ใช้สมาร์ทโฟนใหม่แบบไม่ต้องซื้อ! เปิดแล้ว "ยืมมั้ย" บริการยืมมือถือครั้งแรกในไทย - Forbes Thailand

ใช้สมาร์ทโฟนใหม่แบบไม่ต้องซื้อ! เปิดแล้ว "ยืมมั้ย" บริการยืมมือถือครั้งแรกในไทย

โกลด์ อีลิทฯ ผนึก เอสซีไอ ปั้นแบรนด์ “ยืมมั้ย” บริการยืมโทรศัพท์มือถือครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมค่าโทร-เน็ต-ประกัน ตั้งเป้าผู้ใช้บริการ 100,000 เครื่อง/ปี

สุทธิเกียรติ กิตติภัทรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยืมมั้ย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท โกลด์ อีลิท ปารีส (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมทุนกับบริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) จัดตั้งบริษัท ยืมมั้ย (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อปั้นแบรนด์ใหม่ “ยืมมั้ย” บริการยืมโทรศัพท์มือถือครั้งแรกในประเทศไทย

“เราเห็นว่าเทรนด์พฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือของผู้บริโภคชาวไทยและทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไป คือใช้โทรศัพท์มือถือนานขึ้น และเปลี่ยนเครื่องใหม่น้อยลง โดยคนที่ใช้มือถือมากกว่า 2 ปีคิดเป็นสัดส่วนถึง 35.6% ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ราคามือถือที่สูงขึ้น และการขายต่อได้ในราคาต่ำมาก ขณะที่เทคโนโลยีกลับพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง จึงมีแนวคิดว่าจะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงเทคโนโลยีในราคาที่ถูกลง ไม่ต้องกังวลในการขายเครื่องเก่า จึงได้พูดคุยกับเอสซีไอที่ต้องการหันมาทำตลาดคอนซูเมอร์โปรดักต์และเกิดเป็นบริการยืมมั้ยขึ้น”

ผู้บริโภคใช้โทรศัพท์มือถือนานขึ้น กว่า 35.6% ใช้เกิน 2 ปีจึงจะเปลี่ยนเครื่อง

ทั้งนี้ บริษัทยืมมั้ยมีทุนจุดทะเบียนเริ่มต้น 30 ล้านบาท และจะเพิ่มทุนเป็น 200 ล้านบาทภายใน 18 เดือนข้างหน้า โดยการลงทุนร่วมกันระหว่างโกลด์ อีลิท ปารีส และเอสซีไอนั้นมีสัดส่วนการลงทุน 51:49

สุทธิเกียรติกล่าวอีกว่า ยืมมั้ยเป็นบริการให้ยืมสมาร์ทโฟนรุ่นยอดนิยมและรุ่นใหม่ล่าสุด ด้วยขั้นตอนการยืมที่สะดวกผ่านแอพพลิเคชั่นยืมมั้ย (Yeummai) ที่สามารถดาวน์โหลดได้แล้วทั้งในระบบปฏิบัติการ iOS และแอนดรอยด์ และในอีก 30 วันจะให้บริการบนเว็บไซต์ได้

โดยในการยืม ลูกค้าต้องทำสัญญาเช่า 12 เดือน (365 วัน) ราคาเริ่มต้น 30 บาท/วัน หรือประมาณ 900 บาท/เดือน ค่ามัดจำเริ่มต้น 575 บาท/เดือน พร้อมฟรีค่าโทรและค่าอินเทอร์เน็ตรายเดือน โดยค่ามัดจำจะได้รับคืนหลังคืนเครื่องไม่เกิน 7 วัน หรือใช้เป็นค่ามัดจำในการยืมเครื่องรุ่นใหม่ในปีถัดไปได้

สุทธิเกียรติ กิตติภัทรากุล

ทั้งนี้ ผู้ยืมจะได้รับโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่แกะกล่องทุกครั้ง และสามารถชำระเป็นรายเดือนโดยไม่ต้องใช้เงินก้อนผ่านบัตรเครดิตบนระบบการชำระเงินที่มีความปลอดภัยสูง นอกจากนี้ยังจัดส่งฟรี รวมถึงยังมีคอลเซ็นเตอร์คอยช่วยเหลือในการโอนถ่ายข้อมูลจากเครื่องเก่าไปเครื่องใหม่

“บริการของเรานับเป็นทางเลือกใหม่ที่ให้ผู้บริโภคได้ใช้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในราคาที่ถูกลงกว่าการซื้อเครื่องมาใช้เอง ยกตัวอย่าง หากเราซื้อ iPhone XR ราคา 29,900 บาท ใช้ค่าโทรและค่าอินเทอร์เน็ตเดือนละ 599 บาท 1 ปีเท่ากับเราเสียเงินไปราว 37,000 บาท หากขายต่อก็ได้ราคาเพียง 35% จากราคาเดิม แต่ถ้ายืมของเราซึ่งรวมค่าโทรและเน็ตซึ่งเป็นเน็ตแบบอันลิมิเต็ดดาต้าแล้ว เสียค่าใช้จ่ายราวปีละ 20,000 บาทเท่านั้น”

สุทธิเกียรติระบุอีกว่า บริการยืมมั้ยยังรวมการรับประกันอุบัติเหตุ เช่น จอแตก เป็นต้น โดยบริษัทประกันสงเคราะห์เงินในสัดส่วน 90% ลูกค้าจ่ายเอง 10% แต่ถ้าเครื่องหายลูกค้าจะต้องชดใช้ค่าเครื่องในส่วนที่ยังไม่ได้ชำระ

“สำหรับในระยะแรกลูกค้าจะต้องชำระค่าบริการยืมมั้ยผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น โดยขณะนี้พร้อมให้บริการแล้ว 4 รุ่น เป็นสมาร์ทโฟนจากค่าย Apple ทั้งหมด โดยเริ่มต้นที่รุ่น iPhone 7 plus 32 GB และภายใน 2 เดือนจะเพิ่มเป็น 10 รุ่นจากค่าย Apple, Samsung และ Huawei ซึ่งเป็นรุ่นระดับท็อปเท่านั้น เนื่องจากบางแบรนด์ตลาดมือสองยังไม่แข็งแรงพอ ขณะเดียวกัน วางแผนว่าในปีหน้าซึ่งได้รับเครื่องคืนมา จะนำเครื่องเก่าที่ได้รับคืนมาให้บริการเช่าสมาร์ทโฟนสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ในระยะสั้น”

“กลุ่มเป้าหมายหลักของยืมมั้ยเน้นไปที่คนรุ่นใหม่, นักศึกษา, พนักงานออฟฟิศ, พ่อแม่ที่ต้องการซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องแรกให้ลูก, คนที่ไม่อยากส่งต่อมือถือเครื่องเก่าให้พ่อแม่ และกลุ่มลูกค้าองค์กรที่มีความต้องการใช้โทรศัพท์ในธุรกิจหรือเป็นสวัสดิการพนักงาน โดยตั้งเป้าผู้ใช้บริการ 100,000 เครื่อง/ปี เป็นลูกค้าทั่วไป 70% และลูกค้าองค์กร 30% และคาดว่าจะสามารถคืนทุนได้กายใน 2 ปี”

เกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมาเอสซีไอดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น เสาโครงข่ายโทรคมนาคม เสาไฟฟ้าแรงสูง เป็นต้น ซึ่งมองว่าตลาดอุตสาหกรรมขนาดใหญ่นั้นมีลิมิต จึงเริ่มมองหาตลาดคอนซูเมอร์โปรดักต์มากขึ้น เลยเข้าร่วมกับโกลด์ อีลิทฯในการพัฒนาบริการยืมมั้ย

เกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล

“ยอดขายโทรศัพท์มือถือในไทยปี 2561 อยู่ที่ 19.2 ล้านเครื่อง ลดลง 8.6% ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับโลก ดังนั้น เชื่อว่าบริการยืมมั้ยจะตอบโจทย์คนหลายกลุ่ม โดยเรายังเสริมความแข็งแกร่งด้วยการร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ ในการเป็นผู้ดูแลระบบจัดการการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ในการให้บริการเครือข่ายมือถือและแพ็คเกจอินเทอร์เน็ต, บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในการดูแลรับประกันตัวเครื่องตลอดการใช้งาน และ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COMIII7 ในการเป็นจุดรับบริการลูกค้ายืมมั้ยผ่านศูนย์ iCare”

ยอดขายโทรศัพท์มือถือในไทยและทั่วโลกลดลง

เกรียงไกร กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันเราไม่ได้มองแค่การยืมมือถืออย่างเดียวเท่านั้น แต่จะสร้างระบบนิเวศแพลตฟอร์มยืมมั้ยด้วยการขยายไปที่บริการให้ยืมสินค้าประเภทอื่นในอนาคต เช่น กล้อง แก็ดเจ็ตต่างๆ หรือแม้แต่รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการได้ในอีก 90 วัน

  เรื่องราวน่าสนใจเพิ่มเติม     รายงานโดย กนกวรรณ มากเมฆ / Online Content Creator
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine