NITMX ผู้พัฒนาและให้บริการระบบชำระเงินแบบพร้อมเพย์ (PromptPay) เผยข้อมูลปี 2565 ผู้บริโภคมีการโอนเงินและใช้จ่ายผ่านระบบสูงถึง 13,705 ล้านรายการ โดยวันที่ 1 ธันวาคม คือวันที่มีสถิติการทำธุรกรรมสูงสุดเป็นประวัติการณ์จำนวน 58.08 ล้านรายการ หลังจากเปิดให้บริการมา 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2560
บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด หรือ NITMX ผู้พัฒนาและให้บริการระบบการชำระเงินและการโอนเงินระหว่างธนาคารของประเทศไทย เชื่อมโยงระบบการชำระเงินกับต่างประเทศ ได้เปิดเผยภาพรวมการใช้งานผ่านระบบพร้อมเพย์ (PromptPay) ที่เปิดให้บริการมา 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2560 ถือเป็นนวัตกรรมที่ทำให้การชำระเงินและโอนเงินสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ถึงมือผู้รับโดยตรง โปร่งใส และไม่มีค่าธรรมเนียม
จากข้อมูลสถิติล่าสุด ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 มีจำนวนบุคคลธรรมดาลงทะเบียนพร้อมเพย์อยู่ที่ 66.94 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็นการลงทะเบียนด้วยหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 39.47 ล้านเลขหมาย และลงทะเบียนด้วยหมายเลขโทรศัพทร์ 27.47 ล้านเลขหมาย ขณะที่นิติบุคคลมีการลงทะเบียนพร้อมเพย์จำนวน 2.43 แสนราย
โดยในเดือนธันวาคม 2565 มีปริมาณการทำธุรกรรมชำระเงินระหว่างธนาคารผ่านระบบพร้อมเพย์ทั้งสิ้น 1,475.9 ล้านรายการ ถือเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น 34.66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนธันวาคมปี 2564 ซึ่งวันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม 2565 คือวันที่มีการทำธุรกรรมสูงถึง 58.08 ล้านรายการ และยังเป็นสถิติสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ระบบมีการเปิดให้ใช้บริการในปี 2560 และหากสรุปยอดการทำธุรกรรมโอนเงินและชำระเงินผ่านพร้อมเพย์ตลอดทั้งปี 2565 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 13,705 ล้านรายการ
ด้านพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมใช้พร้อมเพย์ทำธุรกรรมต่างๆ ได้แก่ อันดับ 1 โอนเงินด้วยหมายเลขบัญชีธนาคาร จำนวน 68.8% อันดับ 2 โอนเงินด้วยหมายเลขอ้างอิง จำนวน 16.3% อันดับ 3 การชำระสินค้าด้วย QR Code และใบแจ้งหนี้ จำนวน 9.3% และอันดับ 4 การเติมเงิน e-Wallet 5.7% โดยช่วงเวลาที่ประชาชนนิยมโอนเงินมากที่สุด คือ ช่วงเวลาพักเที่ยงและหลังเลิกงาน ซึ่งวันทำงานจะมีการใช้งานมากกว่าวันหยุดและวันหยุดนักขัตฤกษ์ อีกทั้งในช่วงสิ้นเดือนจะมีการทำธุรกรรมมากกว่าปกติ
ทั้งนี้ จากสถิติจะเห็นได้ว่าปริมาณการใช้งานพร้อมเพย์ยังคงมีอัตราการเติบโตและทำสถิติใหม่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้พร้อมเพย์ก้าวไปสู่ความสำเร็จ ได้แก่ 1.การกำหนดให้เป็นโครงการระดับประเทศที่ภาครัฐและภาคเอกชนร่วมกันผลักดันกระตุ้นให้เกิดการใช้ digital payments อย่างรวดเร็วและแพร่หลาย 2. การวางโครงสร้างพื้นฐานของระบบที่เปิดกว้างและสามารถเชื่อมโยงกับระบบต่างๆ ได้ 3. ความร่วมมือของผู้ให้บริการระบบและบริการชำระเงินในการพัฒนาระบบพร้อมเพย์ 4. การออกแบบบริการและนวัตกรรมต่อยอดต่างๆ ที่คำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้งาน 5. โครงสร้างค่าธรรมเนียมที่เหมาะสมทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้สะดวก และ 6. การให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงและคุ้มครองผู้บริโภคของผู้ให้บริการ
โดยอีกหนึ่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของพร้อมเพย์ คือ การส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีให้กับคนไทย ตอบรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างสะดวก ปลอดภัย โอนเงิน ชำระเงิน จ่ายบิลต่างๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา
ซึ่งในอนาตต NITMX ยังคงมุ่งมั่น พัฒนา ต่อยอดเพื่อเชื่อมโยงระบบการชำระเงินต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การโอนเงิน จ่ายเงิน เป็นเรื่องง่าย รวดเร็ว ปลอดภัย ด้วยต้นทุนที่เหมาะสม เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้ digital payments อย่างแพร่หลายและต่อเนื่องรองรับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป
อ่านเพิ่มเติม:
- โรงพยาบาลธนบุรี 1 เสริมแกร่งด้านเทคโนโลยี นำหุ่นยนต์ในการรักษา ตอกย้ำความเชื่อมั่นผู้ใช้บริการ มุ่งสู่การรักษาที่แม่นยำ (Precision Medicine)
- SCB WEALTH ครองใจลูกค้ามั่งคั่ง คัดสรรผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine