วันที่ 28 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา โซนี่ กรุ๊ป ได้ประกาศว่าบริษัทได้เริ่มดำเนินการโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์แห่งใหม่ในประเทศไทยแล้ว เพื่อเพิ่มการผลิตเซ็นเซอร์รับภาพในยานยนต์เพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นโปรดักต์ที่กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก
โดยบริษัทลงทุนประมาณ 1 หมื่นล้านเยน (66 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่บนพื้นที่ของโรงงานที่มีอยู่แล้วในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งอันที่จริงแล้วโรงงานที่นี่เป็นศูนย์กลางการผลิตเกี่ยวกับอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ภายในธุรกิจ Imaging & Sensing Solutions ของ Sony
โรงงานแห่งใหม่นี้ใช้ชื่อว่า “อาคาร 4” ซึ่งบริษัทวางเป้าว่าจะขยายกำลังการผลิตจากอาคาร 4 ให้สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาดในอนาคต โดยคาดว่าหลังจากขยายการผลิตในปี 2569 จะเกิดการสร้างงานใหม่ 2,000 ตำแหน่ง โดย 20% จะเป็นวิศวกร
Terushi Shimizu ประธานและซีอีโอของ Sony Semiconductor Solutions กล่าวในพิธีเปิดว่า “เราคาดการณ์การเติบโตระยะกลางถึงระยะยาว และจะผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีการแข่งขันสูง เช่น เซ็นเซอร์รับภาพสำหรับยานพาหนะ”
อย่างที่กล่าวไปตอนต้น โรงงานแห่งนี้มีหน้าที่หลักในการผลิตเซ็นเซอร์ภาพขั้นสูงสำหรับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ที่สามารถตรวจจับคนเดินถนนและสิ่งกีดขวางบนถนนได้
Sony ระบุว่าความก้าวหน้าในการขับขี่อัตโนมัติ จะเป็นปัจัยหนุนความต้องการเซ็นเซอร์ภาพประสิทธิภาพสูง โดยบริษัทตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาด 39% ภายในปีงบประมาณ 2568 เพิ่มขึ้น 14% จากระดับปัจจุบัน
นอกจากนี้ โรงงานแห่งนี้จะผลิตเลเซอร์ไดโอดชนิดใหม่สำหรับใช้ในฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ความจุสูง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ดึงดูดความสนใจสำหรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูล โดยไดโอดเหล่านี้จะถูกส่งไปยังบริษัทจัดเก็บข้อมูลของสหรัฐฯ อย่าง Seagate Technology
ทั้งนี้ คาดว่าต้นทุนแรงงานในประเทศไทยจะสูงขึ้น หลังรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เพิ่งประกาศแผนขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
แต่แม้จะพิจารณาถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำแล้ว “ยังมีผลประโยชน์ด้านต้นทุนที่สำคัญ รวมถึงค่าแรงด้วย” Takeshi Matsuda กรรมการผู้จัดการบริษัท โซนี่ ดีไวซ์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลด้านการผลิตในไทยกล่าว “เราจะทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยในไทยและพันธมิตรอื่นๆ เพื่อรับสมัครวิศวกร”
ที่มา:
- New Fab Expansion at Sony Device Technology (Thailand) Co., Ltd.
- Sony opens $66m Thailand fab for driver-assist image sensors
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : บุกไทยอย่างเป็นทางการ! TADA แอปเรียกรถจากสิงคโปร์ ชูจุดเด่น ‘ไม่มีค่าคอมมิชชั่น’
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine
