D8 ต่อยอดเงินลงทุน หวังสร้างประเทศไทยศูนย์กลางอาเซียนโลกดิจิทัล - Forbes Thailand

D8 ต่อยอดเงินลงทุน หวังสร้างประเทศไทยศูนย์กลางอาเซียนโลกดิจิทัล

บริษัท D8ii จำกัด หรือ D8 เผยถึงการเตรียมรับการสนับสนุนเงินลงทุนในธุรกิจเป็นจำนวนเงิน 3 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 105 ล้านบาท จากบริษัท Kuvera Capital Group บริษัทด้านการลงทุนที่มีสำนักงานอยู่ในประเทศไทย

ด้วยความเชี่ยวชาญด้านดิจิตอล เทคโนโลยี การค้นคว้าข้อมูลและนวัตกรรมต่างๆ เพื่อการแข่งขันในสมรภูมิดิจิทัลที่เกิดขึ้นภายหลังเข้ามาก่อตั้งบริษัทตั้งแต่ปลายปี 2558 ที่ผ่านมา D8 วางเป้าหมายภาพใหญ่ ภายในปี 2563 มีขยายทีมงานให้ถึง 1,000 คน ประกอบไปด้วยคนไทย 75% และจะจัดตั้งสำนักงานขายแยกมาจากสำนักงานใหญ่ เพื่อจะสร้างประเทศไทยให้กลายเป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางของอาเซียนแห่งโลกดิจิทัล นอกจากจะเป็นที่ปรึกษาและให้บริการทางด้านเทคโนโลยีแล้ว ยังให้ความช่วยเหลือบริการธุรกิจสตาร์ทอัพซึ่งมีความต้องการยกเครื่องทางด้านดิจิทัล ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้สามารถเข้าถึงใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทั้งนี้ครอบคลุมไปถึงระบบการให้ลิขสิทธิ์โปรแกรมหรือส่วนประกอบต่างๆ แทนที่จะต้องลงทุนพัฒนาทั้งระบบ “ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของสมาร์ทโฟนในอาเซียน บริษัทหลายๆ แห่งได้พัฒนารูปแบบทางเทคโนโลยีมากขึ้นเพื่อพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตในประเทศไทยนั้น หลายๆ ธุรกิจได้ทำการเปลี่ยนแปลงให้พร้อมรับยุคดิจิทัลไปแล้ว ทั้งนี้เฉพาะธุรกิจแอพพลิเคชั่นอย่างเดียวก็มีมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลล่าร์สหรัฐต่อปี” Jayson Ho ผู้ก่อตั้งและประธานของ D8 กล่าว ในปัจจุบัน D8 เป็นผู้ให้บริการและคำปรึกษาให้หลายบริษัท เช่น  Sift Security, MissingStep, SeventhSense, Machinima, Wisertogether, FootballIndex, Rabadaba และ Tineri เป็นต้น บริษัทเหล่านี้มาจากอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ได้แก่ ระบบเครือข่ายรักษาความปลอดภัย, ฝ่ายขายของบริการซอฟต์แวร์ผ่านเว็บแอพพลิเคชั่น (Saas), บันเทิง, สุขภาพ, การเงิน, โซเชี่ยลมีเดีย และท่องเที่ยว ตามลำดับ โดยบริษัทกำลังจะเซ็นสัญญากับกลุ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มเว็บไซต์ประเภทหางาน เช่น CareerBolt, Jobmarket place Kolla,  ผู้ค้าปลีกอุปกรณ์กอล์ฟ Tour Golf และ Levco Holdings (Thailand) นำเข้าจากจีนและประเทศอื่นๆ ในเอเซีย “D8 ได้ตั้งเป้าหมาย เป็นแบรนด์ผู้นำในตลาดที่พันธมิตรทางด้านเทคโนโลยีที่ธุรกิจต่างๆนึกถึงเป็นอันดับแรก ด้วยรูปแบบการทำงานแบบสากล ที่จะสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการชาวไทยพาธุรกิจของพวกเขาให้ก้าวไปอีกขั้น และจะช่วยนำพาให้ธุรกิจไทยเติบโตไปอีกขั้น” Jayson Ho กล่าวทิ้งท้าย