ธุรกิจไทยจะแข่งได้ต้องเน้นสร้างนวัตกรรม - Forbes Thailand

ธุรกิจไทยจะแข่งได้ต้องเน้นสร้างนวัตกรรม

FORBES THAILAND / ADMIN
05 Sep 2017 | 05:44 PM
READ 3310

หากวัดผลงานของกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในปีนี้ ต้องยกให้กับหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี ทั้งฮาร์ดแวร์ก็คือผู้ผลิต GPU ที่ใช้ในอุตสาหกรรม AI รวมไปถึงซอฟท์แวร์โดยเฉพาะจากประเทศจีน ไม่ว่าจะ Tencent ผู้ผลิตเกมรายใหญ่ที่สุดของโลก Ant Financial บริษัทฟินเทคที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่เป็นบริษัทลูกของ Alibaba ตลอดจนบริษัทไอทีรายใหญ่ของโลกจากสหรัฐฯ ทั้ง Amazon, Facebook, Google ฯลฯ ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทที่เน้นพัฒนาด้าน “นวัตกรรม” ทั้งสิ้น

ตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน ที่มีแต่บริษัทด้านเทคโนโลยี แม้ส่วนใหญ่จะเป็นรับจ้างผลิตและพัฒนา แต่ก็สามารถวิ่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ได้ก็เพราะบริษัทที่เน้นด้านวัตกรรมนี่เอง กลับมามองที่ตลาดหุ้นไทย ก่อนหน้าที่ SET Index จะวิ่งเหนือ 1,600 จุด หุ้นไทยแทบไม่ไปไหน ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะภาคธุรกิจของไทยยังไม่มีบริษัทที่เน้นด้านการพัฒนานวัตกรรมมากนัก  หากเราศึกษาดูดีๆ จะพบว่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีโดยตรงในตลาดหุ้นไทยมีน้อยมาก หุ้นที่แข็งแกร่งส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทที่ผูกขาดตลาดแต่ไม่ได้เด่นในเรื่องเทคโนโลยี ตรงกับตัวเลขของธนาคารแห่งประเทศไทยที่บอกว่า ค่าใช้จ่ายในด้านการวิจัยและพัฒนาของไทยนับตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมายังมีสัดส่วนไม่ถึง 0.5% ของจีดีพี ขณะที่ค่าเฉลี่ยของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว (OECD) อยู่ที่ 2.4% ขณะที่ประเทศกลุ่มรายได้ปานกลางระดับสูงอยู่ที่ 1.6%  เรียกได้ว่ายังห่างไกลอยู่มาก น่าเสียดายด้วยว่าการจัดอันดับดัชนีนวัตกรรมโลก ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 51 จาก 127 ประเทศทั่วโลก ตามหลังประเทศในอาเซียนด้วยกันอย่าง สิงคโปร์ มาเลเซีย รวมถึงเวียดนาม นอกจากนี้ยังพบว่าค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาของไทยกว่า 1 ใน 3 มาจากการลงทุนภาครัฐ ผมมองว่า หากภาคเอกชนไทยหันมาใช้งบลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาธุรกิจให้มากขึ้น นอกเหนือจากดัชนีด้านนวัตกรรมที่จะเพิ่มขึ้นแล้ว ยังเพิ่มความน่าสนใจในการลงทุนมากขึ้นอีกด้วย เพราะเห็นชัดแล้วว่ากระแสของ Digital Disrupt ทำให้บางอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบอย่างหนัก เห็นได้ชัดจากกลุ่มทีวีดิจิทัลที่ขาดทุนอย่างหนักจากการมาของสื่อออนไลน์ ส่วนอุตสาหกรรมอื่นๆ อาจจะยังไม่เห็นชัด แต่อนาคตจะเริ่มได้เห็นผลกระทบบ้างแน่นอน ที่ผมพูดถึงการพัฒนานวัตกรรม ไม่ได้หมายความถึงเทคโนโลยีไอทีหรือซอฟท์แวร์เพียงอย่างเดียว แต่ภาคการผลิต การบริการ ก็ต้องหันมาพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อใช้ในการผลิตสินค้าใหม่หรือนำมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน เพราะการที่ตอนนี้ยังมีคนสั่งซื้อสินค้าหรือใช้บริการกับเรา ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นลูกค้าของเราตลอดไป โลกธุรกิจยุคนี้เปลี่ยนแปลงเร็วกว่าที่คิด เราอาจจะสูญเสียลูกค้าไปอย่างไม่ทันรู้ตัวก็ได้ ผมเชื่อว่าหากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นรวมถึงบริษัทที่กำลังยื่นเข้าจดทะเบียน ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมจะทำให้หุ้นของบริษัทเหล่านี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติอย่างแน่นอน และจะทำให้ตลาดหุ้นไทยได้รับความสนใจในระยะยาว