Equinix บริษัทสหรัฐฯ ประกาศลงทุน 500 ล้านเหรียญ สร้าง ‘ดาต้าเซ็นเตอร์’ ในไทย - Forbes Thailand

Equinix บริษัทสหรัฐฯ ประกาศลงทุน 500 ล้านเหรียญ สร้าง ‘ดาต้าเซ็นเตอร์’ ในไทย

FORBES THAILAND / ADMIN
29 Oct 2024 | 11:10 AM
READ 514

ไทยเนื้อหอมอีกแล้ว! Equinix บริษัทสหรัฐฯ ประกาศลงทุน 500 ล้านเหรียญ หรือราว 16,500 ล้านบาท สร้าง ‘ดาต้าเซ็นเตอร์’ ในไทยในระยะ 10 ปี


    Equinix ระบุว่า เนื่องด้วยความใกล้ชิดของประเทศไทยกับประเทศในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ประกอบกับนโยบาย Cloud-First เชิงรุกของรัฐบาลไทย ก่อให้เกิดความต้องการในการเชื่อมโยงทางดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน

    เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากองค์กรธุรกิจและผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำ ในวันนี้ Equinix, Inc. (Nasdaq: EQIX) บริษัทโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลระดับโลก จึงประกาศแผนการลงทุนด้วยงบลงทุนกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐในประเทศไทย ซึ่งจะดำเนินการเป็นระยะในช่วง 10 ปีข้างหน้า ซึ่งรวมถึงการซื้อที่ดินมูลค่าประมาณ 34 ล้านเหรียญสหรัฐในกรุงเทพฯ ในช่วงที่ผ่านมา

    การขยายตัวในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญของ Equinix ในการพัฒนาขีดความสามารถทางดิจิทัลในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้บริการดิจิทัลที่มีความหน่วงต่ำและสามารถเชื่อถือได้ ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสทางดิจิทัลในภูมิภาคนี้ได้อย่างเต็มที่

    ทั้งนี้ ด้วยอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยที่สูงถึง 85% และความต้องการด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล แสดงถึงความพร้อมของประเทศในการพัฒนาขีดความสามารถและศักยภาพของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล นอกจากนี้ตลาดศูนย์ข้อมูล คาดว่าจะเติบโตที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (Compound Annual Growth Rate; CAGR) 13%

    ด้วยการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากโครงการ Thailand 4.0 และนโยบาย Cloud-First จึงเป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในประเทศ ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่หลายรายได้เริ่มเข้าตั้งรากฐานในประเทศไทยและยังคงมุ่งมั่นขยายการดำเนินงานในประเทศอย่างต่อเนื่อง

    การลงทุนของ Equinix ในครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวหนึ่งในกลยุทธ์การขยายตัวในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตระยะยาวของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในประเทศไทยและประเทศในกลุ่ม CLMV

    สำหรับที่ดินแห่งใหม่ในย่านบางนา กรุงเทพมหานคร ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว่า 18,700 ตารางเมตร ตั้งอยู่ใกล้กับระบบนิเวศการเชื่อมต่อในกรุงเทพฯ ที่มีอยู่เดิม โดยพื้นที่นี้จะถูกพัฒนาเพื่อใช้ในการสร้างศูนย์ข้อมูล Equinix International Business ExchangeTM (IBX®) จำนวน 2 แห่ง ซึ่งสามารถรองรับตู้เก็บข้อมูลได้มากกว่า 3,375 ตู้เมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์

    นอกจากนี้ทำเลที่ตั้งยังมีความโดดเด่นเนื่องจากอยู่ใกล้เส้นทางคมนาคมหลักที่เชื่อมต่อระหว่างสนามบินและใจกลางเมือง อีกทั้งยังเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะและแหล่งพลังงานที่มั่นคง ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการรองรับการเติบโตและโอกาสในการเชื่อมต่อในกรุงเทพฯ

    นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา เราเห็นกระแสการลงทุนในไทยของบริษัทยักษ์ใหญ่ในกิจการ Data Center ระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการ Data Center และ Cloud Service รวม 47 โครงการ มูลค่าลงทุนกว่า 173,000 ล้านบาท

