อีริคสัน คาดการณ์ภายในสิ้นปีนี้ยอดผู้ใช้ 5G ทั่วโลกพุ่งสูงถึง 190 ล้านราย และจะทะยานแตะระดับ 2.8 พันล้านรายภายในสิ้นปี 2568 โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำเทคโนโลยี 5G มาใช้เชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีนี้
อีริคสัน คาดว่าจำนวนผู้ใช้ระบบเครือข่าย 5G ทั่วโลกภายในสิ้นปี 2563 จะสูงถึง 190 ล้านราย และจะเพิ่มเป็น 2.8 พันล้านราย ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียจะใช้เทคโนโลยีเซลลูลาร์ผ่าน 5G เป็นอันดับสองรองจากเทคโนโลยี LTE และภายในปี 2568 จำนวนผู้ใช้ 5G จะเพิ่มเป็น 270 ล้านราย หรือคิดเป็น 21% ของจำนวนผู้ใช้มือถือทั้งหมด
ข้อมูลคาดการณ์ดังกล่าวได้ระบุไว้ในรายงาน Ericsson Mobility Report ประจำเดือนมิถุนายน 2563 รวมไปถึงข้อมูลประมาณการเติบโตของดาต้าอินเทอร์เน็ตและจำนวนผู้ใช้บริการในแต่ละภูมิภาค
รายงานดังกล่าวยังทำการวิเคราะห์ถึงบทบาทเครือข่ายและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่หลายคนต้องทำงานและใช้ชีวิตอยู่บ้านโดยเชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ต
Nadine Allen ประธานบริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โควิด-19 ทำให้พฤติกรรมการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วโลกต้องเปลี่ยนไป เช่นเดียวกับปริมาณการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายที่เปลี่ยนแปลงพื้นที่จากย่านธุรกิจไปสู่ชุมชนที่พักอาศัยอย่างรวดเร็ว เมื่อผู้คนต้องทำงานหรือเรียนที่บ้าน
“โดยรายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุดแสดงให้เห็นว่า การใช้เครือข่ายมือถือและเครือข่ายอินเทอร์เน็ตบ้าน กำลังเพิ่มบทบาทสำคัญมากขึ้นในฐานะโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ”
ขณะที่ตลาดผู้ใช้เครือข่าย 5G บางแห่งเติบโตแบบชะลอตัว อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 เมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ ส่วนใหญ่ที่กำลังเร่งพัฒนาเครือข่าย 5G ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณให้อีริคสันปรับเพิ่มประมาณการผู้ใช้ 5G ทั่วโลก ณ สิ้นปี 2020
“นอกเหนือไปจากการเพิ่มยอดผู้ใช้ 5G แล้ว 5G ยังมอบประโยชน์มหาศาลให้กับทั้งภาคธุรกิจ และภาคประชาชน 5G ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อต่อยอดพัฒนานวัตกรรมต่างๆ และวิกฤตการณ์นี้ได้แสดงถึงคุณค่าที่แท้จริงของระบบการสื่อสาร รวมถึงบทบาทสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจอีกด้วย” Allen กล่าวเพิ่มเติม
นอกจากนี้ คาดการณ์ว่าปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตต่อสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่องในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียจะสูงถึง 25GB ภายในปี 2568 หรือเติบโตเฉลี่ย 33 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
โดยอัตราการเติบโตเกิดจากพื้นที่ใช้งานและการใช้สัญญาณเครือข่าย 4G และการใช้สมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงอัตราเฉลี่ยการใช้ดาต้าต่อสมาร์ทโฟน คาดว่าการใช้งานโมบายดาต้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะสูงถึง 25 EB ต่อเดือน จากปกติที่ 3.2 EB ต่อเดือน หรือมีอัตราเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
การเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคเนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ส่งผลให้การใช้งานเครือข่ายมือถือและอินเทอร์เน็ตบ้านเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน โดยในย่านที่พักอาศัยมีปริมาณการใช้ดาต้าอินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่ายบรอดแบนด์เติบโตราว 20-100% แต่ขณะเดียวกันผู้ให้บริการก็สังเกตเห็นความต้องการใช้งานเครือข่ายมือถือเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ผลวิจัยล่าสุดโดย Ericsson Consumer Lab ระบุว่า 83% ของผู้ตอบแบบสำรวจจาก 11 ประเทศ ที่ใช้งานเทคโนโลยี ICT อย่างมีนัยสำคัญช่วงล็อกดาวน์ เผยว่าในช่วงล็อกดาวน์ คนเหล่านั้นเปิดใช้บริการเทคโนโลยี ICT ต่างๆ มากขึ้น อาทิ แอป เรียนออนไลน์และ แอปดูแลสุขภาพ ที่ช่วยให้พวกเขาปรับตัวเข้ากับการใช้ชีวิตวิถีใหม่ผ่านการเชื่อมต่อเครือข่าย
ขณะที่ 57% ระบุว่าพวกเขาจะเก็บเงินเพื่อความมั่นคงทางการเงินในอนาคต โดย 1 ใน 3 มีแผนใช้เงินไปกับเครือข่าย 5G และพร้อมปรับปรุงระบบเครือข่ายบรอดแบนด์ที่บ้านให้รองรับการใช้งานได้ดีขึ้นเพื่อเตรียมรับมือหากเกิดการระบาดรอบสอง
โอกาสทางธุรกิจของ 5G
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเสริมการดำเนินธุรกิจทั่วโลก นอกจากเปิดโอกาสให้องค์กรเชื่อมต่อกับลูกค้าหรือดำเนินธุรกรรมทางการเงินผ่านอินเตอร์เน็ตได้อย่างไม่สะดุดแล้ว ระบบเครือข่าย 5G และเทคโนโลยีดิจิทัลยังสร้างโอกาสการขยายธุรกิจไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ๆ แก่ผู้ให้บริการเครือข่าย อาทิ สุขภาพ ยานยนต์ และการผลิต
วุฒิชัย วุติอุดมเลิศ หัวหน้าฝ่ายเน็ตเวิร์กโซลูชัน บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า อีริคสันมีผลิตภัณฑ์และบริการ 5G ที่ครอบคลุมและเหมาะสม พร้อมให้ลูกค้านำไปปรับใช้กับเครือข่าย 5G ในทุกย่านความถี่หลักทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด
“เรามั่นใจว่าจะได้เห็นนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนและสร้างขึ้นจาก 5G สำหรับธุรกิจ รวมถึงกรณีศึกษาในเรื่อง IoT ทั้งนี้ 5G จะเข้าไปช่วยปลดล็อกโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับผู้ให้บริการ”
สำหรับประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เปิดใช้ระบบเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์เมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ มีการประเมินว่าในปี 2568 ระบบเครือข่าย 5G จะสร้างรายได้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ราว 4.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
- อ่านเพิ่มเติม Bluebik แนะองค์กรเห็นความสำคัญ “เทคโนโลยี Cloud” พระเอกตัวจริงประหยัดค่าใช้จ่ายด้านไอที
ไม่พลาดบทความด้านธุรกิจ ติดตามได้ที่ Facebook: Forbes Thailand Magazine