- ดีเอชแอล ซัพพลายเชน เป็นผู้ให้บริการลอจิสติกส์ต่างชาติถือหุ้น 100% รายแรกและรายเดียวที่ได้รับใบอนุญาตให้ลงทุนในระยะยาวในประเทศเมียนมา
- ดีเอชแอล ซัพพลายเชน เตรียมพัฒนาศูนย์ปฏิบัติงานแห่งใหม่ เพิ่มจำนวนรถบรรทุกขนส่งสินค้า และลงทุนติดตั้งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย พร้อมสร้างงานอีกกว่า 5,000 ตำแหน่งภายใน 3 ปี
- ดีเอชแอล มีคลังสินค้ากว่า 70 แห่ง พื้นที่กว่า 650,000 ตร.ม. มีพนักงานกว่า 10,000 คน
ดีเอชแอล ทุ่ม 2.7 พันล้านบาท เดินหน้าธุรกิจลอจิสติกส์ในไทย เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมา
บริษัท ดีเอชแอล ซัพพลายเชน จำกัด ประกาศการลงทุน 2.7 พันล้านบาท ภายในปี 2020 ในประเทศไทย เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมา มองภาพเศรษฐกิจในภาพรวมกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งในอนาคตจากการที่รัฐบาลไทยมีการลงทุนกับโครงการระดับเมกะโปรเจ็คต์หลายโครงการ อาทิ โครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) แผนการขยายท่าอากาศยาน ที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศให้เข้าสู่ประเทศไทย
Kevin Burrell ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจประเทศไทย ดีเอชแอลซัพพลายเชน กล่าว “ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เราลงทุนทั้งในส่วนคลังสินค้าและการขนส่งในประเทศไทย ผสานกับความสามารถในการนำเสนอโซลูชั่นแบบครบวงจรที่ดีเยี่ยมแก่ลูกค้าของเรา เราจะสามารถเพิ่มมูลค่าของบริการได้อย่างมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างให้ดีเอชแอลมีความโดดเด่นกว่าผู้ให้บริการรายอื่นในตลาด”
โดยดีเอชแอลยังนำระบบอัจฉริยะมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้นทั้งในส่วนคลังสินค้าและการขนส่ง อาทิ ระบบการทำงานอัตโนมัติและวิทยาการหุ่นยนต์ รถยกสินค้าแบบไร้คนขับ ระบบหยิบสินค้าแบบวิชั่นพิกกิ้ง ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมการขนส่งและระบบเทเลมาติกส์
“เราต้องการยกระดับให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางลอจิสติกส์ระดับพรีเมียร์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความเจริญเติบโตทางธุรกิจในตลาดที่เราเป็นผู้นำด้านลอจิสติกส์ อาทิ ไทยและเวียดนาม และเน้นการลงทุนในตลาดที่เป็นเป้าหมายต่อไป ซึ่งก็คือเมียนมาร์และกัมพูชา” Kevin กล่าวเสริม
Forbes in Details
TAGGED ON