    ล่าสุดบริษัท Equinix ผู้ให้บริการ Data Center แบบ Colocation อันดับ 1 ของโลก จากประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันมี Data Center ให้บริการมากกว่า 260 แห่ง ใน 72 เมืองทั่วโลกได้ประกาศแผนการลงทุน Data Center ในประเทศไทย มูลค่ารวมกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 16,500 ล้านบาท) ในระยะ 10 ปีข้างหน้า ซึ่งบีโอไอได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนโครงการในเฟสแรกมูลค่ากว่า 7,180 ล้านบาทแล้ว โดยจะเปิดให้บริการในปี 2570

    เหตุผลที่ Equinix ได้ตัดสินใจเลือกประเทศไทยเป็นที่ตั้ง Data Center แห่งใหม่ เพื่อรองรับลูกค้าในประเทศไทยและกลุ่มประเทศในเขตภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (CLMVT) มี 3 เหตุผลสำคัญ คือ

    (1) ความพร้อมของไทยในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจดิจิทัลของภูมิภาค โดยเฉพาะการเป็น Connecting Hub สำหรับกลุ่ม CLMVT ที่มีประชากรรวมกันกว่า 250 ล้านคน

    (2) ศักยภาพของตลาดในประเทศที่ขยายตัวสูง จากการเติบโตของเทคโนโลยี AI และความต้องการของภาคธุรกิจในการยกระดับองค์กรไปสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) รวมทั้งนโยบายเชิงรุกด้าน Cloud First Policy ที่จะช่วยกระตุ้นดีมานด์จากการสนับสนุนให้ภาครัฐและองค์กรต่างๆ ใช้เทคโนโลยี Cloud ซึ่งจะส่งผลให้ตลาด Data Center ในไทยขยายตัวมากขึ้น

    (3) นโยบายส่งเสริมการลงทุนที่ชัดเจนของรัฐบาลและบีโอไอ ประกอบกับโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่มีคุณภาพสูง ทั้งโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เครือข่าย 5G ระบบไฟฟ้าที่มีความเสถียร และสัดส่วนการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอยู่ในระดับสูงกว่าร้อยละ 85 ของประชากรทั้งหมด

    “การประกาศลงทุนครั้งใหญ่ในไทยของ Equinix จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลของประเทศไทย ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงโครงข่ายเทคโนโลยีดิจิทัลคุณภาพสูง เพิ่มโอกาสในการสร้างสรรค์สินค้าและบริการใหม่ๆ และช่วยสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคการผลิต การเงิน การค้า การท่องเที่ยว และ Digital Services ต่างๆ นอกจากนี้ Equinix ยังมีแผนถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับบุคลากรไทย โดยผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยเตรียมคนไทยให้พร้อมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอนาคตด้วย” นายนฤตม์ กล่าว

    Cyrus Adaggra รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของ Equinix กล่าวว่า “ประเทศไทยอยู่ในแนวหน้าของการเติบโตด้านดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยศักยภาพมหาศาลที่ยังไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ในขณะที่ประเทศไทยก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นสำคัญในเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค

    “การเข้าสู่ตลาดกรุงเทพฯ ของ Equinix นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ขับเคลื่อนกลยุทธ์หลักของเราในการเสริมสร้างการเชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง การลงทุนครั้งนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งและหลากหลายมากขึ้น โดยรวบรวมผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่และองค์กรต่างๆ เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจและนวัตกรรมในภูมิภาค

    “นอกจากนี้ เราพร้อมที่จะร่วมมือกับลูกค้าต่างประเทศ องค์กรท้องถิ่น และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากภาครัฐ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์นี้และสร้างเศรษฐกิจของไทยที่มีความเชื่อมโยง ยืดหยุ่น และพร้อมสำหรับยุคดิจิทัลมากยิ่งขึ้น”

    สำหรับ Equinix มีการดำเนินการศูนย์ข้อมูลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจำนวน 58 แห่งที่ตั้งอยู่ใน 15 เมืองหลักทั่วออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย และสิงคโปร์ นอกจากนี้ ล่าสุด Equinix ยังได้ประกาศการเข้าสู่ตลาดฟิลิปปินส์ พร้อมทั้งขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในฮ่องกง มาเลเซีย และอินเดีย ด้วยการมีศูนย์ข้อมูลรวม 264 แห่งใน 72 เมืองทั่วโลก Equinix ยังคงให้การสนับสนุนธุรกิจชั้นนำกว่า 10,000 แห่งทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 'ไทย' ฮอตแค่ไหน สำหรับการลงทุน 'ดาต้าเซ็นเตอร์' และ 'คลาวด์'

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine