การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรวดเร็ว เร่งให้ประเทศไทยก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลเร็วขึ้น ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า จึงต้องเร่งขับเคลื่อนแผนดำเนินงานในปี 2564 เพื่อให้ไทยก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลเทียบชั้นระดับโลก
ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยวิสัยทัศน์และแผนการดำเนินงานในปี 2564 โดยวางเป้าหมายที่จะพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลไทยในอยู่ในระดับชั้นนำของโลก ด้วยแผนการทำงานเพื่ออนาคตของคนไทย ร่วมกับภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัลราว 1 แสนล้านบาท และก่อให้เกิดมูลค่าต่อเศรษฐกิจในประเทศราว 1.2 แสนล้านบาท
สำหรับแผนสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัลของดีป้า ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่
- การลงทุนในดิจิทัลสตาร์ทอัพ ทั้งระยะเริ่มต้นและระยะเติบโต เน้น 3 กลุ่ม ได้แก่ AgriTech TravelTech และ EdTech รวม 70 ราย คาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 5,000 ล้านบาท และอาจได้เห็นจะได้เห็นสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นเป็นรายแรกของประเทศไทย
- การลงทุนยกระดับเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transform) โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ชุมชน พ่อค้า แม่ค้า หาบเร่ แผงลอย ตลาดสด เกษตรกร เอสเอ็มอี รวมทั้งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ รวม 70,000 ราย คาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 10,000 ล้านบาท
- การลงทุนพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (สมาร์ทซิตี้) ซึ่งดีป้าได้ประกาศเป็นเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ รวม 40 พื้นที่ โดยจะยกระดับ 8 พื้นที่นำร่อง ซึ่งคาดว่าจะเกิดการลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชนราว 130 ล้านบาท โดยมีประชาชนได้ประโยชน์จากโครงการเมืองอัจฉริยะ 100,000 คน
สำหรับแผนพัฒนาเมืองอัจฉริยะจะมี 3 รูปแบบ ได้แก่ Smart Economy จะเน้นเมืองท่องเที่ยว 30 เมือง สร้าง Smart City Ambassador ใน 30 พื้นที่ เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยววิถีใหม่ในจังหวัดกระบี่ ภูเก็ต ชลบุรี อุดรธานี Smart Mobility การขับเคลื่อนระบบโลจิสติกส์ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี และ Smart Living การขับเคลื่อนระบบการแพทย์ฉุกเฉินในจังหวัดขอนแก่น
ณัฐพล กล่าวว่า สำหรับแผนพัฒนาคน ดีป้าวางเป้าหมายสร้างทักษะการเรียนรู้ด้านดิจิทัลให้กับประชาชนทั่วไป ให้เข้าถึงคนประมาณ 10 ล้านคน สร้างแพลตฟอร์มการสื่อสารระหว่างกลุ่มผู้สูงอายุ และ เด็ก เสริมการเรียนรู้ทักษะโค้ดดิ้งบนแพลตฟอร์มใหม่ เสริมทักษะดิจิทัลแก่นักเรียนอาชีวศึกษา รวมถึงความรู้ด้านข้อมูล (Data) แก่เยาวชนและนักศึกษา โดยคาดว่ากระบวนการต่างๆ จะสามารถพัฒนากำลังคนและบุคลากรดิจิทัลได้มากกว่า 12,000 คน
“ปี 2565 ดีป้า จะดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ ทำงานเพื่ออนาคตของคนไทย และพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลไทยให้อยู่ในระดับชั้นนำของโลกต่อเนื่อง โดยยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนและบุคลากรดิจิทัล พร้อมเร่งสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัลในภาคเศรษฐกิจจริง ผ่านกลไกการขับเคลื่อนดิจิทัลสตาร์ทอัพ ทั้งการสร้างเครือข่ายผ่านแพลตฟอร์ม ส่งเสริมให้เกิดการลงทุน ทั้งการดึงดูด Venture Capitals การสร้าง Angel Investor และกระบวนการขยายตลาดสู่ระดับสากล” ณัฐพลกล่าว
นอกจากนี้ ดีป้ายังมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ เช่น การตั้งมหาวิทยาลัยปัญญาประดิษฐ์ AI University ใช้งบลงทุน 100 ล้านบาท อยู่ระหว่างการพูดคุยกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน การตั้งมหาวิทยาลัยโดรจ Drone University โดยใช้งบลงทุน 50 ล้านบาท รวมทั้งการพัฒนาแพลตฟอร์มร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นเวบไซต์ด้านการท่องเที่ยว และอีคอมเมิร์ซ
ณัฐพล กล่าวว่า ดีป้าจะทำงานเพื่ออนาคตของคนไทย และพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลไทยให้อยู่ในระดับชั้นนำของโลกผ่านการมีส่วนร่วมจากภาคเอกชนและภาคประชาชน พร้อมรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ทั้งอุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ และอุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม โดยหวังว่าในปี 2565 ดีป้าจะเป็นฟันเฟืองที่ทำให้จีดีพีของอุตสาหกรรมดิจิทัลและนวัตกรรมขยายตัวได้ 1%
อ่านเพิ่มเติม:
10 สิ่งที่น่าจับตาในปี 2021