โรงเรียนนานาชาติในไทยสุดบูม! เศรษฐีแห่ลงทุน เปิดตัวอย่าง 12 ตระกูลใหญ่ รุกธุรกิจโรงเรียนอินเตอร์ - Forbes Thailand

โรงเรียนนานาชาติในไทยสุดบูม! เศรษฐีแห่ลงทุน เปิดตัวอย่าง 12 ตระกูลใหญ่ รุกธุรกิจโรงเรียนอินเตอร์

เปิด 12 ตระกูลใหญ่ รุกธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ พร้อมขยายไปหัวเมืองใหญ่ สวนทางแม้เด็กไทยเกิดน้อย ทำตลาดแข่งขันสูง


    ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2560 – 2567) โรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยปีละ 5% โดยกระจายอยู่ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดสำคัญทั่วประเทศ

    ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ระบุว่า ปี 2567 ประเทศไทยมีโรงเรียนนานาชาติ 249 แห่ง มีนักเรียนรวม 77,734 คน เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนที่มี 236 แห่ง และนักเรียน 70,200 คน แม้จำนวนผู้เรียนใหม่โดยรวมจะลดลงก็ตาม

    รายงานจาก Global Statistics พบว่า ประเทศไทยมีอัตราการเกิดต่ำเป็นอันดับ 3 จาก 80 ประเทศทั่วโลก ลดลงถึง 81% ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจการศึกษา โดยเฉพาะ “โรงเรียนนานาชาติ” ที่กำลังเผชิญการแข่งขันเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ในปี 2567 ตลาดโรงเรียนนานาชาติในไทยจะเติบโต 13% จากปีก่อนหน้า มีมูลค่ารวมกว่า 80,000 ล้านบาท

    ด้าน SCB EIC สะท้อนแนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากการเกิดโรงเรียนนานาชาติใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นนอก เช่น ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือและตะวันออก รวมถึงปริมณฑล โดยข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังระบุด้วยว่า ปีการศึกษา 2567 มีนักเรียนไทยในโรงเรียนทั่วไป 8.8 ล้านคน ลดลงจาก 8.9 ล้านคนในปีก่อน ขณะที่นักเรียนไทยในโรงเรียนนานาชาติเพิ่มจาก 70,000 คนเป็น 77,000 คน

    กระแสความนิยมส่งบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติ มาจากทั้งฝั่งผู้ปกครองและฝั่งธุรกิจที่มองเห็นโอกาสการลงทุน สำหรับครอบครัวนักธุรกิจและผู้บริหารต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทย โรงเรียนนานาชาติที่มีคุณภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการรองรับบุตรหลาน

    ขณะเดียวกัน พ่อแม่ชาวไทยรุ่นใหม่ก็หันมาส่งลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติมากขึ้น ด้วยความคาดหวังด้านคุณภาพการศึกษาและทักษะภาษาต่างประเทศ อีกทั้งแนวโน้มครอบครัวที่มีบุตรน้อยลง ทำให้ผู้ปกครองทุ่มเททรัพยากรเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก โรงเรียนนานาชาติจึงกลายเป็นตัวเลือกแรกๆ ในการลงทุนด้านการศึกษา ด้วยหลักสูตรมาตรฐานสากล สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และสภาพแวดล้อมที่ดี โดยเฉพาะโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเมืองท่องเที่ยว เช่น พัทยา เขาใหญ่ และเชียงใหม่ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่อปีต่ำกว่าการส่งลูกไปเรียนต่างประเทศมาก

    ในด้านธุรกิจ นักลงทุนจำนวนมากให้ความสนใจเข้ามาพัฒนาโรงเรียนนานาชาติอย่างต่อเนื่อง สุรเชษฐ กองชีพ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา คุชแมน แอนด์ เวคฟิลด์ (ประเทศไทย) ระบุว่า กลุ่มทุนใหญ่และนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จจากธุรกิจอื่น กำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ โดยการลงทุนในโรงเรียนนานาชาติเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะสอดรับกับความต้องการของครอบครัวรุ่นใหม่ที่มีลูกน้อยลงแต่พร้อมจ่ายเพื่อการศึกษาคุณภาพ

    นั่นทำให้หลายธุรกิจของตระกูลใหญ่ในไทย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จึงเริ่มขยายพอร์ตเข้าสู่ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ ทั้งเพื่อลดความเสี่ยงจากการแข่งขันในตลาดเดิม และสร้างโอกาสการเติบโตในระยะยาว

    ความเคลื่อนไหวนี้เห็นได้ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงในเมืองท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศ ซึ่งกำลังกลายเป็นจุดหมายใหม่ของการลงทุนในภาคการศึกษา

    Forbes Thailand รวบรวมตัวอย่างโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยที่อยู่ในความดูแลของ 12 ตระกูลใหญ่ ดังนี้

    ตระกูลเจียรวนนท์ (เครือเจริญโภคภัณฑ์-CP Group) เป็นผู้ก่อตั้ง โรงเรียนนานาชาติคอนคอร์เดียน ย่านบางนา กรุงเทพฯ เปิดสอนตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาลถึงเกรด 12 ภายใต้หลักสูตร International Baccalaureate (IB) ในทุกระดับชั้น เพื่อปลูกฝังการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและการคิดวิเคราะห์


เครดิตภาพ โรงเรียนนานาชาติคอนคอร์เดียน


    ตระกูลกาญจนพาสน์ (BTS Group Holdings) เจ้าของ โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ ตั้งอยู่บริเวณถนนบางนา-ตราด สมุทรปราการ ซึ่งยึดในหลักสูตรอเมริกันแบบก้าวหน้า อิงมาตรฐานจาก New York State Learning Standards เปิดสอนตั้งแต่เตรียมอนุบาลถึงเกรด 12


เครดิตภาพ โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ

    ตระกูลโชควัฒนา (เครือสหพัฒน์) ผู้ก่อตั้ง โรงเรียนคิงส์คอลเลจ กรุงเทพฯ บนถนนรัชดา-พระราม 3 ใช้หลักสูตรแห่งชาติของสหราชอาณาจักร เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึง Year 13


เครดิตภาพ โรงเรียนคิงส์คอลเลจ กรุงเทพฯ


    ตระกูลอัสสกุล (ไทยสมุทรประกันชีวิต) เจ้าของ โรงเรียนนานาชาติเซนต์ สตีเฟ่นส์ มี 2 แคมปัสหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ทำเลที่เหมาะสมบนถนนวิภาวดีรังสิต และอีกแคมปัสคือเขาใหญ่ นครราชสีมา ส่วนการเรียนการสอนมีหลายหลักสูตร เช่น หลักสูตรประถมศึกษานานาชาติ (IPC) หลักสูตรมัธยมศึกษานานาชาติตอนต้น (IMYC) หลักสูตรมัธยมศึกษานานาชาติตอนปลาย (IGCSE) ผสานกับหลักสูตร A Level โดยเปิดสอนตั้งแต่อายุ 2-18 ปี


 เครดิตภาพ โรงเรียนนานาชาติเซนต์ สตีเฟ่นส์ วิภาวดี


เครดิตภาพ โรงเรียนนานาชาติเซนต์ สตีเฟ่นส์ เขาใหญ่

    โรงเรียนที่อยู่ในมือของ ตระกูลอัสสกุล มีอีก 1 แห่ง คือ โรงเรียนไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ มี 2 แคมปัสในกรุงเทพฯ แห่งแรกตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพกรีฑา และก่อนหน้านี้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โรงเรียนเพิ่งเปิดอีกแคมปัสตั้งอยู่ทำเลย่านวิภาวดี สำหรับหลักสูตรการเรียนการสอนนั้นมาจากประเทศอังกฤษ โดยจะเปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึง Year 13 


เครดิตภาพ โรงเรียนไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพกรีฑา

เครดิตภาพ โรงเรียนไบรท์ตัน คอลเลจ วิภาวดี


    ตระกูลโสภณพณิช (ธนาคารกรุงเทพ-ซิตี้ เรียลตี้) ผู้ก่อตั้ง โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพฯ จากประเทศอังกฤษมี 2 วิทยาเขต ได้แก่ ริเวอร์ไซด์แคมปัส ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง มีจุดเด่นเป็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา เปิดสอนตั้งแต่อนุบาลถึง Year 13 ส่วนซิตี้แคมปัส ทำเลย่านสุขุมวิท-พระราม 9 เปิดสอนเริ่มต้นชั้นอนุบาลถึง Year 6


เครดิตภาพ โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี ริเวอร์ไซด์แคมปัส


เครดิตภาพ โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี ซิตี้แคมปัส


    ตระกูลพรประภา (กลุ่มสยามกลการ) เจ้าของ โรงเรียนนานาชาติไฮเกต พัทยา ชลบุรี มีต้นแบบจากโรงเรียนไฮเกต สหราชอาณาจักร โดยจะมีกำหนดเปิดในเดือนสิงหาคม 2570 และรับสมัครนักเรียนตั้งแต่อายุ 2-18 ปี


