“Mobike” บริษัทผู้ให้บริการเช่าจักรยานอัจฉริยะก่อตั้งในประเทศจีนเมื่อ 2 ปีก่อน แต่สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดในเวลาไม่นานและกลายเป็นบริษัทให้เช่าจักรยานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวนการใช้งาน 25 ล้านเที่ยวต่อวัน ในพื้นที่บริการกว่า 160 เมืองใน 5 ประเทศ
Joe Xia ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยี
บริษัท Mobike (โมไบค์) กล่าวว่า Mobike เป็นสตาร์ทอัพที่เพิ่งก่อตั้งในปี 2558 จากความต้องการแก้ปัญหา ‘กิโลเมตรสุดท้าย’ ในการเดินทางของคนจากสถานีขนส่งมวลชนต่างๆ ไปสู่จุดหมายปลายทาง จึงพัฒนาเป็นแอพพลิเคชันยืม-คืนจักรยานสาธารณะ
วิธีการทำงานของ Mobike คือการดาวน์โหลดแอพพลิเคชันและลงทะเบียนสมัครสมาชิก จากนั้นนำแอพฯ ไปสแกน QR code ที่ติดบนตัวจักรยานของ Mobike เพื่อปลดล็อก และสามารถขับขี่จักรยานออกไปใช้ภายในพื้นที่ที่กำหนด เมื่อถึงจุดหมายสามารถจอดไว้ในที่จอดรถจักรยานสาธารณะใดก็ได้และล็อกจักรยาน ด้านค่าใช้จ่ายการเช่าจักรยานจะถูกหักอัตโนมัติจากบัญชีกระเป๋าเงินออนไลน์หรือบัตรเครดิต/เดบิต
Xia กล่าวว่า
ประเด็นสำคัญที่ทำให้ Mobike ดำเนินธุรกิจได้คือการลงมือพัฒนาตัวจักรยานด้วยตนเองของบริษัท เพื่อกำจัดปัญหาการเสื่อมของจักรยานให้เช่า บริษัทจึงออกแบบจักรยานให้มีความทนทานสามารถใช้ได้นาน 4 ปีโดยไม่ต้องบำรุงรักษา เช่น ไม่มีโซ่ แก้ปัญหาโซ่หลุด, ยางแบบพิเศษไม่ต้องสูบลม, ใช้วัสดุทำจากอะลูมิเนียมเพื่อป้องกันสนิม ฯลฯ
และยังเป็นจักรยานอัจฉริยะ ใช้เทคโนโลยี IoT (Internet of Things) ในการสื่อสารเพื่อยืม-คืนได้จากทุกที่, ระบบล็อกอัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นเอง, การปั่นของผู้ใช้จะสร้างกระแสไฟฟ้าเก็บไว้ในเครื่องเพื่อใช้กับระบบ IoT และไฟหน้าจักรยาน, ติดตั้งระบบ GPS สามารถติดตามที่อยู่ของจักรยานได้เพื่อป้องกันการขโมย เหล่านี้เป็นฟังก์ชันการพัฒนาของจักรยาน Mobike ที่ทำให้ระบบแบ่งปันการใช้จักรยานร่วมกัน (bike-sharing system) เกิดขึ้นได้
ปัจจุบัน Mobike มีจักรยานให้บริการ 7 ล้านคัน ผู้ใช้ลงทะเบียนกว่า 100 ล้านบัญชี และมีการใช้งานเฉลี่ย 25 ล้านครั้ง/วัน ให้บริการแล้วใน 5 ประเทศ คือ จีน, สิงคโปร์, อังกฤษ, อิตาลี และญี่ปุ่น จำนวนรวมกว่า 160 เมือง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน สำหรับเมืองในต่างประเทศที่เข้าไปลงทุน ได้แก่ Singapore, Manchester, Florence, Milan และ Sapporo
และขณะนี้ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่ 6 ที่เข้ามาลงทุน Xia กล่าวว่า บริษัทมีการพูดคุยกับพันธมิตรในประเทศไทยคือ เอไอเอส, เซ็นทรัลพัฒนา และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาแล้วระยะหนึ่ง เพื่อเริ่มต้นให้บริการ Mobike ในไทย
โดยเซ็นทรัลพัฒนาและม.เกษตรฯ จะให้พื้นที่เพื่อตั้งจุดจอดจักรยาน ส่วนเอไอเอสคือผู้สนับสนุนโครงข่าย NB-IoT ให้กับระบบ Mobike
“ด้านการขยายไปในส่วนอื่นของเมือง เรากำลังพูดคุยกับหน่วยงานรัฐของไทยเพื่อทำบันทึกความเข้าใจร่วมกัน ประเด็นที่ต้องมีการทำความเข้าใจ เช่น ความปลอดภัย การกำกับควบคุมทางกฎหมาย แต่เชื่อว่าประเทศไทยมีการประกาศนโยบายไทยแลนด์ 4.0 สนับสนุนเรื่องเทคโนโลยี รัฐบาลไทยจึงน่าจะให้การสนับสนุน
