Amazon Web Services (AWS) บริษัทในเครือของ Amazon.com ได้ประกาศเปิดตัว AWS Asia Pacific (Thailand) Region แห่งใหม่อย่างเป็นทางการในวันที่ 8 มกราคม 2025 โดยนับเป็น Region แรกของไทย พร้อมเผยแผนการลงทุนมูลค่ากว่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 15 ปี
AWS Region คือภูมิภาคที่ทาง AWS กำหนดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก เพื่อจัดตั้ง Availability Zone (AZ) และภายใน 1 Availability Zone ก็จะประกอบด้วยดาต้าเซ็นเตอร์อย่างน้อย 3 แห่งขึ้นไป ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเก็บข้อมูลและระบบคลาวด์
วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ของ AWS Thailand กล่าวว่า การเปิดตัว Region ใหม่ในไทยครั้งนี้จะเพิ่มทางเลือกให้กับหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนา สตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการ และองค์กรธุรกิจ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร มีตัวเลือกมากขึ้นในการใช้งานแอปพลิเคชันและให้บริการลูกค้าผ่านศูนย์ข้อมูลของ AWS ที่ตั้งอยู่ในไทย ส่งผลใช้งานได้สะดวกรวดเร็วตลอดจนมีการจัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัย นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลของไทย รวมไปถึงความต้องการใช้เทคโนโลยีคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เพิ่มสูงขึ้น
สำหรับการลงทุนของ AWS Region ในไทยแห่งนี้มีมูลค่ากว่า 5,000 ล้านเหรียญตลอดระยะเวลา 15 ปี และมีส่วนสร้างจีดีพีให้ไทยกว่า 10,000 ล้านเหรียญ ทั้งยังจะก่อให้เกิดการจ้างงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นราว 11,000 ตำแหน่งต่อปี ตลอดจนกระตุ้นให้เกิดการยกระดับความรู้ความสามารถของบุคลากรในองค์กรต่างๆ โดยปัจจุบัน 94% ของนายจ้างในไทยให้ความสำคัญกับทักษะด้าน AI แต่ 64% ไม่สามารถหาแรงงานที่มีทักษะ AI ได้
วัตสัน ยังเผยว่า AWS ตระหนักถึงความสำคัญของผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เป็นที่ทราบกันดีกว่าดาต้าเซ็นเตอร์ใช้พลังงานมหาศาลหล่อเลี้ยง ซึ่ง AWS Region ต่างๆ มีการใช้พลังงานสะอาดมาตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน
การเปิดตัว AWS Region ในไทยครั้งนี้ ทำให้ AWS มี Availability Zones รวมทั้งสิ้น 111 แห่งใน 35 AWS Regions ทั่วโลก นอกจากนี้ AWS ยังมีแผนที่จะเปิดตัว Availability Zones เพิ่มอีก 15 แห่ง และ AWS Regions อีก 5 แห่งในเม็กซิโก นิวซีแลนด์ ซาอุดีอาระเบีย ไต้หวัน และ AWS European Sovereign Cloud
ภาพ: AWS Thailand
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เปิดมุมมองอนาคตปี 2025 จากสายตาบรรดาผู้นำในวงการเทคระดับโลก
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine