โคโรน่าไวรัสทำพิษ ยอดขายพีซี ทั่วโลกไตรมาสแรกปีนี้ร่วงถึง 12.3% ดิ่งลงต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2013 - Forbes Thailand

โคโรน่าไวรัสทำพิษ ยอดขายพีซี ทั่วโลกไตรมาสแรกปีนี้ร่วงถึง 12.3% ดิ่งลงต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2013

FORBES THAILAND / ADMIN
20 Apr 2020 | 11:31 AM
READ 2983

การ์ทเนอร์ บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้นนำ เผยรายงานตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือพีซี พบว่าภาพรวม ยอดขายพีซี ทั่วโลกไตรมาสแรกปี 2020 มีจำนวนอยู่ที่ 51.6 ล้านยูนิต ลดลง 12.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2019

จากผลการวิจัยของการ์ทเนอร์ยังพบว่า ยอดขายพีซี ทั่วโลกประสบวิกฤตลดลงสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2013 เนื่องจากการระบาดของโคโรน่าไวรัสหลังเติบโตอย่างต่อเนื่องมาถึง 3 ไตรมาสก่อนหน้านี้

Mikako Kitagawa ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย การ์ทเนอร์ กล่าวว่า การระบาดของไวรัสคือปัจจัยเดียวที่ส่งผลกระทบต่อการทรุดตัวของตลาดพีซีมากที่สุด ทำให้ทั้งอุปสงค์และอุปทานของตลาดพีซีหยุดชะงัก

หลังจากประเทศจีนเริ่มต้นมาตรการล็อกดาวน์เมื่อปลายเดือนมกราคม ปริมาณการผลิตพีซีก็ลดลงในเดือนกุมภาพันธ์ และได้กลายเป็นความท้าทายด้านการขนส่ง 

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อการล็อกดาวน์พื้นที่เพื่อป้องกันโคโรน่าไวรัสแพร่กระจายนั้นขยายไปยังภูมิภาคอื่นๆ ได้เกิดความต้องการพีซีในรูปแบบใหม่อย่างฉับพลัน ทั้งเพื่อรองรับการทำงานระยะไกลและเรียนผ่านระบบออนไลน์ ที่ผู้ผลิตพีซีคาดไม่ถึงมาก่อน 

ผลประกอบการของผู้ผลิตพีซีไตรมาสนี้เน้นย้ำถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การใช้จ่ายด้านพีซีมีความเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง

ประกอบกับการสิ้นสุดในการอัปเกรดสูงสุดที่วินโดวส์ 10 ทำให้องค์กรต่างๆ ต้องโยกงบประมาณด้านไอทีจากพีซี ไปใช้วางแผนยุทธศาสตร์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิด เราจะเริ่มเห็นผู้ประกอบการและผู้บริโภคยืดอายุการใช้งานพีซีให้ยาวนานมากขึ้น เนื่องจากพวกเขามุ่งเน้นที่ไปการเก็บรักษาเงินสด” Kitagawa กล่าว

แม้จะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 แต่ส่วนแบ่งการตลาดของผู้ผลิตพีซีสามอันดับแรกก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากไตรมาสก่อน โดยเพิ่มขึ้นจาก 60% ในไตรมาสแรกปี 2019 เป็น 65.6% ในไตรมาสแรกของปี 2020

แม้ว่าเลอโนโวครองตำแหน่งที่ 1 ในตลาดพีซีทั่วโลก แต่มียอดขายสินค้าลดลง 3.2% ในไตรมาสแรกของปี 2020 และ 22.6% เทียบปีต่อปีในเอเชียแปซิฟิก

ในไตรมาสแรก อชพี อิงค์มีความท้าทายจากยอดขายพีซีที่ลดลง 12.1% หลังจากเติบโตติดต่อกันสามไตรมาส โดยบันทึกยอดขายสินค้าลดลงเป็นตัวเลขสองหลักในทุกภูมิภาคที่สำคัญ ซึ่งเป็นอุปสรรคที่ยากที่สุดในการตีตลาดพีซีแบบตั้งโต๊ะในเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น

แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เดลล์เป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวที่มียอดขายเติบโตเมื่อเทียบปีต่อปี เพิ่มขึ้น 2.2% โดยในไตรมาสแรกของปี 2020 เดลล์มียอดขายเติบโตขึ้นทุกภูมิภาค ยกเว้นในเอเชียแปซิฟิก

การเติบโตอย่างแข็งแกร่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดอเมริกา ที่พีซีเดลล์ยังมีความต้องการคงที่จนถึงเดือนมีนาคม และในไตรมาสแรกของปี 2020 ยังถือเป็นไตรมาสที่เก้าติดต่อกันที่เดลล์มียอดขายเติบโต

ภาพรวมยอดขายในระดับภูมิภาค

ยอดขายพีซีในแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกัน สืบเนื่องมาจากมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าจากภาครัฐ ไวรัสสร้างผลกระทบอย่างชัดเจนในตลาดอเมริกาช่วงไตรมาสแรกปี 2020 โดยตลาดพีซีของอเมริกามีอัตราเติบโตเล็กน้อยเพียง 0.8% อย่างไรก็ตาม ยอดขายพีซีหล่นฮวบถึง 30.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน 

เดลล์ และ เอชพี อิงค์ สลับตำแหน่งกันในเรื่องของยอดขายพีซีในตลาดอเมริกา โดยเดลล์ครองส่วนแบ่งการตลาดเกินกว่า 31%

ตั้งแต่การ์ทเนอร์เริ่มเก็บข้อมูลตลาดพีซี ปีนี้เอเชียแปซิฟิกมีตัวเลขการลดลงต่ำที่สุดที่ 27.1% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตั้งแต่การเกิด COVID-19 ในประเทศจีน ที่กลายเป็นตัวแปรสำคัญของการลดลงนี้ อันเนื่องมาจากกิจกรรมต่างๆ ขององค์กรธุรกิจ ภาครัฐและผู้บริโภคถูกระงับเมื่อเดือนกุมภาพันธ์

การส่งมอบพีซีในประเทศจีนตกลงมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน เดสก์ท็อปพีซีที่เป็นสินค้าหลักของกลุ่มลูกค้าภาครัฐและภาคการศึกษาต้องพบกับตัวเลขที่ต่ำลงมากที่สุดเกือบ 40% โดยโมบายล์พีซีเช่นโน้ตบุ๊กลดลงน้อยกว่า 20% อันเนื่องมาจากความต้องการของฝั่งพนักงานและนักเรียนที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้งานเพื่อทำงานหรือเรียนจากบ้าน 

ยอดขายพีซียุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกาลดลง 7% เหลือ 16.8 ล้านยูนิตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี ในไตรมาสแรกการซื้อพีซีทั้งจากตลาดธุรกิจและตลาดคอนซูมเมอร์ลดลงอย่างฮวบฮาบอันเนื่องมาจากมาตรการจำกัดการเดินทางอย่างเข้มข้นในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ของหลายประเทศในภูมิภาคนี้

หมายเหตุ: ข้อมูลนี้รวมพีซีแบบตั้งโต๊ะ, โน้ตบุ๊กพีซีและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กระดับพรีเมี่ยมขนาดพกพา เช่น (ไมโครซอฟท์ เซอร์เฟซ) แต่ไม่รวมโครมบุ๊กและไอแพด. ข้อมูลทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานของการประมาณการเบื้องต้น. การประมาณการขั้นสุดท้ายอาจมีการเปลี่ยนแปลง สถิติจะขึ้นอยู่กับการจัดส่งสินค้าทางช่องทาง ตัวเลขต้องไม่เกินจำนวนที่แสดงเนื่องจากการปัดเศษ ที่มา: การ์ทเนอร์ (เมษายน 2020)