เครดิตภาพ โรงเรียนนานาชาติไฮเกต


    ตระกูลปาลเดชพงศ์ (เครือเด่นหล้า) เป็นผู้ก่อตั้ง โรงเรียนเด่นหล้า บริติช ย่านราชพฤกษ์ใช้หลักสูตรโรงเรียนเอกชนอังกฤษ เปิดสอนตั้งแต่อนุบาลถึง Year 13 รวมถึง โรงเรียนนานาชาติ DLTS ย่านบางกรวย นนทบุรี เปิดสอน 3 ภาษา (ไทย-อังกฤษ-จีน) ภายใต้กรอบหลักสูตร IB (PYP-MYP)


เครดิตภาพ โรงเรียนเด่นหล้า บริติช


เครดิตภาพ โรงเรียนนานาชาติ DLTS


    ตระกูลทองสิมา (หมู่บ้านสุดจิตต์นิเวศน์) เป็นเจ้าของ โรงเรียนนานาชาติเบซิส กรุงเทพฯ ย่านพระราม 2 และนับเป็นโรงเรียนลำดับที่ 35 ในเครือของเบซิส จากสหรัฐฯ โดยเปิดสอนตั้งแต่เตรียมอนุบาลจนถึงเกรด 12


เครดิตภาพ โรงเรียนนานาชาติเบซิส กรุงเทพฯ


    ตระกูลลัทธพิพัฒน์ (มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์) เป็นผู้ก่อตั้ง โรงเรียนนานาชาติเวลลิงตันคอลเลจ กรุงเทพฯ ซึ่งใช้หลักสูตรอังกฤษและดำเนินงานภายใต้ เวลลิงตันคอลเลจ ประเทศอังกฤษ โดยเปิดสอนตั้งแต่อนุบาลถึง Year 13


เครดิตภาพ โรงเรียนนานาชาติเวลลิงตันคอลเลจ กรุงเทพฯ


    ตระกูลบูรณุปกรณ์ (กลุ่มอรสิริน โฮลดิ้ง) ผู้บุกเบิก โรงเรียนนานาชาติมิลฮิลล์ ประเทศไทย เชียงใหม่ โรงเรียนสัญชาติอังกฤษแห่งแรกในเชียงใหม่ มีต้นแบบจากโรงเรียนมิลฮิลล์ ประเทศอังกฤษ โดยเปิดสอนนักเรียนตั้งแต่อายุ 3-14 ปี


เครดิตภาพ โรงเรียนนานาชาติมิลฮิลล์ 


    ตระกูลอุไรรัตน์ (สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์) ด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารโรงเรียนตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา และเป็นผู้บุกเบิกโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต ทั้งนี้ ตระกูลอุไรรัตน์ ได้ขยายความรับผิดชอบไปยังโรงเรียนนานาชาติถึง 2 แห่งด้วยกัน โรงเรียนบริติช อินเตอร์เนชั่นแนล ภูเก็ต โรงเรียนนานาชาติแห่งแรกของภาคใต้ ใช้หลักสูตรอังกฤษที่ได้รองรับหลักสูตร IGCSE และ IB ซึ่งเปิดสอนตั้งแต่อายุ 4-13 ปี 


เครดิตภาพ โรงเรียนบริติช อินเตอร์เนชั่นแนล ภูเก็ต


อีกหนึ่งความแน่วแน่ทางวิชาการที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จทางการศึกษาของ ตระกูลอุไรรัตน์ คือ โรงเรียนเอสบีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล มีอยู่ 2 แคมปัส ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ย่านลาดกระบัง และเชียงใหม่ หลักสูตรที่ใช้สำหรับการเรียนการสอนคือ Cambridge Curriculum ที่ผสานความเป็นไทยและมาตรฐานสากล อีกทั้งยังเน้นในทักษะการเรียนรู้รอบด้าน ทั้งกีฬา การทำงานเป็นทีม การคิดวิเคราะห์ โดยจะเปิดสอนตั้งแต่อายุ 2-18 ปี


เครดิตภาพ โรงเรียนเอสบีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงเทพฯ


เครดิตภาพ โรงเรียนเอสบีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล เชียงใหม่


    ตระกูลเตชะอุบล (คันทรี่กรุ๊ปฯ) เจ้าของ โรงเรียนนานาชาติเอสพีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงเทพฯ บนถนนพระราม 3 ใช้ต้นแบบจาก St Paul’s Girls’ School ในลอนดอนซึ่งมีประวัติกว่า 120 ปี มีกำหนดเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2569 โดยเปิดรับสมัครนักเรียนอายุตั้งแต่ 3-18 ปี


เครดิตภาพ โรงเรียนนานาชาติเอสพีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงเทพฯ



อ่านเรื่องราวอื่นๆที่น่าสนใจ : ไทยก้าวสู่ฮับโรงเรียนนานาชาติ เม็ดเงินลงทุนสะพัด 8 หมื่นล้าน

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine