรับกลุ่มผู้บริโภคทุกกลุ่ม ตั้งเป้าเดินหน้าขยาย 45 สาขาภายในปีนี้ หนุนยอดขายจากธุรกิจร้านอาหารเพิ่ม 100%

 

อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า “เถ้าแก่น้อย” รวมถึงขนมขบเคี้ยว และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทเตรียมผลักดัน บริษัท เถ้าแก่น้อย เรสเตอรองท์ แอนด์ แฟรนไชส์ จำกัด หรือ TKNRF ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของ TKN ที่ดำเนินธุรกิจร้านจำหน่ายสินค้า และร้านอาหารประเภท Quick Service Restaurant นอกจากนั้น บริษัทยังวางเป้าหมายเดินหน้าขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ร้านอาหาร บอมเบอร์ด๊อก (Bomber Dog) ซึ่งเป็นร้านสตรีทฟู้ดเกาหลีในรูปแบบเมนูทานเล่น เช่น คอร์นดอก, ฮอทดอก ต็อกโบกี เฟรนช์ฟรายส์ ไก่ป๊อบ ไก่ทอดเกาหลี ด้วยจุดเด่นด้านรสชาติที่อร่อยเหมือนต้นตำรับ ถือเป็นอาหารที่เข้าถึงง่ายสำหรับลูกค้าทุกกลุ่มและตอบโจทย์คนเมืองที่เร่งรีบระหว่างเดินทาง เน้นทานง่าย สะดวก และรวดเร็ว “TKNRF ได้ทดลองเปิดตัวแบรนด์ดังกล่าวมากว่า 1 ปี เพื่อศึกษาและทดลองทำตลาด ปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี จึงได้ต่อยอดการขยายสาขาผ่านรูปแบบแฟรนไชส์ เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่สนใจเข้าลงทุนเปิดร้านสาขา รวมถึงบริษัทฯ จะลงทุนขยายสาขาเอง ที่มุ่งเน้นทำเลสถานีบริการน้ำมันของ ปตท. และแบรนด์อื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าและยังใช้เป็นจุดกระจายสินค้าผ่านแฟลตฟอร์ม Home Delivery อีกด้วย” อิทธิพัทธ์กล่าวถึงการศึกษาและทดลองวางกลยุทธ์ รูปแบบร้านอาหารและเมนูต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่มาของแฟรนไชส์อาหารสตรีทฟู้ดเกาหลี โดยรูปแบบการทานอาหารสตรีทฟู้ด (Street Food) หรือร้านอาหารริมทาง เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการทานอาหารที่สามารถพบได้ในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศแถบเอเชีย ถือเป็นจุดเด่นที่ผู้บริโภคท้องถิ่นรวมถึงนักท่องเที่ยวให้ความนิยมเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ทำให้บริษัทมีการปรับกลยุทธ์ มองหาช่องทางการขายสินค้าสอดรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยบริษัทได้มุ่งขยายสาขาที่ตั้งอยู่นอกห้างสรรพสินค้า เป็นจุดจำหน่ายและทำ Cloud Kitchen มุ่งเน้นทำเลพื้นที่ในสถานีบริการน้ำมัน (ปั๊มน้ำมัน) ซึ่งเป็นทำเลยุทธศาสตร์ในการขยายธุรกิจนอกห้าง และลดความเสี่ยงจากมาตรการล็อกดาวน์ของภาครัฐ ขณะที่บริษัทได้เปิดให้สิทธิลงทุนแฟรนไชส์ Bomber Dog สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนด้านธุรกิจอาหารโดยไม่จำเป็นต้องทำอาหารเป็นมาก่อน ซึ่งมืทั้งในรูปแบบรถเข็นและตั้งบนพื้นที่ขนาดประมาณ 2.5x2.5 เมตร โดยมีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำแนะนำการเริ่มต้นธุรกิจ และวางแผนจับมือกับสถาบันการเงินสนับสนุนสินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพ ซึ่งคาดการณ์เวลาคืนทุนภายในเวลา 6-8 เดือน นอกจากนั้น TKNRF วางเป้าหมายขยายแฟรนไชส์ในช่วงที่เหลือของปี 2564 จำนวน 45 สาขา หรือเฉลี่ยเปิด 8-10 สาขาต่อเดือน และคาดการณ์เปิดอีก 100 สาขาในปี 2565 จากปัจจุบันที่มีสาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ปั๊มน้ำมัน และ Cloud Kitchen แล้วทั้งสิ้น 18 สาขา และเตรียมเปิดในเดือนกันยายนนี้อีก 8 สาข โดยเน้นเปิดในพื้นที่ขนาดเล็กในทำเลที่มีศักยภาพ ทั้งโมเดลรถเข็น ปั้มน้ำมัน และคอมมูนิตี้มอลล์ เป็นต้น รวมถึงเพิ่มช่องทางสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชันสั่งอาหาร เช่น LINE MAN, Grab, Food panda เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัลที่ต้องการความรวดเร็วและความสะดวกสบาย ซึ่งบริษัทคาดการณ์ยอดขายสามารถเติบโตในธุรกิจดังกล่าวมากกว่า 100% ภายในปีนี้ อ่านเพิ่มเติม: ล้มแล้วลุกขึ้นวิ่งได้ด้วย “Resilience”
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine