ผู้บริหารรุ่นสองตระกูล “ปาลเดชพงศ์” ผศ. ดร. ต่อยศ และ ดร. เต็มยศ ปาลเดชพงศ์ ต่อยอดความตั้งใจ เปิดตัว โรงเรียนนานาชาติ DBS บนพื้นที่ 45 ไร่ ติดถนนราชพฤกษ์ เตรียมพร้อมเด็กไทย ก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
ตลอดระยะเวลากว่า 39 ปี ของกลุ่มโรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า ทั้งสาขาเพชรเกษม และพระราม 5 สะสมชื่อเสียงกลายมาเป็นสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงในระดับอนุบาล สู่ก้าวกระโดดทางธุรกิจครั้งสำคัญในการเปิด
โรงเรียนนานาชาติ Denla British School (DBS) สัญชาติไทยรายแรกในกลุ่มตลาดโรงเรียนนานาชาติพรีเมี่ยม โดยใช้หลักสูตรการศึกษาของโรงเรียนเอกชนอังกฤษเป็นแม่แบบมาปรับใช้เพื่อให้เหมาะสมกับสังคมไทย ตั้งแต่ระดับชั้น Early Year 1 จนถึง Year 13 ควบคู่กับการนำโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอทีระบบเน็ตเวิร์คที่ทันสมัยมาใช้ในการเรียนการสอน และก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำทางด้านสถาบันการศึกษานานาชาติในไทย
ต่อยศ ปาลเดชพงศ์ กรรมการบริหาร โรงเรียนนานาชาติ DENLA BRITISH SCHOOL กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดการศึกษาในประเทศไทยในปัจจุบัน โรงเรียนนานาชาติมีอยู่ราว 170-180 แห่ง มากกว่า 100 แห่งกระจายตัวในกรุงเทพฯ ทุกโรงเรียนมีการปรับตัวและแข่งขันกันอย่างสูง เนื่องจากพฤติกรรมในการเลือกโรงเรียนของผู้ปกครองเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัยและจำนวนโรงเรียนก็เพิ่มมากขึ้น กลุ่มโรงเรียนเด่นหล้า พยายามปรับเปลี่ยน และสร้างสรรค์การเรียนการสอนที่เหมาะสมกับเด็กในยุคดิจิทัล
“ด้วยความคิดที่จะพัฒนาเด็กไทยให้มีความสามารถทัดเทียมระดับสากล ผนวกกับความตั้งใจที่จะตอบสนองความต้องการของพ่อแม่ในยุคนี้ ที่เห็นการสื่อสารได้หลายภาษาจึงเป็นที่มาของโรงเรียนนานาชาติ DBS ที่มีระบบการเรียนการสอนที่ดีและยังสามารถคงไว้ซึ่งความเป็นไทย”
ทั้งนี้ ต่อยศ ได้เผยถึงหลักการสำคัญ
“4 DBS ways” ของโรงเรียนนานาชาติ DBS เพื่อสร้างเด็กไทยไปสู่สังคมโลก คือ การใช้หลักสูตรอังกฤษเอกชนที่ได้รับการปรับปรุงให้เข้ากับบริบทสังคมไทยเป็นหลัก, ส่งเสริมให้เด็กไทยเก่งรอบด้านทั้งวิชาการและกิจกรรม, มีทักษะของความเป็นผู้ประกอบการ และคงความเป็นไทย
“เราเชื่อว่าแนวทางทั้งสี่นี้สามารถนำพา DBS ไปสู่เป้าหมาย ของการสร้างเด็กไทยให้ก้าวสู่การเป็น คนไทยที่มีความเป็นสากล (World Citizens) เมื่อเด็กๆเติบโตขึ้น และมีสามารถแข่งขันในระดับนานาชาติได้” ต่อยศ ปาลเดชพงศ์ กล่าว
ด้าน
เต็มยศ ปาลเดชพงศ์ กรรมการบริหาร โรงเรียนนานาชาติ DENLA BRITISH SCHOOL เผยถึงการแข่งขันของธุรกิจการศึกษาค่อนข้างสูง แต่เมื่อเกิดการแข่งขันผลดีตกต่อกับผู้บริโภค ทุกโรงเรียนจึงต้องพัฒนาในทุกๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพสูงสุดและทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดีให้กับนักเรียน ซึ่งจะกลายเป็นบุคคลที่มีคุณภาพของประเทศและของโลกต่อไปในอนาคต ซึ่งก็ตรงกับความต้องการของผู้ปกครองในปัจจุบัน
“โรงเรียนนานาชาติ DBS มีการเตรียมพร้อม และมีแผนการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเราเชื่อว่า ที่ DBS มีสิ่งที่โรงเรียนนานาชาติที่ดีระดับสากลควรมีครบ 4 องค์ประกอบ อย่างแรกคือ อาคารสถานที่ดี และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีคุณภาพเทียบเท่าระดับสากล, การมีครูที่ดีโดยครูเกือบทั้งหมดมาจากประเทศอังกฤษและทุกคนใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่, การมีทีมงานที่ดี ผู้บริหารและทีมงานที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และสุดท้าย คือ สภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ในห้องเรียน ที่ DBS มีโครงการทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เรียนดี มีทักษะภาษาดี และมีความสามารถโดดเด่น”
ทั้งนี้ในปัจจุบัน
โรงเรียนนานาชาติ DBS เปิดทำการสอนในระดับชั้น Early Year 1 ถึง Year 6 ช่วงอายุ 3 – 11 ปี มีนักเรียนราว 200 คน ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชั้น Early Year มีสัดส่วนนักเรียนชาวไทยราว 70-80% และสักส่วนเป็นบุตรของชาวต่างชาติที่มาทำงานในประเทศไทย โดยเป้าหมายระยะสั้นของ DBS คือการเปิดการเรียนการสอนในระดับชั้น Year 7 – 8 ภายในปี 2561 และเปิดต่อเนื่องไปจนถึงระดับชั้น Year 13 ในปีต่อๆ มา ซึ่งโรงเรียนสามารถรองรับนักเรียนได้ถึง 1,500 คน บนพื้นที่ 45 ไร่
ทั้งสองผู้บริหารเผยถึงเป้าหมายสำคัญของ
DBS คือการสร้างมาตรฐานการเรียนที่ทันสมัย ทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีการศึกษาเพื่อให้ได้การรับรองในการเป็น
Apple Distinguished School การสร้างนักเรียนคุณภาพโดย DHS ใช้ภาษาหลักในการสอนคือ
ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และ ภาษาจีน รวมถึงการลงทุนสร้างอาคารในเฟสที่สองเพื่อรองรับการเติบโตของโรงเรียนที่จะเกิดขึ้นหลังการลงทุนด้านการออกแบบและก่อสร้างไปแล้วราวพันล้านบาทสำหรับการก่อสร้างโรงเรียนนานาชาติในเฟสแรก