ภายใน 1 ปีจากนี้น่าจะได้เห็นโมเดลธุรกิจที่ชัดเจนขึ้นของ Mobike ไทย ขณะนี้อยู่ในช่วงทำความเข้าใจเพราะกฎหมายของแต่ละประเทศแต่ละเมืองแตกต่างกัน” Xia กล่าว
ด้าน
สุวิทย์ อารยะวิไลพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานบริหารผลิตภัณฑ์
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า ความร่วมมือระหว่างเอไอเอสกับ Mobike ถือเป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการสนับสนุนระบบเศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing Economy)
โดยเอไอเอสมีเทคโนโลยี
NB-IoT (Narrow band Internet of Things) เป็นระบบอินเทอร์เน็ตสำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT โดยเฉพาะซึ่งอยู่ระหว่างทดลองการใช้งาน การมาของ Mobike จะทำให้เอไอเอสมีโครงการเพื่อการขยายเครือข่าย NB-IoT ได้อย่างเหมาะสม ถือเป็นก้าวแรกจากการทำงานเชิงคอนเซปท์ไปสู่การใช้งานจริง นอกจากนี้ เอไอเอสยังสนับสนุนระบบ
mPay ในการชำระเงินของ Mobike อีกด้วย
ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในฐานะบริษัทเอกชนต้องการสนับสนุน Mobike ซึ่งมีแนวคิดเพื่อความยั่งยืน โดยจะให้พื้นที่ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ เป็นจุดจอดจักรยาน Mobike ประมาณ 20 คัน และหากได้รับความนิยมก็พร้อมจะขยายไปยังสาขาอื่นๆ ของเซ็นทรัล
“ทั้งนี้อยากฝากไปถึงหน่วยงานรัฐ เช่น กรุงเทพมหานคร ด้วยว่า ประเทศไทยควรจะให้ความสำคัญกับทางจักรยานให้มากขึ้นและใช้ได้จริง” ณัฐกิตติ์กล่าว
ปิดท้ายที่
จงรัก วัชรินทร์รัตน์ ผู้รักษาการแทนอธิการบดี
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ม.เกษตรฯ เป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวที่มีการใช้งานจักรยานอยู่แล้วแม้จะน้อยลงในระยะหลัง ฝ่ายบริหารมีการจัดจุดเช่าจักรยานให้นิสิตใช้งานแต่พบปัญหาการซ่อมแซมที่ค่อนข้างมากและยังต้องใช้คนในการดูแลการยืม-คืน ดังนั้นการมาของ Mobike น่าจะตอบโจทย์นิสิตมหาวิทยาลัย และยังเป็นแรงบันดาลใจให้นิสิตเล็งเห็นหนทางการทำธุรกิจสตาร์ทอัพเทคโนโลยีว่ามีความเป็นไปได้จริง เบื้องต้นคาดว่าจะสนับสนุนพื้นที่จอดจักรยานได้ประมาณ 360 คัน
Forbes in Details
- ข้อมูลจากสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่าปัจจุบัน Mobike ได้รับเงินระดมทุนรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเฉพาะเงินลงทุนก้อนใหญ่จากบริษัท Tencent ของจีนมูลค่ากว่า 600 ล้านเหรียญที่ได้รับเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นอกจาก Tencent แล้ว บริษัทอื่นๆ ที่ร่วมลงทุนกับ Mobike อาทิ Sequoia Capital, TPG, Hillhouse Capital เป็นต้น
- แอพพลิเคชั่น Mobike สามารถดาวน์โหลดได้ทันที แต่คาดว่าอุปกรณ์จักรยานน่าจะพร้อมใช้งานจริงในเดือนพฤศจิกายน
- Mobike จะเปิดให้ใช้บริการฟรี 2 เดือน ก่อนเริ่มต้นคิดค่าบริการ 10 บาท/30 นาที
- Xia กล่าวว่า ปี 2560 นี้บริษัทตั้งเป้าเปิดบริการให้ได้ 200 เมือง และมีความเป็นไปได้ที่จะขยายไปยังประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้